Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน11 พฤศจิกายน 2552
พฤกษาฯรุกมัลดีฟ ผุดคอนโดฯ10ล.US             
 


   
www resources

โฮมเพจ พฤกษา เรียลเอสเตท

   
search resources

พฤกษา เรียลเอสเตท, บมจ.
ทองมา วิจิตรพงศ์พันธ์
Real Estate




“พฤกษา” สยายปีกธุรกิจอสังหาฯต่างจังหวัด- ต่างประเทศ เผยเจรจารัฐบาลประเทศมัลดีฟจีบสร้างคอนโดฯปีละ 1,000 ยูนิต คาดโครงการแรกลงทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เริ่มต้นปี 53 ส่วนแผนปีหน้าทุ่มงบกว่า 7,000 ล้านบาทซื้อที่ดิน 50 แปลง เปิด 48 โครงการใหม่ มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้าน เผยสั่งซื้อวัสดุล่วงหน้า 1-2 ปีคุมต้นทุน

นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด หรือ PS เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลประเทศมัลดีฟเข้ามาเจรจาให้บริษัทเข้าไปลงทุนสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนในมัลดีฟเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้และข้อกฎหมายในการลงทุนของมัลดีฟ โดยในเบื้องต้นรัฐบาลมัลดีฟระบุว่า มีความต้องการปีละ 1,000 ยูนิต และต้องการให้สร้างที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดฯสูง 4-5 ชั้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะต้องศึกษาต้นทุนการก่อสร้างที่คาดว่าจะแพงกว่าปกติ เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่บนเกาะ โดยโครงการแรกคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 10 ล้านเหรียญสหรัฐ

“บริษัทได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุน ข้อกฎหมายของการลงทุนว่า สามารถลงทุนโดยตรง 100% ได้หรือไม่ หากไม่มีข้อบังคับก็จะตั้งบริษัทลูกขึ้นเพื่อลงทุนเองทั้งหมด ซึ่งหลังจากซื้อที่ดินได้แล้วจะต้องขออนุญาตก่อสร้างใช้เวลาประมาณ 3 เดือนหรือประมาณต้นปี 53 จึงจะสามารถลงมือพัฒนาได้”

ส่วนการที่รัฐบาลได้ลงนามเพื่อสนับสนุนการลงทุนของนักลงทุนอสังหาฯและบริษัทออกแบบในต่างประเทศว่า เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะจะทำให้มีความน่าเชื่อถือและลดความเสี่ยงด้านการลงทุน อีกทั้งการให้เงินกู้เพื่อลงทุนยิ่งเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้ประกอบการไทย ในส่วนบริษัทขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาในอีกหลายประเทศโดยเฉพาะประเทศจีนที่อยู่ระหว่างศึกษาและสำรวจสถานที่

ส่วนความคืบหน้าการลงทุนที่เมืองบังกะลอร์ ประเทศอินเดีย บริษัทได้ซื้อที่ดินและโอนกรรมสิทธิ์เรียบร้อยแล้ว จำนวน 65 ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขออนุญาตจัดสรรโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ส่วนประเทศเวียดนามอยู่ระหว่างการจดทะเบียนบริษัทร่วมทุนและดำเนินการซื้อที่ดิน ที่เมืองไฮฟอง จำนวน 145 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดฯและทาวน์เฮาส์

นอกจากนี้ การขยายการลงทุนในต่างประเทศแล้ว บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดด้วย โดยอยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมเรื่องทำเล ชลบุรี ภูเก็ต ขอนแก่น จากที่เห็นการพัฒนาโครงการที่นครปฐมในไตรมาส 4 นี้ ซึ่ง เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการรูปแบบทาวเฮาส์หรือบ้านเดี่ยวระดับราคา 2-2.5 ล้านบาท

สำหรับสถานการณ์ราคาวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็ก และปูนมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลจากราคาน้ำมัน แต่บริษัทก็ได้รองรับความเสี่ยงดังกล่าว ด้วยการประมูลซื้อล่วงหน้า 1- 2 ปี โดยใช้สัญญาค้ำประกันจากธนาคาร ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ สั่งซื้อเหล็กล่วงหน้า 2 ปีในราคา 19 บาท ส่วนปูนก็เช่นเดียวกันโดยจะเปิดประมูลปีต่อปี

“ เรื่องของมาตรการทางภาษีอสังหาฯนั้น หากรัฐบาลไม่ได้ต่อมาตรการ ซึ่งจะสิ้นสุดเดือนมี.ค.ปีหน้า ก็อาจจะทำให้ผู้ซื้อตกใจกับราคาที่อยู่อาศัยที่ปรับขึ้นไปไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5 และอาจทำให้ตลาดรวมเติบโตไม่มาก ”

ทุ่ม7พันล.ซื้อที่ดินตั้งเป้าโต33%

ด้านนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท พฤกษาฯ เปิดเผยว่า สำหรับแผนการลงทุนในปี 53 เตรียมงบซื้อที่ดินประมาณ 7,000-7,500 ล้านบาท หรือประมาณ 50 แปลง โดยจะเปิดโครงการประมาณ 48 โครงการ มูลค่าเกือบ 30,000 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวรวมโครงการในต่างจังหวัดและต่างประเทศด้วย โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตประมาณ 33%

สำหรับในไตรมาส 4 ของปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 17 โครงการมูลค่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับการเปิดตัวในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาที่เปิดไปแล้ว 17 โครงการ คาดว่าจะมียอดรับรู้รายได้ประมาณ 17,000-18,000 ล้านบาท ส่วนยอดขายคาดว่าจะทำได้เกิน 20,000 ล้านบาท ขณะที่บริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3 ที่ 15,202 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ 8,331 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายฐานลูกค้า ด้วยการเพิ่มแบรนด์ใหม่อีก 3 แบรนด์ ได้แก่ The Tree เป็นโครงการคอนโดฯ บีโอไอ, แบรนด์ Urbano ทาวเฮาส์ ใกล้เมืองระดับราคา 1.8-3 ล้านบาท โครงการแรกเปิดในย่านสุขาภิบาล 3 มูลค่า 600 ล้านบาท และแบรนด์ The Seed Theme คอนโดฯ ซึ่งทั้ง 3 แบรนด์จัดอยู่ใน 17 โครงการที่เตรียมจะเปิดตัวในไตรมาส 4 นี้ด้วย

LHกำไรสุทธิโตเกินคาด22%

นายอดิศร ธนนันท์นราพูล กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 3/52 บริษัทฯ และบริษัทย่อยโอนบ้านรวม5,023 ล้านบาท เพิ่ม40.8% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี51 เพิ่ม5.1% เทียบกับไตรมาส 2ที่ผ่านมา โดยมีกำไรสุทธิ1,159 ล้านบาท เพิ่มขึ้น34.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี51 และ5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส2ของปี

ทั้งนี้ ในช่วง9 เดือนแรกของปีบริษัทฯมียอดขายรวม12,768 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,906 ล้านบาท โดยยอดขายที่เกิดขึ้นในช่วง 9 เดือนแรก ดีกว่าประมาณการที่บริษัทฯทำไว้7% ในขณะที่ตัวเลขกำไรสุทธิทำได้สูงกว่าประมาณการ22% ซึ่งสาเหตุที่ตัวเลขกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย เนื่องจากสามารถทำกำไรขั้นต้นได้สูงกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับค่าใช้จ่ายทางด้านการขายและบริหารที่เกิดขึ้นจริงต่ำกว่าประมาณการค่าใช้จ่ายที่ได้ตั้งไว้ นอกจากนั้น ส่วนแบ่งกำไรที่ได้รับจากการลงทุนในบริษัทร่วมก็สูงกว่าที่เคยประมาณไว้ เนื่องจากบริษัทร่วมมีผลการดำเนินงานดีเกินประมาณการณ์

สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี52 บริษัทฯ ได้เปิดโครงการใหม่รวม8 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 11,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะเปิดโครงการใหม่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายอีก 2 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ใช้เงินซื้อที่ดินใหม่เข้ามา 2,500 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีบริษัทฯ จะซื้อที่ดินทั้งสิ้นประมาณ 4,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่เคยประมาณการไว้เพียง 3,000 ล้านบาท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us