Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน16 พฤศจิกายน 2552
กิมเอ็งเผยปี53ขยายฐานรายย่อยอ่อยเปิดเสรีคอมฯกำไรหด15%             
 


   
www resources

โฮมเพจ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)

   
search resources

หลักทรัพย์กิมเอ็ง, บมจ.
มนตรี ศรไพศาล
Funds




บล. กิมเอ็ง เผยแผนปีหน้าเน้นฐานขยายฐานนักลงทุนรายย่อย คาดลูกค้าใหม่เปิดบัญชีอีก 1 หมื่นบัญชี จากปัจจุบันที่มี 7 หมื่นบัญชี "มนตรี" แจงเปิดเสรีค่าคอมมิชชั่นขั้นบันได กระทบกำไรสุทธิลดลง 15% จากขนาดตลาดหุ้นไทยไม่เพิ่มขึ้น หวังงาน เซ็ตอินเดอะ ซิตี้ ได้ลูกค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 1 พันบัญชี

นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย ) จำกัด (มหาชน)หรือ KEST เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานปี 2553 บริษัทจะเน้นการขยายฐานนักลงทุนรายย่อย ซึ่งคาดว่าจะมีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาเปิดบัญชี จำนวน 10,000 บัญชี จากปัจจุบันที่มี ประมาณ 70,000 บัญชี และจากการร่วมจัดบูธในงานมหกรรมการลงทุนครบวงจร SET in the City คาดว่าจะมีนักลงทุนเข้ามาเปิดบัญชี ไม่ต่ำกว่า 1,000 บัญชี

" บริษัทมีฐานนักลงทุนส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ซึ่งเราจะให้ความสำคัญกับนักลงทุนรายย่อย โดยจะเน้นในเรื่องการทำงานวิจัยให้อ่านเข้าใจง่าย เพื่อช่วยนักลงทุนสามารถนำไปประกอบการรตัดสินใจในการลงทุนได้ง่ายและเรามีระบบอินเตอร์เน็ตที่รองรับให้นักลงทุนสามารถเข้าถีงการลงทุนในตลาดหุ้นไทยได้ง่าย เราเราจึงมีแผนที่จะขยายนักลงทุนกล่มนี้ " นายมนตรีกล่าว

ทั้งนี้ จากการขยายฐานนักลงทุนรายย่อยบริษัทคาดส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เกตแชร์)จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยูที่ระดับ 12-13% จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 12% และจากการที่ปีหน้าจะมีการเปิดเสรีค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ (ค่าคอมมิชชั่น)ขั้นบันไดนั้น ลูกค้าของบริษัทที่มีการซื้อขายต่อวันมากกว่า 5 ล้านบาทไม่มากนัก โดยบริษัทคาดว่าจากการคิดค่าคอมมิชชั่นขั้นบันไดนั้น จะส่งผลกระทบทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิลดลง 15% หากขนาดตลาดหุ้นไทยไม่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่จากการที่ค่าคอมมิชชั่นมีการปรับตัวลดลงนั้น เชื่อว่าจะทำให้มีนักลงทุนเข้ามาซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้น

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 240.84 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 89.20 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 152.21 ล้านบาท คิดเป็น 171.78 % เนื่องจากรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก ส่วนรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลลดลงจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลงและจำนวนเงินสำรองเพื่อรองรับธุรกิจปกติสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์และผลตอบแทนเจ้าหน้าที่การตลาดจากการที่ปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us