Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน11 พฤศจิกายน 2552
เตือนคอนโดฯปล่อยเช่าเสี่ยงเจ้ง             
 


   
search resources

สัมมา คีตสิน
Condominium




ศูนย์ข้อมูลฯชี้สัญญาณเก็งกำไรเริ่มกลับมา หลังเศรษฐกิจฟื้น ระบุคอนโดฯ 1-2 ล้านบาท พบนักลงทุนซื้อปล่อยเช่ามากถึง 10% เตือนเสี่ยงสูงเหตุตลาดห้องเช่ามีเพียงพอถึง 7 แสนหน่วย ห่วงเงินทุนไหลเข้าจากสิงคโปร์ –ฮ่องกง เข้ามาเก็งกำไรอสังหาฯในไทย หลังรัฐบาลทั้งสองประเทศคุมเข้ม ฟันธงปีหน้าไม่ฟองสบู่ แถมตลาดบ้านหรูยังทรุดต่อ

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส. ) เปิดเผยว่า หลังจากเศรษฐกิจโลกเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้นักลงทุนเริ่มกลับมาซื้อคอนโดมิเนียมราคา 1-2 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่สามารถซื้อหาได้ง่าย ทำให้นักลงทุนตัดสินใจซื้อลงทุนปล่อยเช่าได้ไม่ยาก

โดยขณะนี้บางโครงการมีสัดส่วนการซื้อเพื่อเก็งกำไรสูงถึง 10% จากก่อนหน้านี้ที่จะซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงเป็นหลัก ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยง เพราะอาจจะหาผู้เช่าไม่ได้อย่างที่คาดไว้ เนื่องจากตลาดเช่าที่เป็นคอนโดฯ และอพาร์ตเมนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวนสูงถึง 700,000 หน่วย ถือว่าเพียงพอกับความต้องการอยู่แล้ว

ส่วนกรณีที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้มีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในอสังหาฯของสิงคโปร์ ฮ่องกงและจีน จนมีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาประมาณ 15-40% โดยเฉพาะตลาดระดับบนทำให้ธนาคารกลางของฮ่องกง ต้องออกมาตรการจำกัดการลงทุนโดยกำหนดเพิ่มเงินดาวน์จาก 30% เป็น 40% เพื่อป้องกันการเก็งกำไรเกินควรหลังจากที่ธนาคารโลก ออกมาเตือนเรื่องฟองสบู่ในสินทรัพย์ คือ ทองคำ หุ้น และอสังหาฯ

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเมืองไทยนั้นเชื่อว่า ยังมีเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองที่เป็นปัจจัยกระทบต่อการลงทุน จึงยังไม่เห็นการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้ามาซื้ออสังหาฯในระดับไฮเอนด์ และแม้ว่าตลาดอสังหาฯหลังจากนี้มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัว แต่สินค้าระดับไฮเอนด์คาดว่าจะยังไม่ปรับตัวดีขึ้นภายในปี 2553 เพราะกลุ่มเป้าหมายของตลาดระดับบน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าต่างชาติทางฝั่งยุโรป อเมริกา อังกฤษ ซึ่งกำลังซื้อยังไม่กลับเข้าสู่ตลาด

“ ทางศูนย์ข้อมูลฯเห็นว่า ปี 2553 คงไม่เกิดฟองสบู่อสังหาฯแน่ เพราะบ้านบีโอไอจะทำให้ตลาดแข่งกัน โดยหากสินค้าที่ราคาสูงจะปรับลงมาให้ใกล้เคียงเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ แต่สำหรับปี 2554 ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะเกิดหรือไม่ เพราะจะมีเงินทุนไหลเข้ามาจากสิงคโปร์และฮ่องกงเข้ามาเมืองไทย ซึ่งเป็นสองประเทศหลักที่ราคาอสังหาฯเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนเคลื่อนย้ายเงินมาที่ไทยได้ “

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้นแล้วสถานการณ์ดังกล่าวไม่น่าจะยังมีผลกระทบต่อตลาด เพราะผู้ซื้อส่วนใหญ่มีเงินสดอยู่ในมือ ไม่เหมือนยุคฟองสบู่แตก ที่ผู้ซื้อใบจองไม่พร้อมรับโอน แต่ยุคนี้ผู้ซื้อพร้อมรับโอน เพราะธนาคารและผู้ประกอบการต่างตรวจสอบลูกค้าอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ ศูนย์ข้อมูลฯ ยังได้เปิดเผยข้อมูลโอนกรรมสิทธิ์สำหรับ 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ในเขตกรุงเทพ-ปริมณฑล พบว่า มีการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯทุกประเภทรวมกันประมาณ 146,300 หน่วย ลดลง 3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ในจำนวนนี้เป็นการโอนกรรมสิทธิ์เฉพาะประเภทที่อยู่อาศัยทั้งใหม่และมือสอง รวมกันประมาณ 107,600 หน่วย ลดลง 2% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

จาก ที่อยู่อาศัยที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมดนี้ แบ่งเป็นประเภทห้องชุดคอนโดฯประมาณ 38,200 หน่วย คิดเป็น 36% ของการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทุกประเภทรวมกัน ประเภทบ้านเดี่ยว ประมาณ 22,600 หน่วย คิดเป็น 21% ประเภททาวน์เฮาส์ประมาณ 32,900 หน่วย คิดเป็น 31% ประเภทอาคารพาณิชย์ประมาณ 10,400 หน่วย คิดเป็น 10% ที่เหลือเป็นประเภทอื่น และสำหรับในส่วนที่เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดฯนั้น มีการโอนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us