นายแอริค มาร์ค เลอวีน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ จำกัด (มหาชน) (CAWOW) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทวานนี้(6ม.ค.ปได้มีมติอนุมัติแผนเพิ่มทุนแล้ว และเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในการขายหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้ เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งหมดจะยังให้การสนับสนุนบริษัท โดยเฉพาะ บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) ที่ถือหุ้นในสัดส่วน 19%
"ทางผู้ถือหุ้นใหญ่ให้ความมั่นใจว่าจะเข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุน รวมทั้ง MAJOR ที่คุณวิชานั่งเป็นบอร์ด ก็ยืนยันว่าจะจองซื้อและยังเป็นพันธมิตรของบริษัทต่อไป จึงอยากให้รายย่อยซื้อหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ด้วย เพื่อเพิ่มเม็ดเงินลงทุเข้ามาเพิ่มเติม และราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ 0.45 บาท ถือเป็นราคาที่เหมาะสม และต่ำกว่าบุ๊ค ดังนั้นการเพิ่มทุนครั้งนี้น่าจะแล้วเสร็จในช่วง 29 ม.ค.-4 ก.พ.53"นายแอริค กล่าว
ทั้งนี้ CAWOW มีแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทจาก 321,952,000 บาท เป็น 723,952,899 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 402,000,899 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม อัตราส่วนการจองซื้อ 1 หุ้นเดิม ต่อ 1.34 หุ้นใหม่ ที่ราคา 0.45 บาท/หุ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CAWOW กล่าวว่า กลุ่มของตนเองและพันธมิตรถือหุ้น CAWOW ในสัดส่วน 49% ยืนยันว่าพร้อมใส่เงินเพิ่มทุน 90 ล้านบาทให้กับ CAWOW และทาง MAJOR ได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าจะเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้นแน่นอน จึงทำให้มั่นใจว่าการเพิ่มทุนจะสำเร็จและไม่กังวล เพราะทั้งสองกลุ่มถือหุ้นรวมกันราว 70% แล้ว
สำหรับ ผู้ถือหุ้นสามารถจองซื้อหุ้นดังกล่าวได้เกินกว่าสิทธิของตน โดยจะต้องทำการจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้นในส่วนที่เกินนี้พร้อมกับการจองซื้อและชำระเงินค่าจองซื้อของหุ้นที่ตนมีสิทธิจองซื้อตามส่วนในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.45 บาท โดยมอบอำนาจให้คณะกรรมการและ/หรือประธานกรรมการ และ/หรือบุคคลที่คณะกรรมการหรือประธานกรรมการมอบหมายกำหนดรายละเอียดอื่น ๆ ที่จำเป็นในการเสนอขายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมดังกล่าวได้ทุกประการ
ขณะที่ การเพิ่มทุนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปชำระหนี้และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ส่วนประโยชน์ที่ผู้ถือหุ้นจะพึงได้รับจากการเพิ่มทุน/จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนนั้น ในด้านนโยบายเงินปันผล ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและสำรองตามกฎหมายแล้วในแต่ละปี แต่คณะกรรมการของบริษัทมีอำนาจในการพิจารณายกเว้นไม่ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว หรือ เปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวได้เป็นครั้งคราว โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่การดำเนินการดังกล่าวจะต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น เช่น ใช้เป็นทุนสำรองสำหรับการชำระคืนเงินกู้ ใช้เป็นเงินลงทุนเพื่อขยายธุรกิจของบริษัท หรือกรณีมีการเปลี่ยนแปลงสภาวะตลาด ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อกระแสเงินสดของบริษัทในอนาคต อีกทั้งผู้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้จะมีสิทธิรับเงินปันผลจากการดำเนินงานเริ่มตั้งแต่ปีที่มีการซื้อหุ้นเพิ่มทุนเป็นต้นไป
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ให่ความแห็นถึงแนวโน้มการทำดำเนินธุรกิจของ MAJOR ไว้เมื่อเร็วๆนี้ว่า รายได้จากการขายตั๋วภาพยนตร์ในไตรมาส 4/52 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30% YoY ซึ่งจะมาจากภาพยนตร์ทำเงินที่ใกล้เคียงหรือเกิน 100 ล้านบาทจำนวน 4-5 เรื่องได้แก่ 2012, แหยมยโสธร2, Twilight: New Moon, รถไฟฟ้ามาหานะเธอ และอวตาร นอกจากจะมีภาพยนตร์ทำเงินหลายเรื่องเข้าฉายแล้ว รายได้จากการขายตั๋วในไตรมาส 4/52 ยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาเฉลี่ยของตั๋วบัตรชมภาพยนตร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากการนำกลยุทธ์การตั้งราคาตั๋วไม่เท่ากันมาใช้ เช่น การคิดราคาตั๋วแพงขึ้นในสาขาที่มีผู้ชมจำนวนมาก หรือในช่วงเวลาที่มีผู้ชมหนาแน่น
โดยภาพรวมกำไรหลักในไตรมาส 4/52 ที่มีแนวโน้มดีขึ้นซึ่งจะมาจาก (1) การดีดกลับของยอดขายบัตรชมภาพยนตร์ (2) การรับรู้รายได้ค่าเช่าล่วงหน้าประมาณ 100 ล้านบาทของสาขารัตนาธิเบศร์ (กระทบกำไรสุทธิให้เพิ่มขึ้นประมาณ 50 ล้านบาท) (3) การรับรู้ผลขาดทุนของ CAWOW ที่ลดลงเนื่องจาก MAJOR ลดการถือหุ้นใน CAWOW ลงจาก 37% เหลือ 19% (4) การฟื้นตัวพอประมาณของรายได้โฆษณาในโรงภาพยนตร์ถ้าเปรียบเทียบ QoQ (คาด 150-160 ล้านบาทในไตรมาส 4/52 เทียบกับ 128 ล้านบาทในไตรมาส 3/52)
สำหรับ MAJOR มีราคาเป้าหมายในปี 2553 ที่ 10.20 บาท ประเด็นการลงทุนอยู่ที่การคาดการณ์ผลการดำเนินงานหลักที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญในปี 2553 จากภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จำนวน 4-5 เรื่อง การรับรู้รายได้จากสาขารัตนาธิเบศร์เต็มปี การฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญของโฆษณาในโรงภาพยนตร์ รวมถึงการรับรู้ผลขาดทุนของ CAWOW ที่น้อยลง
|