ASTVผู้จัดการรายวัน – “อสมท” ทุ่มงบ 500 ล้าน กรำศึกนิวมีเดีย ผุดทั้งทีวีดาวเทียม ทีวีออนโมบายและพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อสร้างช่องทางหารายได้ หวังสัดส่วนจากนิวมีเดีย 20%

นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปี 2553 นี้ มีการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีที่เริ่มกลับมาดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ อสมท วางแผนที่จะขยายธุรกิจในปีนี้เต็มที่ และตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 10% หรือคาดจะมีรายได้รวมประมาณ 4,800 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปี 2552 อสมท มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดไว้ว่าจะเติบโตเพียง 7% เป็นผลมาจากการที่สื่อทีวีได้รับอานิสงส์จากการใช้งบของ ยูนิลีเวอร์ เพิ่มขึ้น แต่ในส่วนของสื่อวิทยุไม่ค่อยเติบโต แต่ก็ยังดีกว่าตลาดรวมวิทยุที่ตกลง 11%

สำหรับงบลงทุนในปีนี้ เบื้องต้นจะใช้รวม 500 ล้านบาท เพื่อขยายสื่อใหม่ๆ (นิวมีเดีย) เพื่อเป็นช่องทางในการเข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น และยังเป็นการสร้างรายได้จากโฆษณาเพิ่มขึ้นด้วย จากเดิมที่มีรายได้หลักมาจากโฆษณาผ่านฟรีทีวีช่องโมเดิร์นไนน์เป็นหลักเท่านั้น ประมาณ 60% วิทยุ 20% และค่าสัมปทานจากช่อง 3 และทรูวิชั่นส์ 20%

“งบประมาณการลงทุนปีนี้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะอสมท มีกระแสเงินสดประมาณ 3,000 ล้านบาท ถ้าลงทุนตามแผนงานใหม่นี้แค่ 500 ล้านบาท จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อฐานะของบริษัทในอนาคต”

นายธนวัฒน์ กล่าวว่า การลงทุนครั้งนี้ เพื่อต้องการสร้างช่องทางรายได้เพิ่ม เนื่องจากในอนาคตอาจจะได้รับผลกระทบจากรายได้ที่เกิดจากค่าสัมปทานหดหายไปหลังจากที่อายุสัมปทานสิ้นสุดลง ทำให้ช่วง 2-4 ปีจากนี้ ต้องมุ่งมั่นในการพัฒนานิวมีเดียอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากนิวมีเดีย ช่วงแรก 20% ซึ่งเท่ากับ สัดส่วน2% ของรายได้ที่มาจากค่าสัมปทาน

ส่วนแผนการลงทุนนั้น จะใช้งบ 100 ล้านบาท ขยายช่องทีวีดาวเทียมอีก 3 ช่อง ผ่านทางทรูวิชั่นส์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในกลางเดือนนี้ จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 2 ช่อง คาดว่าจะเริ่มได้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ซึ่งจะทำให้ในปีนี้ อสมท มีทีวีดาวเทียมทั้งหมด 5 ช่อง คือ เอ็มคอท1 ช่องเกี่ยวกับข่าวสารสาระ ช่องเอ็มคอท2เกี่ยวกับอาเซียนทีวี เป็นระบบซีแบนด์

อย่างไรก็ตาม รูปแบบรายการช่องใหม่นั้นยังไม่สรุป อยู่ระหว่างการศึกษาถึงความเหมาสะม ซึงจะมีคอนเท้นต์ที่หลากหลาย แต่แนวทางนั้นจะมีทั้ง การลงทุนโดย อสมท การร่วมลงทุนกับเอกชน หรอืการร่วมมือทางด้านธุรจพันธมิตร

ส่วนสื่อเว็บไซต์นั้น ได้พัฒนาเว๊บไซต์ mcot.net เพือให้มีศักยภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการบริการ เอสเอ็มเอส หรือ เอ็มเอ็มเอส ซึ่งปัจจุบันเว๊บไซต์นี้เริ่มมีรายได้เข้ามาบ้างแล้ว และมีแนวโน้มจะดีขึ้นตามเทรนด์ของสื่อออนไลนที่เติบโตดีมากกว่า 40-50% มากกว่าสื่อฟรีทีวีที่เติบโตแค่ปี 2-3% เท่านั้น

ขณะที่ โครงการ ทีวีออนโมบาย นั้น คาดว่าในครึ่งปีหลังนี้จะมีความพร้อมและจะเปิดให้บริการได้ หลังจากที่ร่วมมือกับทาง บริษัท เอสเค เทเลคอม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของประเทศเกาหลี ได้ทำการทดลองออกอากาศรายการทีวีในระบบดิจิตอลผ่านโทรศัพท์มือถือในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลไปแล้วเมื่องช่วงต้นปี 2552 แต่ค่าบริการนั้นยังอยู่ระหว่างการศึกษา ว่าจะเก็บเป็นแบบประเภทสมาชิกรายเดือนหรือเก็บแบเพย์เปอร์วิว

“ผมเชื่อว่าการทำทีวีออนโมบายในตลาดเมืองไทยจะประสบความสำเร็จเหมือนในเกาหลี เพราะไทยใช้โทรศัพท์มือถือกันจำนวนมากกว่า 50 ล้านเครื่องซึ่งถือว่ามากพอสมควร” นายธนวัฒน์กล่าว.