พฤกษาฯหยุดไม่อยู่! วางเป้าปี53 ยอดขายถึง 2.9 หมื่นล้าน ชี้ 5 บิ๊กอสังหาฯในตลาดครองส่วนแบ่งถึง70-80% ยอมรับราคาบ้านขยับ 3-4% หากรัฐไม่ต่อมาตรการภาษี ด้านแผ่นดินทองฯไตรมาส 3 รายได้เพิ่ม รับอานิสงส์พอร์ตโครงการบ้านจัดสรร

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัทพฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวถึงทิศทางราคาที่อยู่อาศัยปี53 ว่า ขึ้นกับการตัดสินใจของรัฐบาล จะต่ออายุมาตรการภาษีลดค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง และภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือ 0.01 % ที่กำลังจะหมดอายุ 28 มี.ค. 2553 เพราะหากไม่มีการต่ออายุ จะทำให้ราคาที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 3-4 % ซึ่งขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ว่า รัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร แต่ก็เป็นไปได้ที่รัฐบาลจะไม่ต่ออายุ เพราะภาคอสังหาฯเริ่มปรับตัวดีขึ้นแล้ว เห็นได้จากผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด

โดยยอมรับว่า ตลาดอสังหาฯในปีนี้และปีหน้า เป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่ 5 รายแรก ถึง 70-80% ขณะที่รายเล็กส่วนใหญ่จะรอดูสถานการณ์ แม้ว่าจะไม่มีการปิดกิจการ แต่ก็ไม่มีโอกาสเข้าสู่ตลาด ทำให้ส่วนแบ่งตลาดยังอยู่กับรายใหญ่ ประกอบกับธนาคารพาณิชย์จะเน้นให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการรายใหญ่เป็นหลัก

“ส่วนยอดขายของบริษัท เติบโตปีนี้ 40 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายรวม 20,000 ล้านบาท และปีหน้าตั้งเป้าหมายที่ 29,000 ล้านบาท” นายประเสริฐกล่าว

ยอดขายบ้านจัดสรรหนุนGOLD

นายทัศพร คุปตารักษ์ กรรมการบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) GOLD กล่าวว่า ในไตรมาส 3 ปี 52 บริษัทมีรายได้รวม 321.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.52 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 51 หรือเพิ่มขึ้น 4% ซึ่งเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศและตลาดอสังหาฯเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้มีรายได้จากโครงการบ้านจัดสรรเพิ่มจากปีก่อนเป็นจำนวน 52.09 ล้านบาท แต่หากเป็นงวด 9 เดือน บริษัทฯมีรายได้ 1,110.55 ล้านบาท ลดลง 22 % เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ และสภาพตลาดอสังหาฯได้ชะลอตัว นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการบันทึกรายได้ของโครงการอาคารสูงเป็นจำนวน 210.73 ล้านบาทในปีก่อน ขณะที่ในงวดนี้ไม่มีการรับรู้รายได้จากโครงการอาคารสูง

MK แค่ 9 เดือนกำไรโตกว่าปีที่แล้วทั้งปี

นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK กล่าวว่า บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายและบริการ ประจำไตรมาส 3/2552 จำนวน 609.27 ล้านบาท เติบโต 18.99% จากไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้งวด 9 เดือน บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายและบริการ 1,869.32 ล้านบาท เติบโต 31.97% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดรับรู้รายได้อยู่ที่ 1,416.51 ล้านบาท

ส่วนกำไรสุทธิ สำหรับงวด 3 เดือน 135.29 ล้านบาท คิดเป็น 0.16 บาทต่อหุ้น เติบโตขึ้น 25.88% จากไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้กำไรสุทธิงวด 9 เดือนอยู่ที่ 411.51 ล้านบาท (0.48 บาทต่อหุ้น) เพิ่มขึ้น 52.70% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 269.48 ล้านบาท และสูงกว่ากำไรสุทธิทั้งปีของปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 404.26 ล้านบาท