|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สื่อดิจิตอลมาแรง ปีหน้าคาดเติบโตสูงถึง 20% “ธอมัสไอเดีย” ชี้ทิศทางปีหน้า ผู้บริโภคคนไทยเปิดรับสื่อดิจิตอลสูง พร้อมเปิด 7 กลยุทธ์ออนไลน์ ที่นักการตลาดต้องรับมือปีหน้า แย้มเตรียมบินสู่ระดับต่างประเทศ ผุดสาขาที่สิงคโปร์ในอีก 1-2 ปีนี้ หวังจับลูกค้าอินเตอร์แบรนด์มากขึ้น
นางสาวอุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด เปิดเผยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบัน กำลังมีรูปแบบการเข้าถึงสื่อออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะเว็บไซด์ในรูปแบบอินเทอร์แอกทีฟ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ค ขณะเดียวกันในส่วนของงบการซื้อสื่อโฆษณาของลูกค้า ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถยืนยันตัวเลขการใช้สื่อทางดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งได้
เพราะเป็นงบที่แฝงอยู่กับการใช้สื่อหลักของลูกค้า แต่การหันมาใช้สื่อออนไลน์ในปีนี้สูงขึ้นมาก โดยจากตัวเลขรวมการใช้สื่อโฆษณาปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 90,000 ล้านบาท ปีนี้ตัวเลขการใช้สื่อออนไลน์ 1,800 ล้านบาท คิดเป็น 2% คาดว่าเติบโต 20%
สำหรับธอมัสไอเดีย หลังจากที่หันมาให้ความสำคัญกับสื่อออนไลน์ พบว่า รายได้ที่มาจากงบการใช้สื่อออนไลน์ของลูกค้ามีสัดส่วนเพิ่มสูงขึ้นเป็น 50% เทียบกับรายได้รวมทั้งหมด จากปีก่อนที่มี 30% คาดปีนี้ยอดรายได้จากสื่อออนไลน์ของบริษัท เติบโต 10-20% ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้บริษัท มีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 20%
ปีนี้บริษัทฯสามารถคว้า 23รางวัลจากทั่วโลกในผลงานด้านอินเทอร์แอกทีฟ ส่งผลให้บริษัทมีแผนที่จะเข้าไปเปิดสาขาในต่างประเทศต่อไป โดยในระยะ 1-2 ปีนี้ จะเข้าไปเปิดสาขาที่สิงคโปร์ ส่วนสำคัญ คือ ต้องการได้ลูกค้าระดับอินเตอร์แบรนด์ ที่มีรีจีนอล ฮับ ในสิงคโปร์ ซึ่งมีอยู่หลายแบรนด์ จากปัจจุบัน ลูกค้าหลักที่ใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น คือ ลูกค้าในประเทศกว่า 50% และอินเตอร์แบรนด์อีก 50%
กลุ่มสินค้าและบริการ ที่หันมาใช้สื่อออนไลน์สูงขึ้นนั้น ได้แก่ คอนซูเมอร์โปรดักส์ กลุ่มอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ไอที และกลุ่มMICE ตามลำดับ โดยในปีหน้าเชื่อว่าภาพรวมการใช้สื่อออนไลน์ จะยังมีสัดส่วนที่ 2% ของภาพรวมการใช้สื่อทั้งหมด ส่วนในแง่อัตราการเติบโตนั้น เชื่อว่าจะใกล้เคียงกับในปีนี้ คือ ที่ประมาณ 20%
ในปี 2553 มี 7กลยุทธ์ออนไลน์ที่นักการตลาดต้องเตรียมรับมือ คือ 1.โซเชียลมีเดีย Social Media ถือเป็นช่องทางสำคัญในสื่อออนไลน์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ดีที่สุด โดยเฉพาะ Facebook, Twitter และBlog มีจำนวนผู้เข้าใช้งานสูงมาก แต่ควบคุมได้ยาก การวางกลยุทธ์ที่จะใช้สื่อนี้ต้องมีระบบการรองรับที่ดี
2. แบรนด์จะให้ความสำคัญในการสร้าง Customer Experience และ Customer Engagement กับผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งแคมเปญนี้ควรใช้เวลาไม่เกิน3-6นาทีเพื่อจะดึงดูดให้ผู้บริโภคสนใจมากสที่สุด 3.การวัดผลความสำเร็จของแคมเปญ (ROI)จะชัดเจนและสนับสนุนการวางกลยุทธ์ของนักการตลาด 4.ยุคใหม่ทีท้าทายของ Mobile Internet และ Moblie Marketing กับ 3G ที่กำลังจะเกิดขึ้น จะส่งผลให้สื่อออนไลน์จะออกมาเป็นรูปแบบวิดีโอมากขึ้น
5.ฐานข้อมุลลูกค้าสัมพันธ์ CRM เป็นสื่งที่ช่วยเชื่องโยงการใช้สื่ออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 6.Email Maketing เสริฟข้อมูลด่วนด้วยต้นทุนต่ำ และ7.Search Engine Optimization คอนเทนต์เป็นคีย์หลัก การสร้างเว็บไซด์และเนื้อหา จะต้องคิดถึงกลยุทธ์ของ Search Engine Optimization ควบคู่ไปด้วย
|
|
|
|
|