Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2544








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2544
สยามการ์เดียน ตลาดกระจกในประเทศยังไม่พอรองรับกำลังการผลิต             
โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
 


   
search resources

สยามการ์เดียน (Guardian Industries Corp.)
Glass




เมื่อ 13 ปีก่อน การประกาศโครงการร่วมทุนกับเครือซิเมนต์ไทย ของการ์เดียน อินดัสตรีส-์ 1 ใน 3 ของผู้ผลิตกระจกรายใหญ่ของโลกจากสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตกระจกในประเทศไทย ได้รับการต่อต้านอย่างหนักจากกระจกไทย-อาซาฮี ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตกระจกรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น

แต่ด้วยแรงผลักดันจากเครือซิเมนต์ไทย พาร์ตเนอร์คนไทย ซึ่งถือเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่มีอำนาจต่อรองสูงมากในช่วงที่เศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงบูมสุดขีด ทำให้โครงการดังกล่าวเป็นรูปเป็นร่าง "สยามการ์เดียน" บริษัทร่วมทุนระหว่างเครือซิเมนต์ไทย และการ์เดียน อินดัสตรีส์สามารถ ถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างราบรื่น และยังได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ

แต่เมื่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะหลังจากประเทศไทย ต้องประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งกระจกไทย-อาซาฮี และสยามการ์เดียน ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดกระจกภายในประเทศรวมกันถึงกว่า 90% ต่างต้องบอบช้ำจากกำลัง ซื้อในประเทศที่ลดต่ำลง

ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของอุตสาหกรรมกระจกในขณะนั้น คือ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการอาคารชุด ต่าง ตายสนิทโดยสิ้นเชิง

และยังต้องถูกซ้ำเติมจากกระจกนำเข้าจากประเทศจีน ที่มีผู้นำเข้ามาในภายหลัง โดยดัมพ์ราคาขายต่ำกว่าราคาตลาดในประเทศถึง 20% อีกเป็นจำนวนมาก

วันที่ 27 ตุลาคม 2542 คณะกรรมการ บริษัทปูนซิเมนต์ ไทย ได้ตัดสินใจขายหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมด 7 ล้านหุ้น ในสยามการ์เดียนคืนให้กับการ์เดียน อินดัสตรีส์ โดยในการขายหุ้นครั้งนี้ ปูนซิเมนต์ไทยต้องขาดทุนถึง 603 ล้านบาท

"แม้โครงสร้างการถือหุ้นได้มีการเปลี่ยนแปลงไป แต่นโยบายโดยรวมของเรายังคงเหมือนเดิม โดยจะเน้นผลิตเพื่อการส่งออกเป็นหลัก" อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา ผู้จัดการฝ่าย การตลาด สยามการ์เดียน กล่าวในการแถลงแผนการตลาดปี 2544 เมื่อกลางเดือนก่อน

ปัจจุบันสยามการ์เดียน ซึ่งถือหุ้น 100% โดยการ์เดียน อินดัสตรีส-์ มีโรงงานผลิตอยู่ 2 แห่งที่จังหวัดสระบุรี และระยอง มีกำลังการผลิตรวม 300,000 ตันต่อปี ในจำนวนนี้เป็นการผลิตเพื่อขายภายในประเทศ 30% ที่เหลืออีก 70% เป็นการส่งออก โดยมีตลาดหลักอยู่ในประเทศย่านเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน นิวซีแลนด์ รวมทั้งประเทศในยุโรปอีกบางประเทศ

"กำลังซื้อในประเทศ มีไม่เพียงพอต่อกำลังการผลิตที่เรามีอยู่" อภิวุฒิบอก

ตลาดรวมของอุตสาหกรรมกระจกภายในประเทศไทย ในปี 2543 มีมูลค่า 2,500 ล้านบาท และได้รับการคาดหมายว่า ในปี 2544 จะเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 6-7% สยามการ์เดียน ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ประมาณ 30% ได้ตั้งเป้าหมายว่า จะยังคงรักษาส่วนแบ่งตลาดให้ได้เท่าเดิม

ตลาดในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นตลาดเป้าหมาย ของสยามการ์เดียน เพราะเป็นอุตสาหกรรมเดียวที่แสดงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด โดยมียอดขายรวมถึง 262,250 คัน ในปี 2543 เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2542 ถึง 20% และในปี 2544 ก็มีการคาดหมายว่ายอดขายจะเพิ่มสูงขึ้นอีกกว่า 20%

ส่วนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่เคยเป็นตลาดหลัก นั้น อภิวุฒิมองแนวโน้มว่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวจากปัจจุบัน โดยเฉพาะในกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับสูง แต่กลุ่มอาคารสูง ซึ่งต้องใช้กระจกในปริมาณมากนั้น คงต้องใช้เวลาอีกนาน

ปีที่ผ่านมา สยามการ์เดียนมียอดขายทั้งจากการส่งออก และขายในประเทศรวม 2,500 ล้านบาท แต่ผลประกอบการยังมีการขาดทุนสะสมอยู่ เนื่องจากการลงทุนก่อสร้างโรงงานที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ โดยโรงงานทั้ง 2 แห่ง มีการลงทุนก่อสร้างโรงงานละประมาณ 3,000 ล้านบาท

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us