ยังไร้ข้อสรุปแนวทางรีโนเวตเซ็นทรัลลาดพร้าว บอร์ดเซ็นทรัลกรุ๊ปเร่งเครื่อง ยันใช้งบ 2,400 ล้านบาท รีโนเวตใหญ่ ด้านร้านค้าเสียงแตก มีทั้งให้ปิดรวดเดียวกับทยอยปิด ส่วนแผนงานเคาน์ดาวน์ปีนี้ลุย 5 จังหวัด อัดงบตลาดธันวาคมเดือนเดียว 200 ล้านบาท

ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า แผนการปรับปรุงใหญ่ของศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวนั้น ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะเป็นแนวทางใด ซึ่งล่าสุดทางคณะกรรมการบริหารเซ็นทรัลกรุ๊ป ได้มีการประชุมกันอีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปเมื่อเร็วๆนี้

ทั้งนี้การปรับปรุงเซ็นทรัลลาดพร้าวยังมีแนวทางให้เลือก 2 แนวทางเดิมคือ 1.การปิดศูนย์กีค้าทั้งหมดพร้อมกัน ซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลานาน 6 เดือนเป็นอย่างต่ำในการรีโนเวต ซึ่งจะทำให้สะดวกในแง่ของการรีโนเวต แต่อาจจะกระทบต่อรายได้ของบริษัทและรายได้ของร้านค้าด้วย โดยสาขาลาดพร้าวนี้ทำรายได้เป็นอันดับที่สองให้กับซีพีเอ็น รองลงมาจากเซ็นทรัลเวิลด์ และ2.การทยอยปิดทีละส่วน ซึ่งจะใช้เวลานานกว่า 2 ปีเป็นอย่างต่ำ ซึ่งร้านค้าและบริษัทฯก็จะยังมีรายได้อยู่ แต่ไม่สะดวกในการจัดการ

ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯก็ได้ทำการเจรจาและทำความเข้าใจกับทางร้านค้าเช่าด้วยเหมือนกันซึ่งมีมากกว่า 200-300 ร้านค้า เพื่อหาทางออกในการดำเนินการ ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่ก็มีความเห็นทั้งสองแนวทางเช่นกันตคือ อยากให้ปิดทีเดียวหมดกับทยอยปิดทีละส่วน

ส่วนงบประมาณที่จะใช้ในการรีโนเวตใหญ่เซ็นทรัลลาดพร้าวครั้งนี้อยู่ที่ 2,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่มาก เนื่องจากว่า เป็นการปรับปรุงใหม่หมดเลย เพื่อให้เป็นศูนย์การค้าที่มีรูปแบบทันสมัย ทั้งการตกแต่งและการดีไซนื รวมทั้งการวางเลย์เอาท์ในการจัดงานการใช้พื้นที่

สำหรับงบรีโนเวต 2,400 ล้านบาทนี้เป็นงบประมาณส่วนหนึ่งที่อยู่ในแผนการลงทุนในปีหน้าที่มีประมาณ 5,800 ล้านบาท ส่วนงบด้านการตลาดประมาณ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีนี้ประมาณ 4%

สำหรับเซ็นทรัลขอนแก่นหลังจากที่เปิดบริการไปแล้วนั้น ปรากฎ่ว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่งดี โดยในช่วงวันแรกมีคนเดินเข้าศูนย์มากกว่า 200,000 คนต่อวัน มาจากหลากหลายทั้งในขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากเป็นศูนย์การค้าที่ครบวงจรและทันสมัยและใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก

ดร.ณัฐกิตติ์กล่าวต่อถึงการจัดงานเคานต์ดาวน์ด้วยว่า ปีนี้ซีพีเอ็นวางแผนการจัดงนเคาน์ดาวน์ไว้ถึง 5 สาขา ประกอบด้วย ขอนแก่น อุดรธานี เชียงใหม่ พัทยา และที่เซ็นทรัลเวิลด์ มากกว่าปีที่แล้วที่จัดเพียงแห่งเดียวคือที่เซ็นทรัลเวิลด์ โดยในช่วงเดือนธันวาคมเดือนเดียวปีนี้บริษัทฯคาดว่าจะใช้งบประมาณด้านการตลาดมากกว่า 200 ล้านบาท ในการจัดทั้งงานเคาน์ดาวน์และงานส่งเสริมการขาย กิจกรรมต่างๆ

เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลแห่งการจับจ่ายและเทศกาลความสุข ซึ่งค้าปลีกหลายแห่งมีการแข่งขันกันสูงในแง่ของการดึงคนเข้าเดินศูนย์ของตัวเอง

“เราคิดว่าช่วงสิ้นปีนี้ บรรยากาศการจับจ่ายน่าจะดีขึ้น ซึ่งช่วงที่ผ่านมาสัญญาณบวกก็เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นแล้ว ทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เริ่มออกมาจับจ่าย อารมณ์ของผู้คนเริ่มดีขึ้น สินค้าต่างๆรวมถึงร้านค้าก็เริ่มจัดงานจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายกันแล้ว” ดร.ณัฐกิตต์ กล่าว