นอกจากจะเป็นจุดเชื่อมต่อทางด้านการค้า การท่องเที่ยวระหว่างเวียดนามและรัสเซียแล้ว สนามบินนานาชาติแห่งใหม่ที่กามราญยังเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นสายสัมพันธ์ดั้งเดิมของทั้ง 2 ประเทศที่เคยใกล้ชิดกันมาก่อน
เว็บไซต์ BBC ภาษาเวียดนาม รายงานว่าสนามบินกามราญ จังหวัดค้าญหว่า จังหวัดทางภาคกลางตอนล่างของเวียดนาม กลายเป็นสนามบินนานาชาติ แห่งใหม่ด้วยเที่ยวบินแรก ซึ่งบินระหว่างวลาดิวอสต็อก (Vladivostok) ของรัสเซีย กับกามราญที่เปิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยมีผู้โดยสารชาวรัสเซียเดินทางมาจากวลาดิวอสต็อกจำนวน 130 คน
ผู้ที่เปิดเผยข่าวดังกล่าวได้แก่ หวอ เลิม ฟี ประธานคณะกรรมการประชาชน จ.ค้าญหว่า และตัวแทนส่วนหนึ่งของบริษัทการบินจากรัสเซียคือ Vladivostock Avia และ Transero Airlines รวมถึงหุ้นส่วนสัญชาติเวียดนามในบริษัทของรัสเซีย คือบริษัทมิญเหญิต
เที่ยวบินระหว่างวลาดิวอสต็อกกับกามราญมีเป้าหมายส่งเสริมจำนวนผู้โดย สารชาวรัสเซียให้มาท่องเที่ยวที่ จ.ค้าญหว่า
กามราญและ จ.ค้าญหว่าเป็นที่คุ้น เคยของชาวรัสเซีย นับตั้งแต่เมื่อกองทัพรัสเซียได้รับสิทธิใช้ท่าเรือทหารกามราญ
ข้อตกลงฉบับหนึ่งลงนามระหว่างทั้ง 2 รัฐ กองเรือมหาสมุทรแปซิฟิกของกองทัพเรือรัสเซียสามารถใช้ท่าเรือกามราญ เป็นเวลา 25 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2522
ที่นี่เคยเป็นฐานทัพเรือใหญ่ที่สุดของอดีตสหภาพโซเวียตนอกอาณาเขตประเทศนี้
อย่างไรก็ดี การปฏิบัติงานของกองทัพเรือรัสเซียได้ลดขนาดลงทีละน้อย พร้อมกับการยุติสงครามเย็น เมื่อปี พ.ศ. 2545 ก่อนข้อตกลงเช่าหมดอายุรัสเซียก็ได้ถอนตัวออกจากสถานที่แห่งนี้ทั้งหมด
หลังจากนั้นเวียดนามประกาศว่าจะไม่ใช้กามราญสำหรับเป้าหมายทางทหาร ต่อไปอีก ถึงแม้มีข่าวว่าสหรัฐอเมริกาต้อง การเช่ากามราญเพื่อภารกิจในยุทธศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิกของตนก็ตาม
ตามข้อตกลงใหม่กับสายการบินรัสเซีย เที่ยวบินเชื่อมกามราญและวลาดิวอสต็อกจะบินประมาณ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้งด้วยความหวังจะเพิ่มความถี่เที่ยวบิน ขึ้นอีกในอนาคต
เครื่องบินเครื่องแรกที่ได้ใช้ในเส้นทางบินนี้คือ Tu 204 ของรัสเซีย
ผลการเปิดสนามบินนานาชาติกามราญทำให้โรงแรมต่างๆ ใน จ.ค้าญหว่า มีโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการลดราคาค่าห้องพักลงประมาณ 50-70%
เพื่อต้อนรับบรรดาเที่ยวบินนานาชาติที่จะบินมายังสนามบินแห่งนี้สนามบินกามราญได้ลงทุน 200,000 ล้านด่อง (400 ล้านบาท) ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่รวมถึงศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ ทางวิ่งและสิ่งอำนวยความสะดวก พื้นฐานด้านเทคนิคต่างๆ
อาคารผู้โดยสารมีความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ชั่วโมงละ 600 คนเพิ่มขึ้นสองเท่าของอาคารหลังเดิม
หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรมการค้าของเวียดนามรายงานว่าก่อน หน้านี้นายกรัฐมนตรีเวียดนามลงนามใน โครงการขยายสนามบินนานาชาติกามราญ ตั้งแต่เมื่อกว่า 2 ปีที่แล้ว ด้วยค่าใช้จ่าย 300,000 ล้านด่อง (ประมาณ 600 ล้านบาท) โดยบริษัทใหญ่ท่าอากาศยานภาคใต้ เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างอาคารสถานีใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน
ภายหลังการทำงาน 19 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2550 ถึงสิงหาคม 2552 อาคารสถานีสนามบินนานาชาติกามราญก็ได้เปิดทดลองใช้เป็นระยะเวลา 4 เดือน จนเมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา จึงได้จัดพิธีเปิดใช้อย่างเป็นทางการด้วยเที่ยวบินสายปฐมฤกษ์ดังกล่าว
หากเทียบกับสนามบินญาตรางที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งดำเนินงานตั้งแต่ปี 2533-2547 จำนวนผู้โดยสารภายในประเทศ ได้เพิ่มขึ้นทุกวัน แต่มีความถี่ในการบินเพียง 2-5 เที่ยวบินต่อวัน ในขณะที่สนามบินกามราญที่เพิ่งดำเนินงานในเวลาสั้นๆ มีความถี่ 10 เที่ยวบินต่อวัน
นอกจากเที่ยวบินระหว่างประเทศ วลาดิวอสต็อก-กามราญที่เพิ่งเปิดบินดังกล่าวแล้ว เฉพาะปริมาณผู้โดยสารทั้งขาเข้า-ขาออกของ Vietnam Airlines ที่มายังสนามบินแห่งนี้เพิ่มขึ้นทุกปีจากปี 2550 ซึ่งมีผู้โดยสาร 512,000 คน ในปี 2551 มีผู้โดยสาร 553,200 คน เพิ่มขึ้น 10.8% และจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2552 ถึงแม้ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก แต่มีปริมาณผู้โดยสารมาใช้สนามบินกามราญถึง 577,911 คน ยังคงเพิ่มขึ้นกว่า 10%
ปริมาณผู้โดยสารมาที่นี่ไม่เพียงเป็น นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามโพ้นทะเล แต่ยัง เป็นบรรดานักธุรกิจที่กำลังแสวงหาโอกาสลงทุน ติดต่อการค้าที่ จ.ค้าญหว่า และจังหวัดใกล้เคียง
สิ่งนี้แสดงให้เห็นการพัฒนาที่รวดเร็วทุกด้าน พลังดึงดูดเข้มแข็งของระบบกลไก นโยบายให้สิทธิพิเศษในการลงทุน การเปิดใช้สนามบินกามราญส่วนขยายใหม่อย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นโอกาสใหญ่ในการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งภาค
หวอ เลิม ฟี ประธานคณะกรรมการประชาชน จ.ค้าญหว่า แสดงสุนทรพจน์ว่า ท่าอากาศยานนานาชาติกามราญประทับรอยหัวเลี้ยวหัวต่อให้ จ.ค้าญหว่า และเขตภาคกลางตอนล่างเป็นสะพานเชื่อมภาค ใกล้เคียง ช่วยเหลือซึ่งกัน และกัน สร้างความสะดวก ในการพัฒนาบนทุกเขตเศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
นอกจากนี้ก็เรียก ร้องให้บริษัทท่าอากาศ ยานนานาชาติกามราญต้องปฏิบัติตามหน้าที่สำคัญต่างๆ เช่น การท่าอากาศยานต้องรับประกันความปลอดภัยทุกกิจกรรมที่สนามบินเป็นเจ้าภาพ ประสานงานกับหน่วยงานบริหารจัดการใช้ประโยชน์ประกอบการตามข้อกฎหมาย โดยเฉพาะการกักตรวจโรคทางด้านสาธารณสุข เพราะการเดินอากาศเป็นสภาพแวดล้อมที่สะดวก สำหรับโรคติดต่อมีโอกาสแพร่กระจายการจัดการกรณีละเมิดการกักตรวจโรคทางด้านสาธารณสุขตามช่องทางที่กำหนด เฉพาะฝ่ายความมั่นคงและศุลกากรต้องรับผิดชอบจัดการและทำตามระเบียบการเข้า-ออกเมืองควบคุมอย่างรัดกุม ทั้งผู้โดย สาร ลูกเรือ และสินค้าชนิดต่างๆ รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ขณะเดียวกันก็มีบทลงโทษ มีมาตรการจัดการต่อพฤติการณ์ละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ และการละเมิดกฎหมายศุลกากร
ในเช้าวันเดียวกับพิธีเปิด นอกจากเที่ยวบินสายปฐมฤกษ์แล้วยังมีเครื่องบินนานาชาติอีก 2 เที่ยวบิน ที่มาลงยังสนามบินนานาชาติกามราญเที่ยวบินหนึ่งมาจาก มาเลเซีย และอีกเที่ยวบินหนึ่งของบริษัทเดิน อากาศ Transaero จากสหพันธรัฐรัสเซีย เฉพาะหน้า บริษัทจะจัด 2 เที่ยวบินจาก Moscow-Tashkent-Cam Ranh และ Vladivostok-Cam Ranh ด้วยความถี่ 10 วันหรือ 1 สัปดาห์ต่อเที่ยวบิน ตามปริมาณ ผู้โดยสารซึ่งทางจังหวัดได้รณรงค์โรงแรม มาตรฐาน 3 ดาวขึ้นไป 14 แห่งจาก 21 แห่งให้นักท่องเที่ยวพักฟรีในโอกาสนี้ด้วย
จังหวัดค้าญหว่าทางภาคกลางตอน ล่างของเวียดนาม นอกจากเป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติกามราญแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของนครญาตราง เมืองที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดแห่งนี้
โดยในนครญาตรางแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ Vinpearl Land ระบบเคเบิลแขวนข้ามทะเลเพียงหนึ่งเดียวในเวียดนาม ที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะห่อนแตร เกาะที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว
ด้วยระบบเคเบิลแขวนข้ามทะเลนี้ นักท่องเที่ยวที่ไปนครญาตรางสามารถมอง เห็นตัวนครและทิวทัศน์อ่าวญาตรางจากระดับความสูง 60 เมตรจากระดับน้ำทะเล
ในปี 2551 ปริมาณนักท่องเที่ยวภายในประเทศและต่างประเทศที่มายังนคร ญาตราง มีจำนวน 1.2 ล้านคน และมีถึงกว่า 800,000 คน (เกือบ 70%) ไปพักผ่อน และชมทิวทัศน์ที่เขตท่องเที่ยวและพักผ่อน หย่อนอารมณ์ที่ Vinpearl Land เกือบทั้งหมดใช้เคเบิลแขวน Vinpearl Land เป็นยานพาหนะเดินทางและชมทิวทัศน์อ่าวญาตรางก่อนขึ้นเกาะ ที่สำคัญมีการพูดกันมากถึงความสำเร็จและแรงดึงดูดความสนใจของเคเบิลแขวน
เคเบิลแขวนดังกล่าวเริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายน 2549 เปิดเดินเครื่องเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2550 มีความสูงเฉลี่ย 45 เมตร สูงสุด 54 เมตรจากระดับน้ำทะเล สามารถรองรับเคบิน 65 เคบิน ชนิดเคบินละ 8 ที่นั่ง ด้วยขีดความสามารถบรรทุกสูงสุด 1,000-1,500 คนต่อชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเคเบิลแขวน Vinpearl เปิดให้บริการเพียง 47 เคบิน ชนิด 8 ที่นั่ง ด้วยขีดความสามารถ 1,000 คนต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางตลอดเส้นทาง เที่ยวละ 12 นาที ด้วยความเร็ว 6 เมตรต่อ วินาที สามารถปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย ในสภาพลมพายุระดับ 7 ระบบเคเบิลแขวน มี 9 เสา (7 เสาในทะเลและ 2 เสาบนฝั่ง) มีรูปแบบและโครงสร้างคล้ายหอ Eiffel ได้รับการติดตั้งระบบแสงสว่างด้วย Laser และไฟประดับเวลากลางคืน
|