เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเดินทางไปจังหวัดภูเก็ต 2 ครั้ง ใช้เวลาอยู่ที่นั่นครั้งละประมาณ 1 สัปดาห์ ทำให้ได้พบปะพูดคุยกับผู้คนจำนวนหนึ่ง

จากข้อมูลที่เห็นด้วยสายตาและได้รับจากการพูดคุย คนในจังหวัดภูเก็ตที่เกี่ยว ข้องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังวิตกกังวล ถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดที่ฤดูกาลท่องเที่ยวกำลังจะเริ่มต้นในเดือนนี้

ปมุข อัจฉริยะฉายประธานกะตะกรุ๊ป เจ้าของโรงแรมกะตะ บีช รีสอร์ท บอกว่า ยอดจองห้องพักโรงแรมในเดือนพฤศจิกายน ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ หากเปรียบเทียบกับปีก่อนๆ

ถามถึงเหตุผลว่าทำไมจึงปรากฏสัญญาณความซบเซา ของการท่องเที่ยวในภูเก็ตเกิดขึ้นในช่วงไฮซีซันปีนี้ ปมุขได้ให้ เหตุผลมาหลายข้อ

แต่เหตุผลหลักมาจากปัจจัยภายในประเทศ

โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการ การวางยุทธศาสตร์ การท่องเที่ยวของรัฐบาล

"รัฐบาลประกาศให้เรื่องการท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาติ แต่ทุกวันนี้ยังไม่มีตัวผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" เป็นคำกล่าวที่สะท้อนความขัดแย้งในเชิงนโยบายที่ชัดเจนอย่างยิ่ง

ความเห็นของปมุขสอดคล้องกับสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ที่บอกว่าตัวแปรที่บั่นทอนบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตมาตลอด ก็คือเรื่องภายในประเทศ

"10 กว่าปีที่ผ่านมา ภูเก็ตเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆมามาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเหุตการณ์ 911 สงครามในอิรัก วิกฤติโรคซาร์ส ไข้หวัดนก จนกระทั่งสึนามิ และการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 แต่ก็สามารถผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ นั้นมาได้ อาจจะชะงักไปบ้างแต่ก็สามารถกลับมาฟื้นตัวได้ใหม่ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจัยภายในกลับเป็นตัวทำลายบรรยา กาศการท่องเที่ยวที่รุนแรงกว่าเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้น"

แม้กระทั่งเทศกาลถือศีล-กินผัก ซึ่งเป็นเทศกาลประจำปีที่ขึ้นชื่อของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก

ปรากฏว่าเมื่อสอบถามไปยังกรรมการของศาลเจ้าต่างๆ ที่จัดพิธีในช่วงเทศกาลประจำปีนี้ (18-26 ตุลาคม) ได้ข้อมูลว่า ยอดเงินบริจาคที่ได้รับในปีนี้น้อยกว่าทุกๆ ปี

ถือเป็นดัชนีหนึ่งซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนผู้คนที่เข้ามาชมเทศกาลในปีนี้ที่อาจลดลง

การยกตัวอย่างสถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตล่าสุดมาบอกเล่ากับท่านผู้อ่าน ก็ด้วยเหตุผลที่จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดที่สามารถทำรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าประเทศไทยได้สูงที่สุดทุกปีเมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ

สัญญาณความซบเซาของการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต น่าจะเป็นดัชนีชี้วัดถึงภาพรวมของการท่องเที่ยวของประเทศในปีนี้ได้ไม่มากก็น้อย

ถือเป็นการให้ข้อมูลที่ต่อเนื่องจากเนื้อหาซึ่งได้นำเสนอ ในพื้นที่ตรงนี้ในฉบับที่แล้ว

ที่แสดงความกังวลถึงคนที่กำลังมองว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 4 ปีนี้ อย่าเพิ่งหลงระเริงจนเกินไป

ในตอนท้ายของพื้นที่นี้ในฉบับนี้คงต้องยืนตามบทสรุป ในตอนท้ายของเนื้อหาฉบับที่แล้วที่ว่า

"หากใครที่กำลังเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยกำลังจะฟื้นตัว ทางที่ดี ยิ่งมีความมั่นใจมากเท่าไรก็ต้องยิ่งเพิ่มความระมัดระวังเข้าไปมากเท่านั้น น่าจะเป็นวิธีการที่ปลอดภัยที่สุด"