Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน7 ตุลาคม 2546
กลุ่มทีเอปรับโครงสร้างเสริมแกร่งบริการ "ศุภชัย" หวนคืนออเร้นจ์เน้นSynergy             
 


   
www resources

ทีเอ ออเร้นจ์ โฮมเพจ

   
search resources

เทเลคอมเอเซีย, บมจ.
ทีเอ ออเร้นจ์, บจก.
อภิรักษ์ โกษะโยธิน
ศุภชัย เจียรวนนท์
Pierri Mattei
Mobile Phone
Telephone




กลุ่มทีเอประกาศปรับโครงสร้างอีกรอบ โดย "ศุภชัย เจียรวนนท์" หวนคืนทีเอ ออเร้นจ์ในตำแหน่งซีอีโอร่วมกับ "อภิรักษ์ โกษะโยธิน" อีกครั้ง หวังสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องการบริการและรองรับการแข่งขันตามยุทธศาสตร์ Communication Solutions Provider พร้อมดึง Pierri Mattei จากฟรานซ์ เทเลคอม (จอร์แดน) เป็นผู้อำนวยการด้าน Synergy ที่กลุ่มทีเองมุ่งเน้นการผสมผสานทั้งเทคโนโลยีทรัพย์สิน รวมถึงบุคลากร เพื่อสร้างบริการใหม่ๆ ที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นออกสู่ตลาด

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานหัวหน้าคณะบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เทเลคอม เอเซีย คอร์ปอเรชั่น (ทีเอ) เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการบริหารเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ได้มีมติให้กลับไปเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วมในทีเอ ออเร้นจ์กับนายอภิรักษ์ โกษะโยธินอีกครั้ง โดยมีหลักสำคัญคือดำเนินเรื่องของการสร้าง Synergy ที่ประสานผลประโยชน์เพื่อนำมาซึ่งบริการที่ดีกับผู้บริโภค โดยมีการศึกษามาหลายแนวทาง แต่มีหลักสำคัญๆ 2 เรื่องคือ 1.คอมเมอร์เชียล ที่มีการดำเนินการมาเป็นระยะๆ โดยผสมผสานให้เกิดความสมบูรณ์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบุกตลาด หรือ Market Pressing ที่แยกกลุ่มลูกค้าอย่างชัดเจน เช่น ลูกค้าองค์กร, เอสเอ็มอี, โซโห, คอนซูเมอร์ และโซลูชั่น 2.โอปอเรชั่น เช่น คอลล์เซ็นเตอร์, ซีอาร์เอ็ม, ไอที, การบำรุงรักษาเครือข่าย เป็นต้น

การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ ศุภชัยจะโฟกัสในเรื่องของ Synergy ระหว่างคอมเมอร์เชียลกับโอปอเรชั่น ส่วนอภิรักษ์จะโฟกัสส่วนของมือถือ และกิจการมือถือเป็นหลัก ขณะเดียวกันยังจะรับผิดชอบในเรื่องของการตลาด และบริหารงานสื่อของกลุ่มทีเอ ในตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารด้านการตลาดและบริหารงานสื่อของกลุ่มทีเอด้วย

"การที่ผมกลับมาเป็นซีอีโอร่วมไม่ใช่เป็นการลดบทบาทของคุณอภิรักษ์ เพราะการทำงานของคุณอภิรักษ์ในช่วงที่ผ่านมาก็เป็นที่น่าพอใจ แต่ทั้งหมดที่ทำเป็นการเสริมศักยภาพบริการให้สูงขึ้น ลดความซับซ้อน ลดค่าใช้จ่าย ไม่อยากให้มองคุณอภิรักษ์ในทาง negative"

พร้อมกันนี้ กลุ่มทีเอได้ดึงนาย Pierri Mattei จากฟรานซ์ เทเลคอม (จอร์แดน) มาเป็นผู้อำนวยการด้าน Synergy โดยมีสัญญาหนึ่งปี เพื่อให้เป็นการตามกลยุทธ์ Synergy ที่มุ่งสู่การเป็น Communication Solutions Provider หรือการสื่อสารเชื่อมโยงผู้คน สังคม ระบบเศรษฐกิจ และโลกอย่างครบวงจร

"การกลับมาของคุณศุภชัยจะทำให้เกิด Synergy ที่เป็นอินโนเวทีฟ โปรดักส์ ซึ่งจะแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น ที่เราเรียกกว่าดิจิตอล คอนเวอร์เจน" นายอภิรักษ์กล่าวเสริม

เขากล่าวอีกว่า ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหาร ด้านการตลาดและบริหารงานสื่อของกลุ่มทีเอ ซึ่งดูแลรับผิดชอบการซื้อสื่อโฆษณาในกลุ่มทีเอทั้งหมด หลังจากมีการปรับกลยุทธ์ การบริหารสื่อโฆษณาแบบรวมศูนย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการวางแผนโฆษณาให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยกลุ่มทีเอมีงบด้านสื่อโฆษณาประมาณปีละ 1,100 ล้านบาท ส่วนด้านการสร้างสรรค์ และผลิตงานโฆษณา เช่น ภาพยนตร์โฆษณา โฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ ของบริษัทในกลุ่มทีเอทั้งหมดนั้น แต่ละบริษัทจะดำเนินการเองอย่างอิสระ เพื่อให้เกิดแนวทางความคิดสร้างสรรค์ที่ตรงกับสินค้า และบริการให้มากที่สุด สำหรับการทำสื่อโฆษณาทีเอใช้บริการของบริษัท แบรนด์ คอนเน็กต์ชั่น เป็นเอเยนซี่ มีเดีย ส่วนทีเอ ออเร้นจ์ใช้บริการของบริษัท Initiative Media

ด้านการขยายเครือข่ายทีเอ ออเร้นจ์จะใช้งบอีก 7,000 ล้านบาท ในการขยายเครือข่ายเฟส 3 เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่บริการเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลให้สมบูรณ์มากขึ้น และจะขยายไปในส่วนภูมิภาคเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องของเทคโนโลยีจีพีอาร์เอสจะครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งหมดในเฟส 3 สำหรับเทคโนโลยี Edge คาดว่าจะเริ่มได้ในปีหน้า

ส่วนเรื่องของการเงินทีเอ ออเร้นจ์ยืนยันว่าเริ่มมีกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

ปัจจุบันทีเอมีหนี้สินประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาท ส่วนทีเอ ออเร้นจ์ มีหนี้ 3 หมื่นล้านบาท เป็นส่วนของเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ 150 ล้าน จาก 3 หมื่นล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us