Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน16 พฤศจิกายน 2552
YLGมองแนวโน้มราคาทองคำยังขาขึ้นประเมินพุ่งถึง 1,150ดอลลาร์ต่อออนซ์             
 


   
search resources

Jewelry and Gold
วายแอลจี บูลเลี่ยน อิเตอร์เนชั่นแนล, บจก.




" วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส " ประเมินแนวโน้มราคาทองคำยังพุ่งได้อีก ระบุมีโอกาสไต่ถึง 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เหตุค่าเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่าต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารกลางหลายประเทศหันมาสำรองทองคำเพิ่ม อีกทั้งราคาน้ำมันพุ่งดันให้ราคาทองคำแปรผันทิศทางเดียวกัน "ฐิภา " เผยเป็นเหตุให้ปริมาณและมูลค่าการซื้อขายทองคำล่วงหน้าขยับขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.-พ.ย. ขณะที่บริษัทขึ้นแท่นส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 3 แนะกลยุทธ์ลงทุนช่วงนี้ระยะสั้นยังเข้าเก็งกำไร ส่วนระยะยาวต้องระวังคาดเร็วๆ นี้อาจมีการปรับฐานรอบใหญ่

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด หรือ YLG เปิดเผยว่าในปัจจุบันราคาทองคำได้ทะยานขึ้นทำสถิติใหม่อย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลง หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐมีนโยบายคงอัตราดอกเบี้ยในระดับ และตลาดหุ้นที่ค่อนข้างผันผวน ทำให้หันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น

สำหรับแนวโน้มของราคาทองคำในอนาคตคาดว่ายังจะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อเนื่องและมีโอกาสที่จะขึ้นแตะระดับ 1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจาก 3 ปัจจัยหลัก ๆ ที่สำคัญคือค่าเงินดอลลาร์ยังมีแนวโน้มจะอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ธนาคารกลางของหลายประเทศต้องหันมาสำรองทองคำเพิ่มขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าประเทศอินเดียและจีนเริ่มดำเนินการในจุดนี้แล้ว และประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิดคือความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน ซึ่งทองคำจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เพราะช่วงปลายปีนี้ถึงช่วงต้นปีเป็นฤดูหนาวจะมีปริมาณการใช้น้ำมันสูงขึ้น

" การที่ธนาคารกลางหลาย ๆ แห่งหันมาเก็บทองคำเป็นทุนสำรองของประเทศเพิ่มขึ้น นั่นเป็นเพราะเงินดอลลาร์เริ่มจะอ่อนค่าลง โดยนับจากต้นปีจนกระทั่งในปัจจุบันพบว่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงแล้วประมาณ 15% ทำให้มูลค่าทุนสำรองของประเทศที่มีเงินดอลลาร์อยู่นั้นลดลง แต่ประเทศเหล่านั้นจะปรับเปลี่ยนโดยการหันไปสำรองเงินยูโรเพิ่มขึ้นก็ยังไม่มั่นใจเพราะเงินสกุลดังกล่าวเพิ่งจะเกิดไม่นาน ทำให้ไม่มั่นใจในเสถียรภาพของค่าเงิน "

สำหรับ การซื้อขายทองคำล่วงหน้า (Gold Futuers) ช่วงเดือน ก.ย.-พ.ย. 2552 ปริมาณการซื้อขายผ่าน YLG มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น โดยในเดือน ต.ค.ขยับขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึง 96% ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของ YLG ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 จากเดิมอยู่ในอันดับที่ 4 ทั้งนี้ส่วนแบ่งการตลาดในเดือน พ.ย.ยังขยายตัวได้ดี คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 50% จากเดือน ต.ค. เนื่องจาก YLG ได้จัดกิจกรรมทางการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง

โดยกลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ในระยะสั้นยังสามารถทำกำไรได้ โดย YLG ประเมินว่าราคาทองคำมีโอกาสขึ้นไป high ที่ระดับ 1,150 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่สำหรับการลงทุนระยะยาวต้องรอจังหวะเพราะคาดว่าอาจจะมีการปรับฐานทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา คาดว่าค่าเฉลี่ยในปี 2552 จะอยู่ที่ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากปี 2551 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us