“แอดว๊านซ์เนเจอรัล” เปิดเกมรุกหนักปี 2553 อัดงบ 60 ล้านบาท เน้นสร้างแบรนด์ เพิ่มสาขา ขยายฐานตลาด หลังปีนี้เปิดได้เพียงแห่งเดียว เพราะหาทำเลค่อนข้างยาก และเศรษฐกิจไม่ดี

นายวีรชัย เพชราเวช ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอดว๊านซ์เนเจอรัล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าเครื่องสำอางจากประเทศออสเตรเลีย และผู้บริหารศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพผิวและความงาม “แอดว๊านซ์เนเจอรัล สกิน แมแนจเมนต์ เซ็นเตอร์ (Advanced Natural Skin Management Center)” เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีแรก ( 2552-2554) บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะเน้นการสร้างแบรนด์ของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ “แอดว๊านซ์ เนเจอรัล” ให้มากขึ้น หลังจากที่ทำตลาดมาแล้วระยะหนึ่ง แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างขวางในตลาดมากนัก

“การรุกตลาดในเมืองไทยระยะแรกนี้ ยังไม่มุ่งหวังในเรื่องของตัวเลขหรือผลกำไรมากนัก เพราะเป็นช่วงของการลงทุน แต่เราจะเน้นไปที่การสร้างแบรนด์มากกว่า ซึ่งปัจจุบันธุรกิจความงามมีการแข่งขันที่รุนแรงมาก ซึ่งแต่ละค่ายก็มีกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อสร้างยอดขายให้กับตนเอง ซึ่งเราเป็นแบรนด์น้องใหม่ก็พยายามแทรกตัวเข้าตลาดให้ได้ ตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 3 ปี จะต้องเป็น 1 ใน 10 แบรนด์สูงสุดของตลาดสกินแคร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศได้”

เนื่องจากว่า ช่องทางหลัก ยังมีเพียงสาขาเดียวคือ ร้านแอดว๊านซ์ เนเจอรัล ที่ เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และมีจำหน่ายรวมทั้งให้บริการสปาที่ รอยัลเนเจอรัลสปา ที่ถนนสุรวงศ์ เพียงสาขาเดียวเช่นกันเท่านั้น ซึ่งเปิดบริการมาแล้ว 4 ปี

โดยตั้งงบประมาณลงทุนปีหน้าไว้ที่ 60 ล้านบาท ในการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 2-3 สาขา ซึ่งอย่ระหว่างการเจรากับค้าปลีกรายใหญ่ทั้งเซ็นทรัลและเดอะมอลล์ เพื่อเปิดเคาน์เตอร์บริการ ขณะที่ปีนี้วางแผนจะเปิด 2-3 สาขาเช่นกัน แต่เปิดได้เพียงสาขาเดียวเนื่องจากการหาทำเลดีๆค่อนข้างลำบากและสภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดีด้วย

นอกจากนั้นก็ยังใช้เป็นงบในการทำตลาด ทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ในสื่อนิตยสารบันเทิงเป็นหลัก และรายการโทรทัศน์ด้วย ใช้ในการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมต่างๆเช่น การดึงกลุ่มผู้มีชื่อเสียงในวงสังคมมาทดลองใช้สินค้าและบริการ

สำหรับผลิตภัณฑ์ แอดว๊านซ์ เนเจอรัล นำเข้ามาจากออสเตรเลียทั้งหมด กลุ่มเป้าหมามีทั้งผู้หญิงและผู้ชายวัยทำงานที่มีความสนใจเรื่องการดูแลผิวพรรณ มีรายได้ระดับปานกลาง ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้ามากกว่า 2,000 ราย และมีสมาชิกประมาณ 300 คน ราคาสินค้าตั้งแต่ 450-2,600 บาท และมีให้เลือกมากกว่า 100 รายการ ส่วนการทำทรีทเมนท์นั้นเริ่มตั้งแต่ 500-2,200 บาทต่อครั้ง ซึ่งในช่วงสิ้นปีนี้บริษัทฯจัดโปรโมชั่นด้วยการลดราคาสินค้าและบริการ 20-25%

สำหรับรายได้รวมในปีนี้ คาดว่าจะมีประมาณ 10 กว่าล้านบาท ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะมียอดรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 20-30 ล้านบาท เนื่องจากมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นและรุกการทำตลาดผลิตภัณฑ์มากขึ้นด้วย