|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แม้ต้องมองผ่านสายฝนที่ตกกระหน่ำอย่างหนัก Catherine Jack ก็ยังมองเห็นความสวยงามของตัวบ้านที่สร้างในลักษณะของกระท่อมสามหลังกระจายตัวอยู่ในพื้นที่สวนขนาดใหญ่ มีทะเลสาบและลำธารอยู่ในอาณาบริเวณอันกว้างขวางนี้ด้วย Catherine เล่าภาพประทับครั้งแรกว่า
"ขณะเดินผ่านประตูเข้ามาโดยมีน้ำฝนกระเซ็นออกจากตัว ของเราตลอดเวลานั้น ฉันบอกกับใจของตัวเองว่าฉันอยากอยู่ที่นี่"
Catherine กับ Ryan ผู้สามีลงทุนเดินทางจากลอนดอนเพื่อมาดูบ้านหลังนี้ด้วยเหตุผลที่ว่า
"เมื่อ Ryan เกษียณจากการเป็นทันตแพทย์แล้วเราได้ขายบ้านและตัดสินใจว่า เราอยากอยู่ในชนบทที่ไหนสักแห่งหนึ่งพร้อมสวนขนาดใหญ่"
แต่เพราะไม่สามารถหาบ้านในแบบที่ชอบได้ พวกเขาจึงยอมใช้วิธีประนีประนอมด้วยการหาบ้านในลอนดอนที่มีสวนอยู่ในบริเวณเดียวกัน เมื่อวิธีนี้ยังไม่ได้ผลทั้งสองจึงต้องซื้อแฟลตอยู่ใน Fulham ไปพลางๆ พร้อมกับหาบ้านในฝันต่อไป
แล้วจู่ๆ วันหนึ่ง Ryan กลับมาบ้านพร้อมโบกนิตยสารในมือเล่มหนึ่ง ข้างในลงรูปและประกาศขายบ้านทรงเสน่ห์สวยงามตามธรรมชาติในแถบชนบทของ Surrey เมื่อเดินทางไปดูบ้านในเดือนกรกฎาคมแล้ว หลังจากนั้นเพียง 3 เดือนพวกเขาก็ได้เข้าไปอยู่สมใจ
ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนแปลงอะไรลงไป สองสามีภรรยาบอกกับตัวเองว่าต้องทำความรู้จักบ้านหลังใหม่นี้เสียก่อนอย่างที่ Catherine อธิบายว่า
"จริงๆ แล้วมันเป็นกระท่อมสามหลังที่ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นบ้านใหญ่หลังเดียวจึงมีห้องเชื่อมต่อกันมากมายรวมทั้งทางเดินด้วย ที่สำคัญมีพื้นต่างระดับอยู่หลายแห่งซึ่งเราต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยอยู่พักหนึ่ง"
หลังจาก 4 เดือนแล้วพวกเขาจึงตัดสินใจได้ว่าจำเป็นต้องทำอะไรบ้าง
"เราไม่ชอบที่เวลาเปิดประตูหน้าแล้วเดินตรงไปถึงห้องครัวทันที เราอยากให้ครัวแยกออกไปต่างหากและมีโถงทางเข้าที่เหมาะสมกว่านี้"
พวกเขาแก้ปัญหาด้วยการสร้างครัวขึ้นมาใหม่ให้มีความสูงเป็นสองเท่าของมาตรฐาน โดยด้านบนเปิดสู่หลังคาทำให้รับแสงสว่างจากท้องฟ้าได้เต็มที่ (โปรดดูภาพประกอบ) นอกจากนี้ หน้าต่างทั้งสามด้านยังทำให้เกิดความโปร่งโล่งอากาศถ่ายเทได้ดีแถมยังมองเห็นวิวสวยๆ ของสวนตลอดไปจนถึงทะเลสาบที่อยู่ไกลออกไปด้วย หลังจากเปิดดูแบบอย่างจากนิตยสารหลายเล่มแล้ว Catherine ก็ได้พบห้องครัวสไตล์ที่เธอชอบและประหยัดงบประมาณด้วยการจ้างช่างไม้มาสร้างให้ วิธีนี้เธอเสียค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการไปซื้อครัวสำเร็จรูปตามโชว์รูม
จุดเริ่มต้นนี้เป็นแรงดลใจให้เธอคิดเปลี่ยนโฉมบ้านทั้งหมด "จริงๆ แล้วทุกอย่างในบ้านก็ทำได้ดีและอยู่ในสภาพดีพร้อมอยู่แล้ว เริ่มแรกฉันก็ชอบสีสันจัดจ้านหลากหลายที่มีอยู่แต่เดิม แต่หลังจากเวลาผ่านไปฉันเริ่มรู้สึกว่าบ้านดูเชยๆ และทึบทึม มีเครื่องตกแต่งสีเข้มๆ หนักๆ มากเกินไป ทั้งบ้านเต็มไปด้วยผ้าม่านบนพื้นก็ยังปูด้วยพรมสีน้ำเงินอีก แต่ฉันกลับหันมาชอบวัสดุธรรมชาติอย่างเช่นไหมสับปะรดมากขึ้น"
ห้องรับแขกเป็นตัวอย่างที่อธิบายสไตล์การตกแต่งที่ให้ความรู้สึกร้อนอบอ้าวและไม่สบายตัวได้เป็นอย่างดี Catherine อธิบายให้เห็นภาพว่า "ผนังห้องทาด้วยเฉดสีใบยาสูบ พื้นปูด้วยพรมสีเข้ม ส่วนผ้าม่านเป็นสีทองลายลูกแอปเปิลแถมยังมีโครงขนาดมหึมาบดบังความสวยงามของไม้ไปเสียครึ่งหนึ่ง"
เธอจึงตัดสินใจทำให้ห้องสว่างขึ้นด้วยการทาสีขาวนวล รื้อโครงหน้าต่างออกและติดตั้งผ้าม่านโดยใช้ผ้าบางเบากว่าของเดิม ส่วนพื้นปูด้วยพรมลวดลายทันสมัย สองสามีภรรยายังซื้อโซฟาหุ้มด้วยผ้าลินินสีกระสอบสองตัวมาตั้ง ทำให้ห้องรับแขกแลดูกว้างขึ้นแต่ยังคงบรรยากาศของกระท่อมแสนสบายเอาไว้ได้อย่างครบถ้วนโดยเฉพาะมุมข้างเตาผิงที่จัดให้มีชุดเก้าอี้อยู่ข้างๆ ตามแบบดั้งเดิม (ดูภาพประกอบ)
Catherine ยังโปรดปรานการนำงานไม้สีเข้มหรือมืดทึมมาทาสีใหม่โดยใช้สีอ่อน ถือเป็นทริคราคาถูกที่สุดในการทำให้บ้านแลดูสว่างและกว้างขวาง
สไตล์เฉพาะตัวอีกอย่างหนึ่งของ Catherine คือ การให้มีจุดโฟกัสชัดเจนในทุกๆ ห้อง "ถ้าจุดโฟกัสที่ว่านั้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่คุณรักมาก วิธีง่ายๆ ก็เพียงแต่จัดวางหรือตกแต่งโดยรอบเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้น" ตัวอย่างเห็นได้ชัดคงหนีไม่พ้นในห้องรับประทานอาหารซึ่งมีจุดโฟกัสอยู่ที่กระจกรูปแบบหรูหราบานมหึมาซึ่งวางอยู่บนตู้ถ้วยชามท่ามกลางเครื่องตกแต่งสวยๆ หลายชิ้นที่มีความสำคัญน้อยกว่า
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของบ้านหลังนี้คือเต็มไปด้วยผ้าพิมพ์ที่มีลวดลายและสีสวยงามน่าทะนุถนอม ซึ่งเจ้าของยอมรับว่าเป็นของรักที่เธอไม่อาจหักห้ามใจได้ ดังนั้น จึงต้องนำมาใช้ประโยชน์ในทุกที่ที่ทำได้ โดยเฉพาะในห้องนอนถือเป็นห้องทดลองสำหรับ Catherine ได้อย่างวิเศษ เธอจะสนุกสนานกับการเล่นกับสีและลวดลายของผ้าพิมพ์ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
|
|
|
|
|