ASTV ผู้จัดการรายวัน - ทีโอทีอวดกำไรสุทธิงวด 10 เดือนปีนี้โต 21 % ผลจากความสามารถในการลดค่าใช้จ่ายได้ถึง1,771.7 ล้านบาท หรือ 3.2 % มั่นใจ กำไรสุทธิปีนี้ทั้งปีโตจากปีก่อน ระบุปีหน้าลุ้นรายได้รวมโตตามกระแสเศรษฐกิจฟื้นตัว
นายวรุธ สุวกร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานรอบ 10 เดือน(ม.ค.-ต.ค.52) ทีโอทีมีกำไรสุทธิ 6,047.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.1% หรือคิดเป็นมูลค่า 1,052.2 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเพียง 4,995 ล้านบาท โดยสาเหตุที่ทำให้ทีโอทีมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็นเพราะ สามารถลดค่าใช้จ่ายลดลงเป็น53,021.4 ล้านบาท ลดลง1,771.7 ล้านบาท หรือ 3.2 % จากงวด 10เดือนของปีก่อนที่มีค่าใช้จ่าย 54,793.1 ล้านบาท
ในขณะที่รายได้รวมงวด 10 เดือนของทีโอทีปีนี้ 59,068.6 ล้านบาทลดลง 719.5 ล้านบาท หรือ 1.2 %ที่มีรายได้รวมทั้งสิ้น 59,788.1 ล้านบาท
ทั้งนี้สำหรับส่วนแบ่งรายได้จากสัญญาร่วมการงานงวด 10 เดือนของทีโอทีในปีนี้อยู่ที่ 17,742.4 ล้านบาท ลดลง 927 ล้านบาท หรือ 5 % จากงวด 10 เดือนของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 18,669.4 ล้านบาท
ส่วนรายได้จากการดำเนินงานของทีโอทีในงวดดังกล่าวอยู่ที่ 22,355 ล้านบาทลดลง 516.3 ล้านบาท หรือ 2.3 % จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 22,871.3 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีทีโอทีคาดว่ากำไรสุทธิ ของทีโอทีในปีนี้จะมีประมาณ 5,700-5,800 ล้านบาทสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 5,600 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมทั้งปีของทีโอทีในปีนี้จะอยู่ที่ 70,000 ล้านบาทซึ่งลดลงจากปี51 ประมาณ
สำหรับรายได้รวมในปีหน้าทีโอทีได้ตั้งเป้าไว้ที่ 69,000 ล้านบาท แต่หากเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศสามารถฟื้นตัวได้ตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์คาดว่ารายได้รวมของทีโอทีจะสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีนี้ราว 3 % ส่วนในแง่กำไรสุทธิปีหน้าคาดว่าจะต่ำกว่าปีนี้เนื่องจากทีโอทีมีภาระรายจ่ายเกี่ยวกับข้อพิพาทภาษีสรรพสามิต ประมาณ2,900 ล้านบาทที่ต้องจ่ายในปีดังกล่าว
นายวรุธกล่าวต่อว่า รายได้จากสัมปทานมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องสาเหตุจากอัตราค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) ปรับตัวลดลงเรื่อยๆ ประกอบกับจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์พื้นฐานของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) และบริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด(มหาชน) ยังคงลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ฉะนั้นคาดว่าปีนี้ทั้งปีทีโอทีจะมีรายได้จากสัญญาสัมปทาน 20,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 22,000 ล้านบาท และในปีหน้าคาดว่าทีโอทีจะมีรายได้จากสัญญาสัมปทานเพียง 18,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ดีทีโอทีได้ขยายเวลาการลดการพึ่งพารายได้จากสัญญาสัมปทานออกไปเป็นปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่อายุสัญญาสัมปทานของเอไอสสิ้นสุด จากเดิมที่วางไว้ในปี 2555 เนื่องจากเห็นทางสภาพเศรษฐกิจส่งผลให้ทีโอทียังต้องพึ่งพารายได้จากสัญญาสัปทาน
ทั้งนี้ในปีหน้าทีโอทีวางงบประมาณสำหรับการลงทุน 8,000-9,000 ล้านบาท โดยการลงทุนส่วนใหญ่จะเน้นการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีเป็นเทคโนโลยีที่ที่ทันสมัยขึ้นอย่าง NGN รวมถึงอาจจะใช้ในการลงทุนเพิ่มคุณภาพโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3 G ในกรุงเทพและปริมณฑลให้ครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากนี้ทีโอทียังใช้งบประมาณส่วนดังกล่าวสำหรับการเพิ่มพื้นที่ให้บริการ ไฟเบอร์ทูยู
จากปัจจุบันให้บริการในจังหวัดภูเก็ต ออกไปยังพื้นที่พัทยา ศรีราชา ชลบุรี สุราษฏร์ธานี และนครหลวง รวมถึงใช้ในการปรับปรุงโครงข่ายที่มีอยู่
|