Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน3 ธันวาคม 2552
AMATAหวังการเมืองนิ่งดันขายที่ดินทะลุ300ไร่             
 


   
www resources

โฮมเพจ อมตะ กรุ๊ป

   
search resources

อมตะ คอร์ปอเรชั่น, บมจ.
วิบูลย์ กรมดิษฐ์
Real Estate




อมตะ คอร์ปอเรชั่น หวังการเมืองนิ่ง ส่งผลดีต่อยอดขาที่ดินในนิคมปี 53 ทะลุ 300 ไร่ หลังปีนี้รับผลกระทบการเมืองเต็ม ๆ คาดขายได้ประมาณ 300 ไร่ "วิบูลย์" เผยเร่งระบายที่ดินเพื่อเก็บกำไรขั้นต้นดี ดันผลงานสวย

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA กล่าวว่า บริษัทจะพยายามเพิ่มยอดขายที่ดินทั้งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนครและอมตะซิตี้ให้กลับมาสู่ภาวะปกติที่เคยมีสัดส่วนจากการขายที่ดิน 70% ส่วนอีก 30% จะมาจากรายได้การบริการ เพราะปีนี้ถือเป็นปีที่ไม่ปกติเพราะได้รับจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่นิ่ง

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนและไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงก็น่าจะทำให้ยอดขายที่ดินของบริษัทในปี 53 สูงกว่าปีนี้ที่คาดว่าจะขายได้ประมาณ 300 ไร่ โดย 9 เดือนแรกของปี 52 มียอดขายที่ดินแล้วเพียง 121 ไร่ ซึ่งหากการเมืองเลวร้ายก็อาจจะทำให้ขายแทบไม่ได้ ซึ่งปัจจุบัน บริษัทยังมีที่ดินเหลืออยู่ 1 หมื่นไร่ แบ่งเป็นที่ดินในอมตะนคร 6 พันไร่ และอมตะซิตี้ 4 พันไร่ ซึ่งบริษัทจะพยายามขายที่ดินให้ได้เพิ่มขึ้น เพื่อดันให้อัตรากำไรขั้นต้น(Gross Profit ) สูงถึง 50-60%

"เราอยากทำให้ปีหน้าการขายที่ดินของเรากลับมาปกติ และกลับมาทำสถิติที่ 900-1,000ไร่อย่างปี 51 แต่ก็พูดยาก เพราะหากสถานการณ์การเมืองยังระอุคุกรุ่น ก็อาจจะทำให้ขายไม่ได้ หรือเป็นศูนย์ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่ลูกค้าก็กังวลเหมือนกัน " นายวิบูลย์ กล่าว

สำหรับกรณีมาบตาพุด ส่วนตัวมองว่าเร็วเกินไปที่จะประเมินถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น แต่เชื่อว่าจะมีผลกระทบระยะยาวมากกว่าระยะสั้น เพราะโครงการที่มาบพุดเป็นโครงการต้นน้ำ หากต้นน้ำแย่ พวกที่ทำธุรกิจปลายน้ำก็จะแย่ไปด้วย ซึ่งในส่วนของบริษัท มองว่าผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปลายน้ำในระยะสั้นคงจะยังไม่รุนแรง แต่อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกได้ดีที่สุด และประเมินว่าในไตรมาสแรกปี53 คงจะมีความชัดเจน

ขณะที่ในส่วนของเศรษฐกิจโลกมองว่า ยังไม่ได้ดีมาก แต่ที่ดีขึ้นมาจากการอัดฉีดเงินของภาครัฐมากกว่า แต่จะชัดเจนกลางปี 53 เชื่อว่าต่างชาติที่จะเข้ามาซื้อที่ดินคงจะยังไม่ถอนการลงทุน แต่ก็มีบ้างที่ชะลอออกไป เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ประนีประนอม เทียบกับเพื่อนบ้านแล้วถือว่าดีกว่า

ก่อนหน้านี้ AMATA บอกว่าขอประเมินการกระตุ้นของภาครัฐก่อน แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ได้ผล เพราแม้ว่าจะเจรจาลูกค้าและนักลงทุน เพื่อให้เข้าลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทแต่จากภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นนี้ส่งผลให้ดีลเจรจาล่าช้ากว่าเดิมและสุดท้ายก็จบลงด้วยการปิดดีลไม่ได้ แม้ว่าลูกค้าใหม่จะไม่ได้ประสบผลสำเร็จนัก แต่ในส่วนของลูกค้าเก่าที่ลงทุนอยู่นิคมของบริษัท ไม่มีการปิดกิจการหรือถอนการลงทุนแต่อย่างใดเพราะส่วนใหญ่จะปรับลดต้นทุนการผลิตแทนการปลดพนักงาน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us