Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์11 ธันวาคม 2552
เทรนด์เครื่องดื่มสายพันธุ์ใหม่ ฟังก์ชันนัลดริงก์แรง โอกาสตลาด 'โออิชิ'             
 


   
www resources

โฮมเพจ โออิชิ กรุ๊ป

   
search resources

โออิชิ กรุ๊ป, บมจ.
Functional Drink




'ตัน' ประกาศศึกเร่งขยายธุรกิจเครื่องดื่มในขาฟังก์ชันนัลดริงก์ พลิกแผนใช้ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญตลาดชาพร้อมดื่ม 'โออิชิ' มาเป็นต้นทุนสำหรับโฟกัสตลาดใหม่ รีลอนช์ 'อะมิโนพลัส' ภายใน 1 ปีไล่บี้บีอิ้ง โค่นเบอร์ 1 แทนที่บิวตี้ดริ๊งค์ พร้อมจับเทรนด์ผู้บริโภคคนไทย ห่วงสุขภาพ-รักสวย ผลักดันตลาดให้เติบโตและคาดการณ์ว่าจะเป็นศึกครั้งยิ่งใหญ่ของธุรกิจเครื่องดื่มในปีหน้า

แม้ว่ามีสินค้าที่ครอบคลุมตลาดเครื่องดื่ม นับตั้งแต่ชาพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ 'โออิชิ' และในตลาดกาแฟพร้อมดื่มแบรนด์คอฟฟิโอ รวมถึงแบรนด์ 'อะมิโน โอเค' จับตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ หรือเครื่องดื่มเสริมสุขภาพเพื่อความสวยงามและสุขภาพก็ตาม ทว่าในช่วงหลายปีติดต่อกันที่ตลาดชาพร้อมดื่มเป็นหัวขบวนกวาดรายได้ให้กับโออิชินั้น เริ่มขยับใกล้ถึงจุดอิ่มตัวจากความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในตลาดชาเขียวที่มีการต่อยอดมาถึงชาดำ กระทั่งแตกไลน์สินค้าชาเขียวพร้อมดื่มเพื่อขยายตลาดและกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพจากเบเนฟิตเพื่อความสดชื่นมาสู่ฟังก์ชันนัลสร้างมูลค่าเพิ่มด้านสุขภาพ แตกไลน์ชาเขียวเป็นชานม 'มัทฉะ' ที่เพิ่งวางตลาดและยังไม่มีการวัดผลความสำเร็จนั่นเอง ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จึงเริ่มหันกลับมามองหาโอกาสใหม่ๆ ในตลาดเครื่องดื่มที่จะมาทำรายได้มากมาย และสร้างชื่อให้กับเครือโออิชิเช่นเดียวกับตลาด 'ชาเขียว'

เมื่อฟังก์ชันนัลดริงก์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในปัจจุบัน และในปีหน้า คาดว่าจะเติบโตถึง 300-400% โดยปีที่ผ่านมาตลาดรวมมีมูลค่า 800 ล้านบาท ขณะที่ตลาดรวมปีนี้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

นับว่ามีหลายๆ ปัจจัยเป็นโอกาสเร่งอัตราการขยายตัวฟังก์ชันนัลดริงก์ ตั้งแต่พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเรียนรู้ และมีความเข้าใจถึงคุณประโยชน์มากกว่าในอดีตที่ส่ง อะมิโน โอเค ลงตลาดครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อน

กอปรกับบรรดาผู้เล่นหลายๆ ค่ายเครื่องดื่มเริ่มให้ความสำคัญกับตลาดนี้แล้ว 5-6 แบรนด์ นับตั้งแต่ บีอิ้ง บิวตี้ดริงก์ โอสถสภา สหพัฒน์ และดาการะของทิปโก้ สิ่งสำคัญเหล่านี้คือ ปัจจัยบวกที่เข้ามาขับเคลื่อนทำให้การเติบโตของตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ยิ่งมีแนวโน้มสดใสมากขึ้น

เหตุผลสำคัญเหล่านี้นี่เองที่เป็นที่มาทำให้ 'ตัน' กลับมาให้ความสำคัญกับการปัดฝุ่นแบรนด์ 'อะมิโน โอเค' ซึ่งเคยส่งมาบุกตลาดก่อนหน้าแบรนด์อื่นๆ เมื่อหลายปีก่อนแล้วไม่ค่อยได้รับการตอบรับที่ดีมากนัก และไม่มีทีท่าว่าจะดังเปรี้ยงปร้างเช่นชาเขียว

การวางหมากเพื่อสู้ศึกในตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์อีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างขาที่ 3 สำหรับธุรกิจเครื่องดื่มของเครือโออิชิจาก King of Tea ถึง Functional Drink ที่เป็นกระแสที่กำลังมาแรงในตลาดเครื่องดื่ม นอกจากความพยายามสร้างดีมานด์ตลาดให้เกิดขึ้น โดยวิธีการ Educate สร้างการรับรู้แบรนด์ และ Benefit Functional ของผลิตภัณฑ์ ให้กับกลุ่มเป้าหมายแล้ว ยังให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์ และตอกย้ำจุดแข็งและตำแหน่งแบรนด์ที่เป็นผู้บุกเบิกตลาดด้วยสารอาหาร 'อะมิโน' ที่มีรายเดียวและเข้ามาในตลาดเป็นรายแรกภายใต้ชื่อ 'อะมิโนพลัส' ทั้งนี้เพื่อจับจองตำแหน่งสินค้าและสกัดกั้นการเข้ามาของยักษ์ใหญ่ 2 ราย จากประเทศญี่ปุ่นที่มีการวางแผนเข้ามาบุกตลาดเมืองไทยในปี'53 เนื่องจากการเปิดเขตเสรีการค้าอาเซียน มีผลทำให้ภาษีนำเข้าเครื่องดื่มลดลงเหลือ 0% อีกทั้งกลุ่มเครื่องดื่มน้ำอัดลมก็สนใจเข้ามาทำตลาดด้วยเช่นเดียวกัน

ไม่เพียงเท่านั้น ยังขยายไลน์สินค้าที่มีเป้าหมายจะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 12-15% เป็น 30% โดยจะวางเกมเข้าไปชิงเค้กฟังก์ชันนัลดริงก์ทั้ง 2 ตลาดคือ การเปิดตัว 'อะมิโน พลัส ช็อต' ลงมาช่วงชิงตลาด ฟังก์ชันนัลดริงก์ที่มีสารอาหารในแบบเข้มข้น ซึ่งมีเจ้าตลาดเป็นเป๊ปทีน อีกทั้งไล่บี้กับบีอิ้งอันดับ 2 ของตลาดในรูปแบบเครื่องดื่มพร้อมดื่มมีสัดส่วน 1,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 60% ในปีนี้มีการเติบโตมากกว่า 100% ใกล้เคียงกับฟังก์ชันนัลดริงก์ในรูปแบบช็อตมูลค่า 800 ล้านบาท หรือสัดส่วนราว 40%

นอกจากการปรับภาพลักษณ์ และขยายไลน์สินค้าแล้ว การทุ่มงบการตลาดนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ 'อะมิโน พลัส' ก้าวขึ้นบัลลังก์ฟังก์ชันนัลดริงก์รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อทลายอุปสรรคทางด้านการรับรู้ของเบเนฟิตของสินค้า รวมถึงการวางตำแหน่งของสินค้าเพื่อให้มีความชัดเจน โดยมีการปรับการสื่อสารจากเดิมที่ อะมิโน โอเค วางคอนเซ็ปต์ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย และคลายเครียดจากสภาวะแวดล้อมในชีวิตประจำวันมาเป็นการสื่อสารจุดเด่นของสินค้าในเรื่องความสดชื่นและลงลึกถึงผลิตภัณฑ์ในระดับเซกเมนต์ ด้วยการเปิดตัว 3 รสชาติใหม่ คือ อะมิโน พลัส ไบรเทน โดยมีส่วนผสมคอลลาเจนและกลูตาไธโอน อะมิโน พลัส เบิร์น มีส่วนผสมของแอลคาร์นิทีน และอะมิโน พลัส ชาร์จจี เพิ่มวิตามินต่างๆ ขนาด 470 มล. ราคา 20 บาท

'ช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าสำหรับการรีลอนช์นี้จะใช้งบการทำตลาด 100 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับคู่แข่งที่เข้ามาทุ่มงบตลาด ทำให้ตลาดรวมปีนี้มีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 100% ในปีหน้าคาดว่าจะมีผู้เล่นรายใหม่หลายๆ ค่ายเข้ามาทำตลาดอีกไม่ต่ำกว่า 10 แบรนด์ ซึ่งในจุดนี้เองที่ทำให้อะมิโน พลัส วางแผนจะเพิ่มงบการตลาดแบบเต็มที่เพื่อสู้ศึกฟังก์ชันนัลดริงก์ที่กำลังจะเริ่มขึ้น

การลงตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ของ โออิชิ ที่ผ่านมานั้น ได้รับความสำเร็จในแง่ของแบรนด์ แต่ยังมีอุปสรรคในแง่ของการรับรู้ของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม เมื่อหลายๆ ค่ายเข้ามาทุ่มงบการตลาดจนสร้างการรับรู้ ทำให้เข้าใจถึงเบเนฟิตของตัวสินค้าดีว่าเป็นเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์เพื่อสุขภาพ โดยการรับรู้ที่ผ่านมานั้น สารอาหารไฟเบอร์ ที่เน้นโฟกัสด้านระบบขับถ่าย และคอลลาเจนที่ให้เบเนฟิตทางด้านผิวพรรณความสวยงาม ถือว่าเป็นฟังก์ชันนัลดริงก์ 2 อันดับแรกที่ขายดีในตลาด อย่างไรก็ตาม การรีลอนช์แบรนด์ครั้งนี้บริษัทจะปรับการสื่อสารใหม่ โดยการสร้างความเข้าใจและประโยชน์ที่ได้รับจากสารอะมิโน และปูรากฐานของแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งเพราะเป็นเครื่องดื่มที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นโดยอยู่ในตลาดนาน 15 ปี

ส่วนปีหน้านี้ คาดว่าตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์พร้อมดื่มจะมีแบรนด์ บิวติดริ๊งค์ เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 60% ขณะที่อันดับ 2 นั้นใกล้เคียงกันระหว่างอะมิโน โอเค และบี-อิ้ง จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีราคาถูกและดื่มได้ง่ายกว่า ส่วนในรูปแบบช็อต ค่อนข้างมีราคาสูง โดยอะมิโน พลัส ช็อต ราคา 30 บาท และพฤติกรรมการดื่มของกลุ่มเป้าหมายมีความคาดหวังกับผลที่จะได้รับมากกว่าฟังก์ชันนัลดริงก์พร้อมดื่ม อย่างไรก็ตาม บริษัทมีแผนที่จะโค่นแชมป์ และขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดให้ได้ภายใน 1 ปี

สำหรับช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทมียอดขาย 5,197 ล้านบาท เติบโต 27% และมีกำไร 613 ล้านบาท เติบโต 35% โดยคาดว่าปีนี้จะปิดยอดขายที่ 7,200 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 55% และธุรกิจเครื่องดื่ม 45% ส่วนปีหน้าคาดว่ายอดขายจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% และตั้งเป้าในปี 2554 ยอดขายรวมที่ 1หมื่นล้านบาท ตัน กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us