|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ข้อสงสัยถึงผลได้-ผลเสียของการซื้อแฟรนไชส์ "เซเว่นอีเลฟเว่น" คงต้องฟังคำตอบของผู้ที่เข้ามาเป็นแฟรนไชซี่รายแรกในประเทศไทยของร้านสะดวกซื้อแห่งนี้เมื่อ 18 ปีก่อน
กลางซอยเพชรบุรี 5 คือที่ตั้งของร้านสะดวกซื้อ "เซเว่นอีเลฟเว่น" สาขาแรกในประเทศไทยที่เป็นลักษณะการขายแฟรนไชส์ โดยมีบุญมี บุญยิ่งสถิตย์ ที่คน ในย่านนั้นเรียกกันว่า "เฮียมิ้ง" เป็นคนที่กล้าตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่น มาดำเนินกิจการเป็นคนแรกแทนร้านโชห่วย ซึ่งเป็นกิจการดั้งเดิมของเขา
ปัจจุบันเซเว่นอีเลฟเว่นสาขานี้มีอายุครบ 18 ปีเต็ม
"การทำกิจการร้านโชห่วยเป็นการทำงานที่เหนื่อย ไม่มีโอกาสได้ออกไปไหนไกลๆ" บุญมีเล่าและอธิบายเหตุผล ที่ตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ต่อไปว่า "การทำธุรกิจหรือประกอบกิจการไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ โดยเฉพาะการทำร้านโชห่วยไม่เพียงแต่จะต้องมีการวางรากฐานกิจการให้เข้มแข็งพอ นอกจากนี้หากไม่มีพันธมิตรและการสนับสนุนจากผู้ประกอบการรายใหญ่โอกาสการอยู่รอด เติบโต ตลอดจนการขยายกิจการ คงต้องดำเนินไปด้วยความยากลำบาก"
สถานการณ์ในขณะนั้นย่านซอยเพชรบุรี เขตพญาไท เป็นทำเลทองของบรรดานักลงทุนและผู้ประกอบการหน้า ใหม่ ทำให้ร้านโชห่วยของบุญมีซึ่งอยู่ในพื้นที่มานานแล้ว ต้องเผชิญกับคู่แข่งที่รุกเข้ามาจับจองทำเลค้าขายรอบด้าน
รอบๆ ร้านของเขาแวดล้อมด้วย ร้านค้าสะดวกซื้อถึงสองแห่งที่ได้รับความนิยมของลูกค้าแถบนั้น ไม่เว้นแม้แต่ "ฮุย" สาธิต บุญยิ่งสถิตย์ ลูกชายของบุญมี ที่ขณะนั้นยังเป็นเพียงเด็กตัวน้อยๆ ก็ยังวิ่งเข้า-วิ่งออกร้านเหล่านี้เป็นว่าเล่นแทบทุกวัน เพราะติดใจรสชาติขนมหวานที่ขายอยู่ ในร้าน
จุดประกายในหัวเขาเริ่มเกิดขึ้นทันทีว่า "ทำไมร้านสะดวกซื้อที่อยู่ข้างๆร้านใหญ่กว่าเราของตั้งเยอะแยะมีเพียงคนดูแลเพียง 2-3 คน ถึงทำได้...แล้วทำไมเราจะทำไม่ได้"
เมื่อมีเจ้าหน้าที่ของเซเว่นอีเลฟเว่น มาอธิบายเพื่อขายแฟรนไชส์ให้กับเขา เขา จึงตกลงใจและตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ของเซเว่นอีเลฟเว่นในที่สุด
เขามองว่าการเข้ามาสู่ระบบทำให้มีโอกาสมากขึ้นที่จะประสบความสำเร็จ มีใจ มีความพร้อม มีเงินทุนสนับสนุน
"การค้าขายของโชห่วย ลักษณะเหมือน "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" ขายของทุกชิ้นต้องผ่านมือเจ้าของร้าน สินค้าทุกชิ้นเราต้อง รู้ชื่อ จดจำนวนรายการสินค้า ไม่ให้ขาด รวมทั้งมีสำรองในร้าน โอกาสที่ลูกค้าจะเข้ามาหยิบสินค้าเองได้ตามใจไม่มีเลย" บุญมีกล่าว
แฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่นสาขาแรก ในไทย หากนับรวมกับสาขาอื่นที่เซเว่นอีเลฟเว่นมีทั้งหมดในขณะนั้นนับเป็นสาขาลำดับที่ 28
การซื้อแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่น ทำให้บุญมีต้องเข้าอบรมการปฏิบัติงานในร้านที่สาขาพัฒนพงศ์ โดยเรียนรู้ด้านการบริหารพนักงาน พฤติกรรมลูกค้า การจัดเรียงสินค้า การนำเทคโนโลยีมาช่วยทำงาน ตลอดจนการนำระบบบัญชีซึ่งได้รับการดูแลและให้คำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่ของเซเว่นอีเลฟเว่น และแปลงโฉมร้านค้าเดิมให้เป็นไปตามแบบของเซเว่นอีเลฟเว่นทำให้ ลูกค้าในแถบซอยเพชรบุรี 5 แปลกใจอยู่พักใหญ่ที่จู่ๆ บุญมีซึ่งกำลังขายของอยู่ดีๆ หายไปไหน?
บุญมีบอกว่าการลงทุนสำหรับสาขา แรกใช้เงินลงทุน 3 ล้านบาท เป็นเงินทุนส่วนตัวที่เก็บออมจากการทำร้านโชห่วยเดิม และกู้มาอีกบางส่วน
และเขาก็เริ่มมุ่งหน้าดำเนินกิจการอย่างสมบุกสมบัน โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือนแรก ที่ดูเหมือนว่าเข้าขั้นอาบเหงื่อต่างน้ำ ถึงแม้จะทำงานในที่ร่มและมีทีมงานมาช่วยดูแลก็ตาม "มันเป็น 3 เดือนที่เหนื่อยที่สุด" บุญมีบอก
เมื่อเป้าหมายแรกของเขาก้าวผ่านไปด้วยการที่สามารถคืนทุนครบตามระยะเวลาที่กำหนดและสามารถเป็นเจ้าของในพื้นที่เดิมสำเร็จ เรียกว่าได้เปลี่ยนฐานะจากเจ้าของร้านมาเป็นผู้ประกอบการที่เข้ามาบริหารสาขาแรกให้กับเซเว่นอีเลฟเว่นอย่างเต็มตัว
ตลอดระยะเวลา 15 ปีตั้งแต่เริ่มซื้อแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่นมาบริหาร บุญมีเริ่มมีความเข้าใจระบบและมองเห็นโอกาส ในปี 2548 เขาจึงตัดสินใจเปิดร้าน เซเว่นอีเลฟเว่นสาขาที่ 2 ในพื้นที่ใกล้เคียง กัน ชนิดที่เดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึง
ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาที่ 2 ของบุญมีก่อให้เกิดคำถามตามมาว่าเมื่อทำร้านติดๆ กัน แล้วจะขายสินค้าในร้านได้หรือในเมื่อบริเวณนั้นมีร้านขายของกินมากมาย รวมทั้งยังมีร้านสะดวกซื้อของคู่แข่ง ทำให้ผู้บริโภคน่าจะตัดสินใจรับประทานอาหารในร้านอาหารมากกว่าการเข้าร้านสะดวกซื้อ
ซึ่งเป็นการเข้าใจถูกต้องส่วนหนึ่ง แต่ที่สำคัญ บุญมีบอกว่า "ส่วนใหญ่เป็นเพราะความเคยชินของผู้บริโภค ที่ชอบความสะดวกสบายและการบริการที่ลูกค้าสามารถหยิบจับเลือกซื้อสินค้าได้เองตามใจชอบ"
สาขานี้เป็นการเช่าพื้นที่ โดยมีสาธิต บุญยิ่งสถิตย์ ลูกชายเข้ามาช่วยดูแลกิจการ โดยเฉพาะในส่วนของการจัดเก็บข้อมูลและการทำบัญชี เพราะสาธิตสำเร็จการศึกษาจากคณะบริหารคอมพิวเตอร์
สาธิตบอกว่าได้นำความรู้ในเรื่องอิเล็กทรอนิกส์ในการเก็บข้อมูลสารสนเทศ ในการบริหารจัดการร้าน ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อสินค้า จำนวน บัญชีและอื่นๆ ที่เกี่ยว ข้องกับการจัดการร้านที่ได้จากการเรียนมา บริหารจัดการร้านเพื่อจะได้ช่วยประหยัด ต้นทุน
เขาให้เหตุผลอีกว่าอยากมีร้านเป็นของตนเอง เห็นว่าทางบ้านเรามีกิจการเป็นของตัวเอง จึงน่าจะมาช่วยดูแลร้านให้กับครอบครัวเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระ
สาธิตบอกว่าสาขา 2 เป็นสาขาที่สร้างยอดขายมากที่สุด เมื่อเทียบกับสาขาแรกที่เปิดก่อน หากดูจากทำแลและปัจจัยหลายๆ อย่างซึ่งได้เปรียบกว่า
"อีกอย่างคงเป็นเพราะร้านเปิดใหม่"
สำหรับกลุ่มลูกค้าทั้งสาขาแรกและ สาขาที่ 2 เป็นกลุ่มลูกค้าหน้าเดิมที่เคยใช้บริการในสาขาแรกและลูกค้าทั่วไปย่านนั้น
ปี 2551 ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขา ที่ 3 ของตระกูลบุญยิ่งสถิตย์ก็เปิดขึ้น โดย สาธิตเป็นผู้ดูแลอย่างเต็มตัว หลังจากที่ได้เรียนรู้ระบบการจัดการภายในร้านสาขาที่ 2 มาแล้ว 3 ปี
สาขา 3 เป็นพื้นที่เช่าเช่นเดียวกับสาขาที่ 2 ทำเลที่ตั้งห่างจากสาขาแรกและ สาขาที่ 2 ออกไปด้านท้ายซอยเพชรบุรี 5 สามารถเดินเชื่อมต่อเข้าได้สบายแต่อยู่ลึกเข้าไปในโซนที่ส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ ห้องเช่า ไม่ค่อยมีร้านค้าคู่แข่ง ถือว่าทำเลดีกว่า แม้พื้นที่จะมีขนาดเล็กกว่า สองสาขาแรกก็ตาม
กลุ่มลูกค้าเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาที่มากวดวิชาในย่านนั้นและผู้คนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าว
สำหรับสินค้าภายในร้านต้องตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยเลือกประเภทเครื่องดื่มและอาหารพร้อมทาน ทำให้ในร้านมีตู้แช่อาหารเพิ่มเป็น 2 ตู้ จากที่มีเพียงตู้เดียวในสาขาทั่วไป เพื่อให้เพียงพอจำหน่ายแก่ลูกค้า
ที่สำคัญ ด้านหน้าสาขานี้มีตู้ถอนเงินสดติดตั้งอยู่ถึง 3 เครื่องจาก 3 ธนาคาร ขนาบกันที่หัวมุมร้าน ทำให้เห็นว่าที่นี่มีผู้มาใช้บริการหนาแน่น แม้จะอยู่ในซอกหลืบเล็กๆ
สาธิตมีความเชื่อมั่นว่าแนวโน้มธุรกิจแฟรนไชส์เซเว่นอีเลฟเว่นยังโตได้อีก
"ทำธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีสาขา 1 สาขา 2 และ 3 แล้วต้องมีสาขา 4, 5, 6 ซึ่งต้องให้ลูกชายดูแล ขณะที่เครื่องยนต์สตาร์ทติดแล้วการเคลื่อนไปข้างหน้าจะไม่ยาก" บุญมีกล่าวด้วยความมั่นใจ
หวังเพียงว่าผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์เซเว่น อีเลฟเว่นไปแล้วจะประสบความสำเร็จกันทุกรายเหมือนครอบครัวบุญมีและสาธิต
|
|
|
|
|