|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นายวัฒนันต์ เซี่ยงเห็น กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าโอเชียน ช้อปปิ้ง มอลล์ ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “โอเชียน ช้อปปิ้ง มอลล์” ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นในภูเก็ต อัดงบอีก 100 ล้านบาท ปรับปรุงห้างสรรพสินค้าทั้ง 3 แห่ง รับการเข้ามาของห้างใหญ่ๆและเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น หลังจากตลอดปี 52 ยอดขายรวมลดลง 10% จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายสินค้าลดลงตามไปด้วย
นายวัฒนันต์ เซี่ยงเห็น กรรมการผู้จัดการ ห้างสรรพสินค้าโอเชียน ช้อปปิ้ง มอลล์ จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าของนักลงทุนในภูเก็ต กล่าวถึงการปรับตัวของห้างท้องถิ่น เพื่อรับการเข้ามาของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ว่า ที่ผ่านมาได้มีการร่วมมือกับบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการบัตรเครดิต เคทีซี ในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อคืนกำไรให้แก่ลูกค้าในการจับจ่ายซื้อสินค้า ทั้งลูกค้าผู้เป็นสมาชิกของบัตรเครดิตเคทีซีและบัตรเครดิตเคทีซี- โอเชียนไทเทเนียม มาสเตอร์การ์ด เช่น การสะสมคะแนนแลกซื้อสินค้า การเลือกรับของสมนาคุณเมื่อมียอดการซื้อสินค้าตามที่กำหนด การจัดโรดโชว์พร้อมมอบสิทธิพิเศษในการลุ้นรับรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เป็นต้น
นอกจากจะมีการปรับปรุงห้างสรรพสินค้าทั้ง 3 สาขา คือ โอเชียน ช้อปปิ้ง มอลล์ ในตัวเมืองภูเก็ต โดยการเพิ่มศูนย์อาหารย้อนยุคที่เน้นอาหารพื้นเมืองของภูเก็ตเป็นหลัก ส่วนโอเชียน พลาซ่าป่าตอง สาขาหน้าหาดป่าตอง จะมีการปรับปรุงพื้นที่บริเวณชั้น 3 ให้เป็นศูนย์รวมอาหารพื้นเมือง อาหารทั่วไปและอาหารสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 35 บาท โดยมีจุดเด่นสามารถมองเห็นวิวบริเวณชายหาดป่าตองได้ 180 องศา และสุดท้ายโอเชียน พลาซ่าป่าตอง สาขาซอยบางลา จะปรับปรุงชั้นบนสุดให้เป็นศูนย์เอนเตอร์เทนเมนต์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตัดสินใจว่าจะทำในลักษณะใด โดยมีแนวคิด 2 รูปแบบ คือ จัดการแสดงโชว์ต่างๆ หรือให้เป็นซีฟูดมาร์เกต ซึ่งทั้งหมดนี้จะดำเนินการภายในปีนี้ และการปรับปรุงทั้ง 3 สาขา ต้องใช้งบในการดำเนินการรวมประมาณ 100 ล้านบาท
“เหตุที่เลือกเพิ่มบริการทางด้านอาหาร เป็นผลมาจากการศึกษาวิจัยตลาดจากลูกค้าที่เป็นทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะอาหารถือเป็นปัจจัย 4 ที่มีความจำเป็นสำหรับทุกคน โดยสร้างจุดเด่นด้วยการนำอาหารพื้นเมืองมาจำหน่าย เพื่อให้ผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวหรือคนท้องถิ่นได้ลิ้มลองรสชาติของอาหารที่แตกต่างไปจากอาหารที่จำหน่ายอยู่ทั่วๆ ไป เโดยสาขาในตัวเมืองภูเก็ตนั้นคาดว่าจะมีลูกค้ามาใช้บริการไม่ต่ำกว่า 1,000 คน และสาขาหน้าหาดไม่ต่ำกว่า 100 คน ” นายวัฒนันต์ กล่าวและว่า
สำหรับผลประกอบการในปี 2552 ทั้ง 3 สาขา มียอดขายติดลบประมาณ 10% โดยเฉพาะสาขาหาดป่าตองทั้ง 2 สาขามียอดขายลดลงมากกว่าสาขาในตัวเมืองภูเก็ต ทั้งนี้เนื่องจากกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เมื่อภาวะเศรษฐกิจไม่ดี นักท่องเที่ยวก็มีความระมัดระวังในเรื่องของการใช้จ่ายซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวจะซื้อสินค้าก็ต่อเมื่อมีการจัดโปรโมชันลดราคาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งห้างจะมีการจัดโปรโมชันด้วยการลดราคาสินค้าให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มยอดขายที่ลดลงไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในปีนี้ยอดขายน่าที่จะดีขึ้น เพราะขณะนี้เริ่มมีสัญญาณบางอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลกเริ่มจะฟื้นตัว นักท่องเที่ยวก็จะเข้ามาภูเก็ตและจับจ่ายซื้อสินค้ามากขึ้น ซึ่งดูได้จากยอดขายนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา เริ่มขยับเป็นบวกมากขึ้น ซึ่งหวังว่า หากไม่มีปัญหาอะไรยอดการขายจะโตขึ้นประมาณ 10%
ด้านนายธีรพจน์ โชคอนันตัง ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานธุรกิจบัตรเครดิตเคทีซี หรือบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของบัตรเคทีซีได้ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าท้องถิ่นมาเป็นเวลาร่วม 3 ปีแล้ว ซึ่งมีผลตอบรับเป็นอย่างดี ปัจจุบันมีสมาชิกแล้วประมาณ 4,000 ราย มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเฉลี่ยเดือนละประมาณ 10,000 บาท
ที่ผ่านมาก็จะมีการจัดกิจกรรมร่วมกันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อตอบแทนสมาชิกผู้ถือบัตร โดยให้นำคะแนนจากการซื้อสินค้าผ่านบัตรมาแลกของสมนาคุณ ซึ่งเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวันเพื่อแบ่งเบาภาระในภาวะที่เศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก นอกจากนี้ยังมีการมอบรางวัลพิเศษ เป็นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก โดยจากบริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด
ส่วนการเติบโตของจำนวนสมาชิกบัตรเคทีซี นายธีรพจน์ กล่าวว่า ในปี 2552 มีการเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้การอนุมัติทำได้ยากขึ้น โดยมีการเติบโตเพียงประมาณ 10 % ซึ่งค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา ส่วนแนวโน้มในปีนี้หากไม่มีปัญหาอะไรทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น เนื่องจากเราได้ผ่านช่วงที่ตกต่ำที่สุดมาแล้ว แต่คงไม่เติบโตแบบหวือหวามากนัก โดยจะค่อยเป็นค่อยไปในลักษณะของตัวยู เห็นได้จากยอดเงินจากการใช้บัตรซึ่งไม่ได้ลดลงเลย
|
|
|
|
|