Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2527








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2527
ภูเขาน้ำแข็งที่เริ่มโผล่ เงาทะมึนในวงการไฟแนนซ์ยังคงอยู่             
 

   
related stories

สหไฟแนนซ์ที่ไม่ใช่สหไทย แต่เจอชะตากรรมที่แย่กว่า
ฝ่ามือปราบมังกร 3 ท่า ของ จอมพลประภาส จารุเสถียร

   
search resources

Financing
สหไฟแนนซ์, บงล.
พัลลภ อัศวเนตรมณี
สหไทย, บงล.
โค้วเฮงท้ง
สยามเงินทุน, บงล.




เมื่อคราวที่พัฒนาเงินทุนล้มแล้วทางการได้ออกประกาศหามาตรการช่วยเหลือนั้น หลายคนในวงการคิดว่าปัญหาคงจะเริ่มดีขึ้น แต่นั่นก็เป็นเพียงแต่การปลอบใจตัวเองเท่านั้น

ถึงแม้ว่าเหตุการณ์จะดูเงียบสงบ และธนาคารชาติกำลังยุ่งกับมาตรการจำกัดสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์อยู่ จนทุกคนคิดว่าปัญหาไปแนนซ์ก็คงจะหมดสิ้นไปแล้ว จนกระทั่งข่าวการจับกุม สุพจน์ เดชสกุลธร เกิดขึ้นถึงจะเริ่มมีการเปลี่ยนไปมองว่าวงการไฟแนนซ์ยังสบายดีอยู่หรือ

ธนาคารชาติเองก็เคยพูดเปรยๆ ออกมาว่า ยังมีอีกหลายแห่งที่ทำท่าจะไม่ดีในช่วงที่โดนสื่อมวลชนวิพากษ์วิจารณ์ว่าธนาคารชาติไม่ได้ทำหน้าที่ที่ตัวเองควรจะทำ พอสื่อมวลชนถามว่า ถ้ารู้ว่าอันไหนไม่ดีทำไมไม่บอกประชาชนล่ะ ธนาคารชาติก็อ้างว่า ทำไม่ได้ อำนาจตามกฎหมายไม่ให้ จนกระทั่งรัฐมนตรีคลังหลังจากประชุมคณะรัฐมนตรีประกาศออกมาว่า ต่อไปนี้จะบอกให้ประชาชนทราบถึงบริษัทเงินทุนที่มีสภาพไม่ดีให้หมด แต่จนบัดนี้ธนาคารชาติก็ยังคงปิดปากเงียบ

ล่าสุดที่ประชาชนมาร้องทุกข์กับสื่อมวลชนก็มีอยู่หลายราย “ผู้จัดการ” จะขอรายงานเฉพาะรายที่หนักๆ ก่อนก็แล้วกัน

ที่เพียบที่สุดก็คือ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สหไทย จำกัด ซึ่งอยู่แถวสวนมะลิ ซึ่งกรรมการผู้จัดการคือ นายธงชัย หรือที่ในสังคมคนจีนเรียกกันว่า “โค้งเฮงท้ง”

บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สหไทยได้หยุดการจ่ายเงินทุกประเภทรวมทั้งการจ่ายดอกเบี้ยด้วยเป็นเวลามาร่วมสอง-สามเดือนแล้ว ทางบริษัทได้ให้สัญญาว่า ธนาคารแหลมทองจะเข้ามาบริหารแทน แต่ผู้ถือตั๋วจะต้องยอมรับเงื่อนไขการจ่ายเงินคืนภายในห้าปีพร้อมดอกเบี้ย 6% ซึ่งในสายตาของสหไทยแล้วดีกว่าไปให้สหธนกิจจ่ายภายใน 10 ปี และไม่มีดอกเบี้ย

ธนาคารแหลมทองเองก็อยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะตัวเองได้ถลำไปอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินของสหไทยไว้ไม่น้อย (ตัวเลขตามที่แหล่งข่าวให้มาไม่ตรงกัน แต่เชื่อว่าคงจะอยู่ในวงเงินหลายร้อยล้านบาท)

ธนาคารแหลมทองเองก็ไม่ใช่สถาบันการเงินที่มีฐานใหญ่มารองรับสหไทยได้อย่างไม่ติดขัด ทรัพย์สินรวมของธนาคารแหลมทองก็มากกว่าสหไทยเพียงสองเท่าเอง เงินฝากประชาชนก็แค่ 2,000 ล้าน มิหนำซ้ำธนาคารแหลมทองยังมีภาระการอาวัลตั๋วสัญญาใช้เงินของกลุ่มสุระ จันทร์ศรีชวาลา อีกก้อนหนึ่ง (รายละเอียดใน “ผู้จัดการ” ฉบับที่ 4 เดือนธันวาคม 2526)

ธนาคารแหลมทองได้มีการเพิ่มทุนขึ้นเป็นการด่วนแต่การเข้าไปในสหไทยนั้นก็ยังไม่มีอะไรเด็ดขาด ก็คงจะต้องอีกสักพักหนึ่งที่ธนาคารชาติจะได้ต้อนรับขบวนของผู้ถือตั๋วสหไทย

อีกรายหนึ่งอยู่แถวๆ สี่แยกราชวงศ์ข้างๆ ห้างใต้ฟ้าเก่า คือ บริษัทเงินทุนสหไฟแนนซ์ จำกัด ซึ่งกรรมการผู้จัดการได้หลบหนีหายเข้ากลีบเมฆ

พัลลภ อัศวเนตรมณี กรรมการผู้จัดการเงินทุนสหไฟแนนซ์ กำลังมีคนอยากพบอยู่มาก แต่คงจะมีโอกาสได้พบยาก

พัลลภเองก็ไม่ใช่ใครที่ไหนอดีตเป็นเจ้าของกิจการประเภทอาบอบนวดอยู่แถวๆ ย่านคนจีน มีเงินขึ้นมาบ้างก็จับแพะชนแกะเอาเงินคนอื่นมาตั้งบริษัทเงินทุน แล้วก็เอาคุณสมบัติเจ้าของโรงนวดเข้ามาบริหารเงิน (อันนี้ก็ต้องไปถามธนาคารชาติว่า ทำไมถึงไม่คัดเลือกคุณสมบัติคนให้ดีหน่อยทั้งที่กฎหมายเก่าก็ให้อำนาจมากพออยู่แล้ว

สำหรับรายบริษัทเงินทุนสหไฟแนนซ์ก็ยังไม่ได้มีเสียงตอบมาจากธนาคารชาติ

ล่าสุดในขณะนั้นคือบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์สยามเงินทุน ของ นายฟู ฟูคุณหลอง ที่เคยมีข่าวเกรียวกราวมาครั้งหนึ่งในเรื่องสัมปทานการทำแร่ที่อ่าวกะรน ภูเก็ต เมื่อไม่กี่ปีมานี้

ฟู ฟูคุณหลอง (คนสิงคโปร์แปลงสัญชาติเป็นไทย) เป็นเจ้าของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สยามเงินทุน ซึ่งตั้งอยู่ชั้นล่างของอาคารสีบุญเรือง 1 ริมถนนสีลม ได้ออกแถลงการณ์มา 3 หน้า สรุปสั้นๆ ว่า ตอนนี้ไม่มีเงิน เพราะเอาเงินไปทำเหมืองที่ภูเก็ต แล้วถูกรัฐบาลถอนสัมปทาน ขณะนี้กำลังฟ้องรัฐบาลอยู่ ฉะนั้นขอให้ผู้ถือตั๋วใจเย็นๆ เอาไว้

ในกรณีสยามเงินทุนหลังจากได้อ่านแถลงการณ์แล้วก็เห็นได้ชัดว่า มันเป็นบทพิสูจน์อีกบทหนึ่งถึงการล้มหรือความง่อนแง่นของทรัสต์ว่า ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะเจ้าของหรือผู้บริหารทรัสต์ได้เอาเงินฝากประชาชนไปลงทุนในกิจการของตัวเอง ซึ่งถ้ากิจการร่ำรวยของตัวเองก็เท่ากับจับเสือได้ด้วยมือเปล่า แต่ถ้ากิจการย่ำแย่อย่างกรณีเหมืองของนายฟู ฟูคุณหลอง ผู้ฝากเงินก็ต้องมาเอาเรื่องกับนิติบุคคล เช่น บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สยามเงินทุนเอง

ธนาคารชาติก็คงจะเงียบต่อไปตามแบบฉบับของบรรดาผู้ได้เงินเดือนสูง มีปริญญาจากต่างประเทศ และมีลักษณะของนักวิชาการที่ถูกอยู่ฝ่ายเดียว

เอาเป็นว่า “ผู้จัดการ” จะคอยรายงานให้เป็นระยะๆ กับท่านผู้อ่านก็แล้วกัน ถึงแม้ที่นี่จะไม่ได้กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน แต่จะทำหน้าที่แจ้งอะไรดีหรือไม่ดีให้แทนผู้ที่กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน ก็แล้วกัน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us