|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สายงานพัฒนาและวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผย SET Note Corporate Update ฉบับที่ 4/2552 รายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (ไม่รวมบริษัทที่เข้าข่ายเพิกถอนกิจการ และกองทุนอสังหาริมทรัพย์) ไตรมาส 3 ปีนี้ปรับตัวดีขึ้น สะท้อนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ เมื่อพิจารณาโครงสร้างเงินทุนพบอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E ) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยระดับ 1.18 เท่า ซึ่้งไม่อยู่ในเกณฑ์สูงเมื่อเทียบกับช่วงเศรษฐกิจปกติ (ปี 2547-2551) ที่เฉลี่ยอยู่ในช่วง 1.02-1.28 เท่า
ขณะสภาพคล่องดีขึ้น โดยมีกระแสเงินสดจ่ายสุทธิ 6.65 พันล้านบาท ลดจากไตรมาส 2 ปี 52 และไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีกระแสเงินสดรับจากกิจกรรมการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ส่วนภาพรวมด้านการลงทุน (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มที่เข้าข่ายเพิกถอนกิจการ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์) พบว่ามีบริษัทที่ลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร 343 บริษัท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี51 และไตรมาส2 ปี52 ซึ่งสะท้อนได้ว่าบริษัทส่วนใหญ่สนใจลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวร ทั้งนี้ มีมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 93.48พันล้านบาท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ถาวรสูงสุดคือ กลุ่มทรัพยากร 62.08%
ส่วนภาพรวมด้านการระดมทุน (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มที่เข้าข่ายเพิกถอนกิจการ) ในไตรมาสนี้ มีมูลค่าระดมทุนรวม 7,230 ล้านบาท โดยเป็นการระดมทุนในตลาดแรกมูลค่ารวม 4,279 ล้านบาท จากบริษัทจดทะเบียนเข้าใหม่ 5 บริษัท ขณะที่มีการระดมทุนในตลาดรองมูลค่า 2,951ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT)
ด้านประสิทธิภาพการดำเนินงาน (ไม่รวมบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มที่เข้าข่ายเพิกถอนกิจการ และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์) ในไตรมาส 3 ปีนี้อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) ปรับเพิ่มเป็น 3.31% เทียบกับปีก่อนแต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีนี้ หากไม่รวมบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มทรัพยากร พบว่า ROE ดีขึ้นเมื่อเทียบกับทั้งไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาส 2/2552
สำหรับผลงานไตรมาส 3 ปีนี้พบว่ามีกำไรสุทธิรวม 113.19 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.07 % จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เทียบกับไตรมาส 2 ปีนี้พบว่าลดลง 10.38 % โดยเป็นผลจากกำไรสุทธิของกลุ่มทรัพยากรปรับลด 29.51 % เนื่องจากผลกระทบค่าการกลั่นที่ต่ำลงและกำไรสินค้าคงคลังลดลงและการตั้งสำรองค่าเสียหายในแหล่งน้ำมันของบางบริษัท ทั้งนี้ หากไม่รวมกำไรสุทธิของกลุ่มทรัพยากรจะทำให้กำไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนปรับเพิ่มขึ้น 5.26% เทียบกับไตรมาส 2 ปีนี้
นอกจากนี้ มีจำนวนบริษัทที่มีผลกำไรสุทธิเป็นบวกถึง 350 บริษัท จากทั้งหมด 436 บริษัท คิดเป็น 80.28% เพิ่มจากไตรมาส 2 ปีนี้ สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ผลการดำเนินงานดีขึ้น ซึ่ง 4 กลุ่มที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 คือกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร กลุ่มธุรกิจการเงิน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอุตสาหกรรมการบริการ ทั้งนี้ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นสูงสุด
|
|
|
|
|