"กุลธัญวัฒน์" เจ้าของร้านแดงแหนมเนือง จ.หนองคาย ไม่ต่างจากอีกหลายพันครอบครัวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคอีสาน
ที่รุ่นพ่อรุ่นแม่เป็นคนต่างด้าว ทั้งชาวลาว และชาวญวน ที่หนีภัยสงคราม หรือหนีความทุกข์ยากข้ามมาอาศัยอยู่บนแผ่นดินไทย
จนหลายคนสามารถก่อร่างสร้างตัว พัฒนาฐานะจนเป็นที่รู้จักในแวดวงสังคมธุรกิจในปัจจุบัน
ณัฐวุฒิย้อนความว่า พ่อของเขา นายตวน โฮวัน ได้อพยพมาจากประเทศเวียดนาม
เมื่อ 50 ปีที่แล้ว ขณะอยู่ในวัยหนุ่มรุ่นกระทงราว 20 ปี ขณะเดินทาง และพักอยู่ในประเทศลาวได้พบรักกับแม่คือ
นางวี แซ่เรือง (นามสกุลเดิม) ซึ่งเป็นคนเชื้อสายญวนเช่นกัน แต่มาอยู่ในประเทศลาวแถบแขวงภาคกลาง
แต่สภาพความเป็นอยู่ในประเทศลาว ในขณะนั้น ก็ไม่ต่างจากเวียดนามเท่าใดนัก
ทั้งคู่จึงพากันข้ามแม่น้ำโขงมายังฝั่งไทย หลังจากนั้น นายตวนได้ยึดอาชีพด้วยการเป็นช่างหล่อทองในจังหวัดหนองคาย
ขณะที่นางวีเป็นแม่ค้าหาบเร่ ขาย ทุกอย่างทั้งผักทั้งปลา ต่อมาได้เปลี่ยนมาทำอาหารญวนหาบเร่
เช่น บั๊นแบ่ว (แผ่นแป้งกลมๆ วางซ้อนกันข้างในมีแคบหมู หมูหยอง ราดด้วยน้ำจิ้ม)
กะยอทอด กะยอสด เป็นสูตรอาหารญวนขนานแท้ ที่นางวีได้รับการถ่ายทอดมาจากผู้เป็นแม่
อาหารเวียดนามหาบเร่ของนางวีได้รับความสนใจค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นอาหาร ที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับคนไทย
ต่อมาราวปี 2505 จึงได้ตั้งโต๊ะขายเป็นที่อยู่บนถนนบันเทิงจิต อำเภอเมืองหนองคาย
(จุดที่ตั้งร้านในปัจจุบัน) หลังจากนั้น ครอบครัวก็ยึดอาชีพขายอาหารเวียดนามเรื่อยมา
ทั้งนี้ได้ปรับปรุงรสชาติส่วนผสมให้ เข้มข้นเข้ากับรสนิยมของคนไทยมากขึ้น
โดยเฉพาะแหนมเนืองได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
20 ปีให้หลังจากนั้น พี่สาวคนโต ภาวิดาหรือ ที่คนในระแวกนั้น รู้จักกันดีในชื่อเล่นว่า
"แดง" ก็เข้ามาช่วยขายจนกลายเป็นตัวหลัก ที่ยืนขายหน้าร้าน เพราะน้องๆ
ต้องเรียนหนังสือ จนลูกค้าเรียกกันติดปากว่า ร้านแดงแหนมเนือง
ณัฐวุฒิกล่าวว่า หากใครอยากรับประทานแหนมเนืองก็ต้องมา ที่ร้านแดงแหนมเนือง
แม้จะมีเจ้าอื่นเปิดขายอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็ขายไม่ได้จนต้องปิดไป ปัจจุบัน
ในจังหวัดจึงมีร้านอาหารเวียดนามเพียงแห่งเดียว ร้านแดงแหนมเนืองตั้งอยู่ติดกับตลาดท่าเสด็จ
ขนาด 5 คูหา
ภายหลังเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ตั้งแต่เดือนเมษายน 2537 เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวเดินทาง
ไปยังจังหวัดหนองคาย เพื่อข้ามไปเที่ยวนครเวียงจันทน์มากขึ้น ร้านแดงแหนมเนืองได้กลายเป็นรายการหนึ่ง
ในรายการนำเที่ยวของจังหวัด คือ "นมัสการหลวงพ่อพระใส
ชมความอลังการพระธาตุบังควน แวะทัศนาจรศาลาแก้วกู่ รับประทานแหนมเนือง และเที่ยวชม
ตลาดท่าเสด็จ"