เซเว่นฯ ปลื้มจุดยืนใหม่ "ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย" ดันยอดขายพุ่งเกือบ 5 ล้านกล่องต่อเดือน ไตรมาส 3 ที่ผ่านมามีรายได้รวมทะลุ 2.8 หมื่นล้านบาท คาดปีหน้าดันการผลิตเพิ่มอีก 50%
นายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร 7-11 ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กล่าวว่า การปรับจุดยืนจากร้านสะดวกซื้อเป็น “ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย” ด้วยการเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภทอาหาร อาทิ ข้าวกล่องพร้อมรับประทาน, เบเกอรี่, นมสด และเครื่องดื่ม เป็น 75% ของสินค้าภายในร้าน จากเดิมมีสัดส่วน 70% และปรับลดสัดส่วนสินค้าประเภทของใช้ทั่วไปลงเหลือ 25% ของสินค้าภายในร้าน จากเดิมมีสัดส่วน 30% ส่งผลให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ โดยผลดำเนินงานในไตรมาส 3 ของปีนี้ มีรายได้ทั้งสิ้น 28,769 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีผลกำไรสุทธิ 1,135 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.1% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะอาหารกล่องมียอดขายเฉลี่ยเดือนละ 5 ล้านกล่อง แบ่งเป็นอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน 4 ล้านกล่อง และอาหารแช่เย็นพร้อมรับประทาน 1 ล้านกล่อง
“เดิมที คนมักจะคิดว่า 7-11 มีแต่ของทานเล่นหรือทานรองท้อง แต่นับจากนี้เราได้เปลี่ยนจุดยืนจากร้านสะดวกซื้อเป็นร้านอิ่มสะดวกซึ่งมีอาหารเสิร์ฟครบทุกมื้อ โดยการปรับจุดยืนใหม่ก็เพื่อนำเสนอสินค้าให้แตกต่างจากร้านโชห่วยทั่วไป” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสินค้าประเภทอาหารแช่แข็งพร้อมรับประทานวางจำหน่ายในร้าน 7-11 แล้วกว่า 5,000 สาขา ส่วนสินค้าประเภทอาหารแช่เย็นพร้อมรับประทานมีการวางจำหน่ายแล้ว 1,000 สาขา ซึ่งเมนูอาหารเหล่านี้ที่ได้รับความนิยมมากอันดับต้นๆ ได้แก่ ข้าวผัดปู, ข้าวกะเพราหมู, ข้าวกะเพราไก่, ข้าวไข่เจียวกุ้ง, เกี๊ยวกุ้ง, ข้าวหน้าหมูซีอิ๊ว และข้าวไก่เทอริยากิ เป็นต้น
ด้านนายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซี.พี.ค้าปลีกและการตลาด จำกัด (ซีพีแรม) บริษัทในกลุ่มซีพี ออลล์ ผู้ผลิตสินค้าอาหารพร้อมรับประทานป้อนให้กับ 7-11 ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีความสามารถในการผลิตสินค้าโดยรวมอยู่ที่ 2,500 ตันต่อเดือน โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามียอดขายแล้ว 2,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายผ่านร้าน 7-11 จำนวน 1,620 ล้านบาท และขายผ่านช่องทางอื่นๆ 380 ล้านบาท จึงวางแผนว่าในปี 2553 จะเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตอีก 50%
|