Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน13 ธันวาคม 2552
ปูนใหญ่จี้ธปท.ดูแลค่าบาท             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

   
search resources

ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
Cement




ปูนใหญ่จี้รัฐเข้ามาดูแลค่าเงินบาท หวั่นปีหน้าโอกาสค่าเงินบาทแข็งค่ากว่านี้อีก เนื่องจากตัวเลขการส่งออกมากกว่านำเข้า พร้อมกับเร่งรัดให้รัฐเร่งเบิกจ่ายงบไทยเข้มแข็งกระตุ้นเศรษฐกิจจนกว่าภาคเอกชนจะฟื้นตัวสู่ปกติ ยอมรับปีหน้าการลงทุนเอกชนยังไม่กล้าลงทุนใหม่ เหตุบรรยากาศการลงทุนไม่เอื้อ และต้นทุนพลังงานแพงดันต้นทุนการผลิตพุ่ง

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯอยากให้รัฐบาลไทยเร่งการเบิกจ่ายงบไทยเข้มแข็งอย่างจริงจัง เนื่องจากเป็นงบการลงทุนของรัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นจนกว่าภาคเอกชนจะฟื้นตัวสู่ภาวะปกติได้ แต่หากรัฐบาลไม่มีการอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนแล้ว เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยคงไปไม่รอด โดยยอมรับว่าการลงทุนใหม่ของภาคเอกชนในปีหน้ายังไม่ดี เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนไม่เอื้อ

ขณะเดียวกันต้องการให้รัฐบาลเข้ามาดูแลค่าเงินบาทไม่ให้แข็งเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากวิกฤตเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ไทยมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล การส่งออกมากกว่าการนำเข้า ทำให้มีรายได้เงินตราต่างประเทศเข้ามามาก ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้น โดยมีโอกาสที่ค่าเงินบาทจะแข็งกว่านี้อีก ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออกของไทย เชื่อว่าขณะนี้แบงก์ชาติได้เข้ามาดูแลอยู่แล้ว ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยปีหน้ายังต่ำอยู่ ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 33.19 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

นายกานต์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่รัฐบาลไทยต้องกู้เงิน เพื่อใช้จ่ายในการลงทุนในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลกที่ชะตัว ภาคเอกชนไม่กล้าลงทุนเพิ่ม ประชาชนจับจ่ายใช้สอยน้อยลง ทำให้เม็ดเงินจากการจัดเก็บภาษีได้น้อย ไม่เพียงพอต่อการลงทุน แต่รัฐบาลก็ยังจำเป็นต้องอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนโครงการเมกะโปรเจ็กต์ทั้งโครงการรถไฟฟ้า เพื่อให้เงินทุนไหลออกช่วยค่าเงินบาทให้อ่อนตัวลง ขณะเดียวกันความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น จะเห็นได้จากตัวเลขความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จะเห็นได้ตัวเลขความต้องการใช้ปูน 9เดือนแรกปีนี้ติดลบเพียง 3% โดยไตรมาส 3 การบริโภคปูนซีเมนต์ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7% คาดว่าไตรมาส 4 ตัวเลขการใช้ปูนซีเมนต์จะขยายตัวดีขึ้นอีก ส่งผลให้ปีนี้การใช้ปูนซีเมนต์จะติดลบเล็กน้อย ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์อยู่ที่กว่า 70%ของกำลังการผลิตรวม เชื่อว่าปีหน้าการใช้อัตราการผลิตคงใกล้เคียงปีนี้

สำหรับ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปี2553 คาดว่าจะดีกว่าปีนี้ จะเห็นได้จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของยุโรปโดยเฉพาะเยอรมัน และฝรั่งเศสดีขึ้นมาก จากเดิมที่เคยมองว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะแข็งแกร่งสุด ขณะเดียวกันอัตราการว่าจ้างแรงงานในออสเตรเลียก็ดีขึ้นกว่าที่คาดไว้ เมื่อประเทศคู่ค้าของไทยเศรษฐกิจดีขึ้นก็จะทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวดีขึ้นตามไปด้วย

ซึ่งปัจจุบันตัวเลขการใช้กระดาษคราฟท์เพื่อนำมาใช้เป็นบรรจุภัณฑ์พบว่าได้ฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติแล้วทั้งในแง่ปริมาณและราคา ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของภาคการส่งออก ขณะที่ต้นทุนการผลิตปีหน้าจะปรับสูงขึ้นอย่างแน่นอน เห็นได้จากต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นราคาถ่านหินและน้ำมัน

“ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจของสเปนและภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นของกรีซนั้น ทางบริษัทฯก็ติดตามตลอดเวลา โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาบริษัทฯไม่เคยวางใจการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขการว่าจ้างแรงงานในออสเตรเลียที่ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้เชื่อว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกน่าจะค่อยๆดีขึ้น แต่ทั้งนี้ขอให้รัฐบาลยังคงอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนต่อเนื่อง ถ้าไม่อัดฉีดก็คงไปไม่รอด”นายกานต์ กล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us