|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
นิทรรศการแสดงภาพศิลป์ที่ตระเวนไปจัดในประเทศต่างๆ เฉพาะที่ใช้ชื่อกลุ่มฟุตบริดจ์จัดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็รวมได้ 7 ครั้งแล้ว ซึ่งกระจายอยู่ใน 5 ประเทศ ประกอบด้วย ที่มอริเชียส 2 หน ที่มาเลเซีย 2 หน นอกจากนั้นแห่งละ 1 หน ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย และจีน
นอกจากศิลปินที่เข้าร่วมจะมีโอกาสขยายตลาด ซึ่งส่วนใหญ่ก็สามารถขายภาพเขียนของตนได้ไม่มากก็น้อย รวมถึงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องราวในแวดวงศิลปะระหว่างเพื่อนศิลปินด้วยกันแล้ว ยังมีกิจกรรมเสริมที่ถือว่าสำคัญไม่แพ้กันก็คือ โปรแกรมจัดทัวร์อันเป็นไปในแบบที่คิดว่า มนุษย์ผู้ทำงานศิลปะเท่านั้นควรจะได้สัมผัสและเก็บซับประสบการณ์
เป็นการท่องเที่ยวในสไตล์ศิลปินอย่างแท้จริง
เช่นเมื่อครั้งที่เครือข่ายศิลปินไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในปี 2549 ณ หอศิลป์สยามที่หาดใหญ่ ก็มีการจัดกิจกรรมพาเพื่อนจากต่างแดนไปท่องเที่ยวในพื้นที่ของจังหวัดสงขลาและจังหวัดพัทลุง ซึ่งหลายคนที่เข้าร่วมยังคงบอกเล่าได้ถึงประสบการณ์อันประทับใจได้แจ่มชัดจนถึงวันนี้
เป็นที่รับรู้กันว่า การจัดแสดงภาพศิลป์แต่ละครั้งศิลปิน ที่จะเข้าไปแบบเดี่ยว หรือพาครอบครัวไปเที่ยวด้วยก็ได้ โดยค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายจำเป็นต่างๆ ก็ต้องรับผิดชอบกันเอง แต่เจ้าภาพก็พยายามจะจัดสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับให้ได้มากที่สุด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับศักยภาพของศิลปินประเทศเจ้าภาพนั่นแหละ
สำหรับการเดินทางครั้งล่าสุดที่ศิลปินจีนรับเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นที่เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง กรุ๊ปทัวร์ศิลปินไทยนัดแนะเดินทางร่วมกันระหว่างวันที่ 16-24 ตุลาคม 2552 โดยจะไปสมทบกับกรุ๊ปทัวร์ศิลปินมาเลย์ และเมื่อถึงหังโจวแล้วก็มีกำหนดจะร่วมกันเดินทางต่อไปรับคณะศิลปินจากประเทศอื่นๆ ที่นครเซี่ยงไฮ้
เช้าวันแรกกรุ๊ปทั่วศิลปินไทยโดยสารรถตู้จากหาดใหญ่สู่เมืองบัตเตอร์เวอร์ธ ก่อนจะข้ามเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะปีนัง คณะเรานัดพบกับศิลปินญี่ปุ่นที่ผันตัวเองและครอบครัวไปอาศัยอยู่ที่นั่นคือ Hitori Nakayama เขาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นอาจารย์สอนศิลปะในมหาวิทยาลัย และรับสร้างผลงานประติมากรรมประดับพื้นที่และอาคารในประเทศต่างๆ
หลังจากพาเราตะลอนชมผลงานของเขาบนเกาะปีนัง แล้วจบลงด้วยการจิบเบียร์ชมเมือง จากนั้นเราก็ข้ามกลับสู่แผ่นดินใหญ่พบกับ Chong Hip Seng ศิลปินมาเลย์ซึ่งเดินทางมาจากบ้านที่กูลิมในรัฐเคดาห์ ผู้ที่ช่วยเหลือกรุ๊ปทัวร์ไทยในการจองตั๋วเดินทางทั้งหมดทั้งเที่ยวไปและกลับ เพื่อขึ้นรถไฟที่สถานีบัตเตอร์เวอร์ธเข้ากรุงกัวลาลัมเปอร์ตลอดคืนนั้นด้วยกัน
ตั้งแต่เช้ามืดจนถึงบ่ายของวันที่สอง กรุ๊ปทัวร์ศิลปินไทยใช้บริเวณเซ็นทรัลกัวลาลัมเปอร์ที่เป็นทั้งสถานีรถไฟและรถไฟฟ้าพักผ่อนตามอัธยาศัย ก่อนที่บ่ายแก่ๆ จะเดินทางต่อไปยังสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เพื่อขึ้นเครื่องบินไปจีนพร้อมๆ ศิลปินมาเลย์ที่เหลือ แต่ก็มีเรื่องติดขัดที่บางคนบินไปพร้อมกันไม่ได้ โดยต้องบินตามไปในภายหลัง ซึ่งกว่าคณะทัวร์ทั้งหมดได้เข้าที่พักที่เมืองหังโจวก็เที่ยงคืนไปแล้ว
วันที่สามในเมืองหังโจว กรุ๊ปทัวร์ศิลปินไทย-มาเลเซียท่องเที่ยวสไตล์ศิลปินด้วยการไปชมภาพศิลป์และพบปะศิลปิน พื้นถิ่นที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งมณฑลเจ้อเจียง (Zhejiang Art Museum) และ IBPB International Art Organization ต่อด้วยไปชมมหาวิทยาลัยด้านศิลปะของจีนที่ตั้งอยู่ที่นั่น จากนั้นได้ไปยลย่านเมืองเก่าที่ทำเป็นถนนคนเดิน ตามด้วยไปตลาดผ้าและเสื้อผ้าที่มีให้เลือกซื้ออย่างหลากหลาย อาหารมื้อค่ำที่ภัตตาคารหรูบนเนินเขาริมทะเลสาบซีหู
ก่อนจบวันด้วยการเข้าชมการแสดงชุด Impression Westlake โชว์ที่สุดยิ่งใหญ่อลังการกลางท้องน้ำในทะเลสาบซีหู ซึ่งเกิดจากมันสมองของจาง อี้โหมว ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีนชื่อก้องโลก ผู้ซึ่งยังได้ฝากฝีมือไว้เป็นที่ประจักษ์เมื่อครั้งพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2551 ที่กรุงปักกิ่งด้วย
วันที่สี่ คณะศิลปินไทย-มาเลเซียเดินทางสู่นครเซี่ยงไฮ้ โปรแกรมทัวร์แบบศิลปินที่นั่น ประกอบด้วยทัวร์ย่านแหล่งรวมแกลเลอรี่ใหญ่ที่สุด ต่อด้วยการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Art Museum) ซึ่งได้รวบรวมภาพจิตรกรรมและงานศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิวัติของพรรคคอมมิวนิสต์จีนไว้มากมายและ ที่นี่ก็ได้พบกับบรรดาศิลปินจากอินโดนีเซีย สาธารณรัฐมอริเชียสและรียูเนียน ไอส์แอนด์ ทั้งหมดร่วมคณะเดินทางกลับสู่เมืองหังโจวด้วยกัน
วันที่ห้า ช่วงเช้าฟรีสไตล์ ศิลปินเกือบทั้งหมดเลือกที่จะเดินออกจากโรงแรมไปเยี่ยมชมความเป็นสวรรค์บนดินของทะเลสาบซีหู ห้วงน้ำธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้กวีจีนทั้งยุคโบราณและยุคใหม่นำความงามไปร่ายเป็นที่กล่าวขานไว้มากมาย เป็นบ่อเกิดของอุปรากรจีนและนิยายที่เป็นที่รู้จักหลากหลายเรื่อง อย่างตำนานรักนางพญางูขาวก็เกิดจากที่นี่
จากนั้นในช่วงบ่ายศิลปินกลุ่มฟุตบริดจ์และผู้ติดตามทุกชีวิต ก็ได้ไปร่วมพิธีเปิดนิทรรศการแสดงภาพศิลป์ ณ หอวัฒนธรรมประจำเมืองหังโจว ซึ่งก็ตั้งอยู่กลางทะเลสาบซีหูนั่นเอง ก่อนต่อด้วยงานเลี้ยงที่ภัตตาคารริมทะเลสาบซีหูอีก
ช่วง 3 วันสุดท้ายในจีน คณะทัวร์ศิลปินฟุตบริดจ์ทั้งหมดเดินทางไปยังเมืองซีถัง เมืองประวัติศาสตร์เลื่องชื่อที่ไม่เหมือนใครในแดนมังกร ผู้คนที่นั่นมีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่ผูกพันกับสายน้ำต่อเนื่องยาวนานมาแล้วกว่า 1,000 ปี ถือเป็นดินแดนที่เป็นเสมือนสวรรค์บนดินอีกแห่งหนึ่งของจีนก็ว่าได้ เมืองนี้ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างหังโจวกับเซี่ยงไฮ้ แต่ก็ยังอยู่ในมณฑลเจ้อเจียงเช่นเดียวกับหังโจว
ที่เมืองซีถังแห่งนี้คณะทัวร์ศิลปินนานาชาติ ได้รับการจัดพิธีต้อนรับอย่างอบอุ่น โปรแกรมทัวร์ที่ถูกเตรียมไว้รับล้วนเป็นไปแบบเพื่อศิลปินทั้งสิ้น มีการนำชมภาพศิลป์และงานศิลปะจีนแขนงอื่นๆ พิธีต้อนรับจัดในพิพิธภัณฑ์สวนหย่อมที่สร้างขึ้นจากคฤหาสน์เก่า งานเลี้ยงในภัตตาคารหรูริมคลองที่เป็นเหมือนแลนด์มาร์คของเมืองโบราณแห่งนี้
กิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของเหล่าศิลปินฟุตบริดจ์ที่ถูกจัดขึ้นที่นี่ อยู่ที่การล้อมวงจิบชาเขียวคุณภาพเยี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ของเมือง สลับกับการให้ศิลปินแดนมังกรโชว์การเขียนและวาดภาพด้วยพู่กันจีน บรรยากาศสุดแสนจะครึกครื้นชื่นมื่นชนิดที่ศิลปินอาวุโสป้ายพู่กันจีนลงบนกระดาษคราใดเป็นได้เรียกเสียงฮือฮา ขณะที่ศิลปินต่างแดนก็ถูกเกณฑ์ให้ใช้พู่กันจีนเขียนข้อความและเซ็นชื่อไว้เป็นที่ระลึก
ในประวัติศาสตร์ของจีนแห่งนี้มีเวลา 1 วันเต็มให้กับบรรดาศิลปินจากชาติต่างๆ ได้เที่ยวท่องแบบไม่ต้องมีกำหนดการ ใครใคร่ซื้อ ใคร่ชื่นชมเมือง ใคร่ดื่มกิน สามารถทำได้ดังใจปรารถนา แต่สำหรับศิลปินไทยและครอบครัวนอกจากจะเน้นช้อปและถ่ายรูปแล้ว ก็ยังมีเวลาเหลือเฟือที่ไปย่ำเท้าตะลุยสเกตและวาดภาพโชว์นักท่องเที่ยวตามมุมต่างๆ ริมคลอง โดยเฉพาะได้ไปผสมโรงกับกลุ่มนักเรียนนักศึกษาด้านศิลปะชาวจีนที่แห่กันมาฝึกฝนฝีมือในเมืองโบราณแห่งนี้
วันสุดท้ายในจีน กรุ๊ปทัวร์ศิลปินฟุตบริดจ์ทั้งหมดออกจากเมืองซีถังมุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติ Xiaoshan แต่เช้าเพื่อกลับสู่มาเลเซีย ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามวิถีทางกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอน สำหรับกรุ๊ปทัวร์ศิลปินไทยตัดสินใจจับรถบัสเดินทางต่อเพื่อกลับสู่หาดใหญ่ในคืนนั้นเลย แต่กลับถูกแก๊งตั๋วผีมาเลย์เล่นเล่ห์กล สุดท้ายได้อาศัยบัสประจำทางสายสิงคโปร์-หาดใหญ่กลับถึงบ้านก็เกือบเที่ยงของวันใหม่
|
|
|
|
|