Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มกราคม 2527








 
นิตยสารผู้จัดการ มกราคม 2527
อาร์มายัคบุกไทย เชื้อสายดาตาญังมาโผล่ในกรุงเทพฯ             
 


   
search resources

Alcohol
โอลิเวีย เดอ มองแตล




โอลิเวีย เดอ มองแตล บอกกับ “ผู้จัดการ” ว่าเขามีส่วนเกี่ยวพันทางสายเลือดกับดาตาญังหนึ่งในอดีตสามทหารเสือที่เคยโด่งดังมากในประวัติศาสตร์จนกลายเป็นนิทานปรัมปรา ตลอดจนได้มีการจัดทำภาพยนตร์มามาก

โอลิเวียเข้ามาเมืองไทยเมื่อประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน เขาไม่ได้พกดาบเข้ามาท้าดวลกับสำนักดาบพุทไธสวรรค์ของไทยหรอก แต่เขาหอบเอาขวดทรงบานตรงปลายและคอค่อนข้างสูง ขวดนั้นชื่อว่า อาร์มายัค

โอลิเวียจะเข้ามาดวลเหล้ากับบรรดาเจ้าตลาดเก่าแก่ เช่น เฮนเนสซี่ เรมี่มาแตง คูร์วาซิเอร์ และมาแตล

อาร์มายัค คือบรั่นดีที่ผลิตในแคว้นที่ชื่อาร์มายัคในมณฑลกาสโคนี่ทางแถบตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส ส่วนคอนยัคก็ผลิตในดินแดนที่ชื่อคอนยัค

โอลิเวียเล่าว่า อาร์มายัคนั้นเป็นบรั่นดีที่เก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส เริ่มผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ. 1359 (พ.ศ.1902) หรือราวๆ สมัยหลังพ่อขุนรามคำแหงของเราสักนิด ส่วนคอนยัคนั้นผลิตหลังอาร์มายัคได้ 200 ปี

ในตลาดโลกแล้วโอลิเวียเล่าว่ายอดขายอันดับแรกก็คงเป็นคูร์วาซิเอร์ตามมาด้วยมาร์แตล และเฮนเนสซี่ สุดท้ายคือ เรมี่มาแตง

“แต่คุณคงไม่รู้หรอกว่าแม้กระทั่งเหล้าชื่อ แชนแนลของมาร์แตลยังต้องแอบซื้ออาร์มายัคของเราไปบรรจุ” โอลิเวียเล่าเพิ่มเติม

โอลิเวียมั่นใจในอาร์มายัคของเขามาก เขาเล่าให้ฟังถึงการทำ blind test โดยไม่มีการติดป้ายเหล้า ปรากฏว่าอาร์มายัคจะออกมาเป็นอันดับหนึ่งเสมอเพราะมีรสชาติที่เข้มข้น นุ่มนวล และกลมกล่อมด้วยกลิ่นที่หอมอบอวลกว่า

“คุณลองดื่มอาร์มายัคให้หมดแก้วแล้วดมก้นแก้วดูคุณจะได้กลิ่นลูกพรุน” (ลูกพรัม) โอลิเวียสาธิตให้ดู

โอลิเวียปีนี้อายุ 44 (ปี 2527) เป็นพ่อม่าย มีลูกสาวที่น่ารักอายุ 8 ขวบคนหนึ่ง “ผมชอบเล่นเทนนิสและเคยแข่งในวงจรมือสมัครเล่นที่วิมเบิลดั้นมาแล้ว” หุ่นของโอลิเวียพอจะเป็นพระเอกหนังได้ถึงไม่ใช่ขนาดอเลน เดอลอง แต่ในส่วนสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว และรูปร่างที่มองไม่เห็นไขมัน โอลิเวียจัดได้ว่าเป็นคนวัย 40 ที่รูปร่างและหน้าตาดี

Showmanship ของโอลิเวียเองก็ไม่เบาเพราะท่าทางที่เขาวิ่งขึ้นไปบนเวที หลังจากที่สมศักดิ์ เตชะไพศาล กรรมการผู้จัดการซีแกรมแนะนำตัวเขาเหมือนกับดารานักร้อง rock band ไม่มีผิด

วันนั้นเป็นวันที่ซีแกรมเลี้ยงลูกค้าซีแกรมเพื่อแนะนำอาร์มายัค และโอลิเวียก็เล่นบทบาทที่น่าดูมากที่มีทั้งตะโกนไชโยและเดินไปโค้งคารวะชนแก้วกับบรรดาเอเย่นต์ตามโต๊ะต่างๆ

“ผมเคยทำงานอยู่บริษัทโฆษณาที่ชื่อ Plublics ซึ่งเน้นทางด้านการตลาดมาก และรวมไปถึงการส่งเสริมการขายทำให้ผมเข้าใจข้อผิดพลาดของอาร์มายัคได้ดี”

“อาร์มายัคเดิมทีไปตั้งราคาไว้ถูกกว่าบรั่นดียี่ห้ออื่นทั้งๆ คุณภาพดีกว่า VSOP ของเหล้าบรั่นดีอื่นๆ จะมีอายุเหล้าประมาณ 4-6 ปี แต่ VSOP ของเราเริ่มที่ 8-10-12 และ 20 ปี ผมตั้งราคาใหม่ให้แพงขึ้น เปลี่ยนรูปร่างหีบห่อขวดให้สวยแล้วผม position ใหม่ให้เป็นเหล้าหลังอาหาร” โอลิเวียอธิบายถึงรายละเอียดการทำการตลาดให้กับ “ผู้จัดการ” ที่ชักจะเป๋เพราะแก้วที่ 4 ของอาร์มายัคแล้ว

เหล้าอาร์มายัคของโอลิเวียไม่เคยบุกเข้าตลาดสหรัฐฯ จนกระทั่งปี 2524 โอลิเวียตัดสินใจไปหาตัวแทนจำหน่ายเหล้าต่างประเทศในนิวยอร์ก

“พอผมบอกว่าจะให้เขาขายอาร์มายัคเขาหัวเราะโยกไปมา ผมเลยตั้งบริษัทขึ้นมาเองที่ถนน 42 และหาตัวแทนเหล้าเล็กๆ เข้ามาจำหน่ายผมใช้เงินค่าโฆษณาและส่งเสริมเพียง 50,000 เหรียญ (1 ล้าน 3 แสนบาท) เท่านั้น ปรากฏว่าปีแรกผมขายได้ 10,000 หีบ ซึ่งก็นับว่าดีมากและยอดก็ขึ้นเรื่อยๆ จนปีนี้เป็น 28,000 หีบแล้ว”

โอลิเวียตัดสินใจพาอาร์มายัคบุกเอเชียเป็นเป้าต่อมา “ผมเริ่มที่ญี่ปุ่นกับเมืองไทยก่อนแล้วค่อยไปมาเลเซียปีหน้า”

โอลิเวียไม่ต้องการเร่งอาร์มายัคในเมืองไทย เขาตั้งเป้าไว้ปีแรกเพียง 1,500 หีบ เท่านั้น เขาพูดอย่างอหังการว่า “ผมอยากจะโตช้าๆ ที่นี่ค่อยๆ สร้างกลุ่มคนดื่มอาร์มายัคที่ซื่อสัตย์และขายในหมู่ผู้มีอันจะกินเท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ให้พวกบรั่นดียี่ห้ออื่นรับไป”

บริษัท ซีแกรมประเทศไทย เป็นผู้จัดจำหน่ายให้กับอาร์มายัค และเท็ดเบทส์นั้นเป็นผู้ทำโฆษณา ด้วยคำขวัญที่ว่า “ในอดีตกาลชาวฝรั่งเศสแบ่งปันแต่คอนยัคแล้วเก็บอาร์มายัคไว้ดื่มเอง”

“ผู้จัดการ” ถามนิพนธ์ สัจจวุธ ผู้บริหารโฆษณาของเท็ดเบทส์ซึ่งก็เคยสร้างวีรกรรมมากับโฆษณาเปรียบเทียบของคอลเกตกับดาร์กี้จนถึงโรงถึงศาลว่าจะไม่มีปัญหากับบรั่นดียี่ห้ออื่นหรือ

นิพนธ์ตอบว่า “ผมคิดว่าเป็นหน้าที่ผมที่จะต้องบอกผู้บริโภคว่าอะไรดีกับผู้บริโภค แล้วให้ผู้บริโภคตัดสินใจเองซึ่งถ้าผมละเลยไปก็เท่ากับผมเป็นผู้บริหารโฆษณาที่ไม่ดี”

แล้วงานนี้ก็วัดดวงกันเองก็แล้วกัน “ผู้จัดการ” จะทำหน้าที่รายงานให้ทราบ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us