|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ชมรม เอ็มเอไอ ซีอีโอ ยื่นหนังสือต่อ รมว.คลัง ขอขยายเวลาให้สิทธิลดภาษีนิติบุคคลแก่บริษัทในตลาดเอ็มเอไอ เหลือ 20% ตลอดไป หรือ 5 รอบบัญชี หลังครบกำหนดในปีนี้ ชี้ลดภาระค่าใช้จ่ายการดำรงฐานะ หนุนผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ยืนยันแม้ลดภาษีแต่รัฐสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น ทั้งช่วยดึงบริษัทเข้าจดทะเบียนมากขึ้น
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานชมรม เอ็มเอไอ ซีอีโอ (mai CEO) และประธานกรรมการบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ ILINK เปิดเผยว่า วานนี้(9 พ.ย.)ชมรมเอ็มเอไอ ซีอีโอ ได้มีการเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้ขยายเวลามาตรการให้สิทธิประโยชน์แก่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ โดยลดการเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 20% ตลอดไป หรือ ต่ออีก 5 รอบบัญชี เนื่องจาก บริษัทส่วนใหญ่ในตลาดmai หรือ ประมาณ 20 แห่งที่ได้รับสิทธิประโยชน์จะครบกำหนดในปี 2552
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเป็นบริษัทจดทะเบียน จากการที่รับภาระในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพยฯและยังมีภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎข้อบังคับของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)คือ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ค่าตรวจสอบบัญชี ค่าตอบแทนกรรมการชุดต่างๆ เงินสมทบกองทุน สำรองเลี้ยงชีพ ค่าจ้างบุคลากรที่เพิ่มขึ้น เช่น เลขานุการบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบ คณะกรรมการชุดต่างๆ
นอกจากนี้มีค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมผู้ถือหุ้น และการปฏิบัติตามวิธีการของตลาด เช่น การลงประกาศผ่านหนังสือพิมพ์ การเผยแพร่ข่าวสารฯลฯ รวมถึงมีขั้นตอนการปฏิบัติที่แตกต่างจากบริษัททั่วไป เช่น การปฏิบัติตามเกณฑ์ของก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ฯ ข้อปฏิบัติเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน การดำเนินการโดยโปร่งใส การจัดให้มีคณะกรรมการอิสระ และข้อบังคับที่ต้องมีคณะกรรมกรรมการตรวจสอบภายนอก
“บริษัทส่วนใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดดmai จะครบกำหนดที่จะได้รับลดหย่อนภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% จาก 30% นั้นจะครบกำหนดในปี 2552 เราจึงมีการปรึกษาร่วมกันกับบริษัทที่อยู่ในตลาดเอ็มเอไอเสนอให้ทางกระทรวงการคลังมีการขยายเวลาให้สิทธิประโยชน์ภาษีดังกล่าวตลอดไป แต่เราเข้าใจรัฐบาลอาจจะอึดอัดจึงได้เปิดอีกช่องทางจึงขอได้ต่อไปอีก 5 ปี เพื่อให้บริษัทในmaiมีการเตรียมตัวบ้าง ซึ่งมีผู้บริหารบริษัทในตลาดเอ็มเอไอ ลงชื่อจำนวน 26 บริษัท ”นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ กล่าวว่า การลดหย่อนภาษีนิติบุคคลให้บริษัทในตลาดเอ็มเอไอ เหลือ 20% จาก 30% นั้นส่งผลดีต่อรัฐบาลที่สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น โดยในปี 2549 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทเข้าจดทะเบียนจำนวนมากนั้น รัฐบาลมีการเก็บภาษีจากบริษัทดังกล่าวจำนวน 1,624 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนที่จะเข้าจดทะเบียนบริษัทดังกล่าวจ่ายภาษีเฉลี่ยปีละ 239 ล้านบาท และส่งผลให้มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ เพิ่ม 49 บริษัท
ทั้งนี้ หากกระทรวงการคลังขยายเวลาให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าวนั้น จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทจดทะเบียนแล้ว ยังจะส่งผลดีทำให้มีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น ทำให้ขนาดตลาดมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น และทำให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น อันจะก่อให้เกิดผลดีต่อภาพรวมต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไป ซึ่งหากกระทรวงการคลังไม่เห็นชอบดังล่าวนั้นจะส่งผลให้บริษัทในตลาดเอ็มเอไอ มีกำไรที่ลดลง จากมีค่าใช้จ่ายในการเป็นบริษัทจดทะเบียนจำนวนมาก และส่งผลให้บริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนน้อยลง ทำให้ตลาดเอ็มเอไอ เติบโตได้ช้า
นายไทยลักษณ์ ลี้ถาวร กรรมการ บริษัท ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)หรือ UEC กล่าวว่า การขอขยายเวลาสิทธิประโยชน์ทางภาษีดังกล่าวที่ชมรมฯได้มีการยื่นต่อกระทรวงการคลัง เพื่อที่จะให้ทางการรับทราบถึงผลกระทบของบริษัทในตลาดเอ็มเอไอ โดยตรง แม้ทางสมาคมบริษัทจดทะเบียนและตลาดหลักทรัพย์ฯมีการเสนอเรื่องดังกล่าว แต่หากทางการไม่เห็นชอบเรื่องดังกล่าวทางชมรมเอ็มเอไอ ซีอีโอ จะมีการยื่นหนังสืออีกครั้งต่อ ไป
|
|
|
|
|