คำว่า “ช้าง” นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของ “ปูนซิเมนต์ไทย” และเครือข่ายอีกหลายสิบบริษัทแล้ว
ยังหมายถึงกิจการที่ลงหลักปักฐานจนยิ่งใหญ่ประดุจ “ช้าง” แห่งหนึ่งด้วย
ดังนั้นเมื่อ “ช้าง” จะมีพิธีเปิดตึกสำนักงานใหญ่ที่บางซื่อพร้อมกับเฉลิมฉลองการมีอายุก่อตั้งครบ
70 ปี ใครก็อดคิดไม่ได้ว่า พิธีนี้คงจะเป็นงานเลี้ยง “ช้าง” เพื่อความสมเนื้อสมตัวเป็นธรรมดา
โดยเฉพาะแขกเหรื่อย่อมต้องมีบุคคลระดับยอดสุดในทุกสถาบันมาร่วมแน่นอน
แต่เอาเข้าจริง หลายคนคงรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่งานที่ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบๆ
ง่ายๆ แขกสำคัญมากต่อมากก็ล้วนคนกันเอง ไม่ว่าจะเป็น บุญมา วงศ์สวรรค์ อดีตรัฐมนตรีหลายสมัยที่มางานตั้งแต่ไก่โห่คนนั้น หรือสมหมาย ฮุนตระกูล รัฐมนตรีคลังคนปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่เลือดเนื้อเชื้อไขเก่าของปูนซิเมนต์ไทยทั้งสิ้น
ระดับรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็มี มารุต บุนนาค กับ ศุลี มหาสันทนะ
หลายคนถามไถ่กันว่าทำไมงานนี้บุคคลระดับยอดสุดของบางสถาบันซึ่งใกล้ชิดเป็นอันดีกับปูนซิเมนต์ไทยถึงไม่มา
แม้กระทั่งตัวนายกฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งถ้าปูนซิเมนต์ไทยจะเชิญมาเป็นแขกสำคัญก็คงไม่น่าจะบอกปัด
“ก็คงไม่มีปัญหาหรอกเพราะงานนี้ได้มีการเตรียมนานหลายเดือนอยู่ ถ้าจะตั้งใจเชิญแล้วก็คงไม่มีปัญหา
แต่เข้าใจว่าเป็นเจตนาของปูนซิเมนต์ไทยเขา คือยึดนโยบายเรียบง่ายเป็นสำคัญ เขารู้อยู่ว่าเขายิ่งใหญ่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องประการศความยิ่งใหญ่อะไรเพิ่ม เพราะคนที่พยายามทำส่วนใหญ่มักไม่ใหญ่จริง จึงอยากใหญ่มากกว่า...” ผู้รู้ระดับวงในคนหนึ่งช่วยไขข้อข้องใจ
เอาล่ะ ถึงจะยึดนโยบายเรียบง่ายโดยแทนที่จะจัดเลี้ยงใหญ่โตตามโรงแรมหรู ปูนซิเมนต์กลับใช้สนามหญ้าขนาดกว้างขวางหน้าตึกสำนักงานใหญ่จัดเลี้ยง อาหารการกินนั้นก็เหมาเอามาจากฝ่ายจัดเลี้ยงนอกสถานที่ของโอเรียนเต็ล ซึ่งกัปตันทีมจากโอเรียนเต็ลบอกกับ “ผู้จัดการ” ว่า ต้องระดมพลพรรคมางานวันนี้กว่า 30 ชีวิต และมีอาหารทั้งไทยฝรั่งญี่ปุ่นไว้บริการกว่า 60 รายการแถมด้วยวงเครื่องสายไทยจากกรมศิลปากรและวงบางกอกซิมโฟนี่ออร์เคสตราอีก 2 วง คอยบรรเลงขับกล่อมอยู่คนละมุมของสระน้ำ สรุปแล้วก็เห็นจะต้องบอกว่า เป็นความเรียบง่ายที่น่าประทับใจไม่น้อย
นอกจากนี้รายการที่เรียกความสนใจไม่เบาก็คือมีการบอกเล่าถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของปูนซิเมนต์ไทยด้วยการโชว์แสงและเสียงหรือ light and sound ที่กำลังฮิตกันนั่นแหละ วิธีนี้นับว่าเก๋และไม่ต้องทำให้พูนเพิ่ม ไกรฤกษ์ ประธานบริษัทกับจรัส ชูโต กรรมการผู้จัดการต้องมายืนอ่านรายงานให้ฟังจนอาจจะเกิดความเบื่อสำหรับผู้ฟัง
การโชว์แสงและเสียงในงานคืนนั้น จัดทำได้ดีจนใครก็คงไม่อยากติ ซึ่งเห็นทีจะต้องส่งคำชมเชยนี้ไปยังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยผู้รับดำเนินการเรื่องนี้ให้ ด้วยสนนราคาไม่กี่แสนบาท ถือว่าคิดกันราคาต้นทุนจริงๆ
เช่นเดียวกันหนังสือแจกในงานก็เป็นสิ่งละอันพันละน้อยอีกอย่างที่แขกกลับไปบ้านคงยังต้องยอมอดตาหลับขับตานอนพลิกดูอยู่พักใหญ่ เพราะเฉียบจริงๆ