|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง คึกคักไปด้วยผู้คนเต็มสองฟากฝั่งเจ้าพระยา กระทงรูปแบบต่างๆ จะไหลเป็นสายออกสู่อ่าวไทย ถ้าหากทนต่อสภาวะแวดล้อมรอบข้างได้
ล่องเรือชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ ล่องไปตามลำน้ำ ดูวิถีชีวิตชุมชนชาวริมน้ำ ร้านอาหาร ภัตตาคาร คอนโดมิเนียม โรงแรมหรู ต่างตกแต่งอย่างสวยงาม วัดวาอาราม ปราสาทราชวัง ยอดสูงเสียดฟ้า เปล่งแสงสีทองอร่ามตาระยิบระยับ ยามท้องฟ้าต้องแสงไฟ แสงดาวในยามค่ำคืน ตระการตายิ่งนัก
นั่งกินลมชมวิวผ่านโบสถ์ฝรั่ง ซานตาครูส ซึ่งได้ชื่อว่าเก่าแก่ และงดงามในศิลปะมากแห่งหนึ่ง ทำให้หวนนึกถึงขนมฝรั่งชนิดหนึ่งที่ชื่อกุฎีจีน ทำกันเป็นล่ำเป็นสันเป็นอาชีพสืบต่อกันมานานโข ว่ากันว่าเป็นขนมฝรั่งยุคแรกๆ ของบ้านเราทีเดียว
ถึงท่าน้ำสี่พระยา ไปรษณีย์กลาง (กรมไปรษณีย์โทรเลข) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อปี 2423 โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่าง วงศ์ ทรงเตรียมจัดตั้งกรมไปรษณีย์ตามแบบอย่างในต่างประเทศ โดยให้ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการกรมไปรษณีย์เป็นพระองค์แรก เปิดรับฝากจดหมายในเขตพระนครและธนบุรี เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2426 โดยที่ทำการตั้งอยู่ที่ริมฝั่งเจ้าพระยาตอนปากคลองโอ่งอ่างเรียกว่าไปรษณีย์อากร
กรมเจ้าท่า แบงก์สยามกัมมาจล ธนาคารแห่งแรกของประเทศไทย คือธนาคารไทยพาณิชย์ในปัจจุบัน
โรงแรมโอเรียนเต็ล ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ถือว่าดีที่สุดของโลก เปิดดำเนินกิจการเมื่อปี พ.ศ.2413 โดยซี ซาลเจ กะลาสีเรือชาวเดนมาร์ก เป็นอาคารที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น เมื่อ พ.ศ.2545 และยังเคยเป็นกองบัญชาการกองทัพญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย
โรงแรมแห่งนี้ได้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเจ้าของหลายยุคหลายสมัย เป็นสถานที่ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติมากมาย มกุฎราชกุมารนิโคลัสแห่งรัสเซียในปี พ.ศ.2434 เจ้าชายลุยจี อาเมดิโอ เชื้อพระวงศ์จากอิตาลี เมื่อ พ.ศ.2438 นักเขียนชื่อดังของอังกฤษ และบรรดาผู้มีชื่อเสียงระดับโลกในวงการต่างๆ มากมาย
มาสะดุดอยู่ที่ตึกเก่าแก่ อาคาร 3 ชั้นซึ่งยังมีสภาพร่องรอย ความงดงามในศิลปะการออกแบบก่อสร้างตกแต่งให้ได้รับรู้สึก ชาวบ้านเรียกอาคารหลังนี้จนติดปากว่าโรงภาษี โรงภาษีหรือศุลกสถาน (กรมศุลกากร) คนสมัยนั้นเรียกโรงภาษีชักสาม
ศุลกสถานสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อ พ.ศ.2437 โปรดฯ ให้ย้ายจากที่ทำการเดิมบริเวณปากคลองผดุงกรุงเกษมมายังที่ทำการใหม่ โดยโปรดฯ ให้นายช่างชาวอิตาเลียนชื่อกราสส์ เป็นผู้ออกแบบ ต่อมาย้ายที่ทำการไปยังท่าเรือกรุงเทพตั้งแต่ปี 2493
อาคารศุลกสถานเดิมเปลี่ยนเป็นที่ทำการกองตำรวจดับเพลิง
คำว่า "ศุลกากร" ได้บัญญัติขึ้นใช้โดยอธิบดีกรมศุลกากรคนแรก คือเจ้าพระยาภาสกรวงษ์ (พร บุนนาค)
ชุมชนย่านนี้เป็นแหล่งทำมาค้าขายของชนต่างชาติ เป็นท่าเรือขนถ่ายสินค้าจากทั่วโลกที่สำคัญของกรุงเทพฯ โกดังสินค้ายังเป็นที่อยู่อาศัยของชนชาวจีน อิสลาม ฝรั่งต่างชาติชาวตะวันตก ถือว่าเฟื่องฟูมากในยุคนั้น
ซอยแถวนี้จะเป็นที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ
ตรอกกัปตันบุช ปัจจุบันคือเจริญกรุง 30 อยู่ระหว่างตรอก ฮ่องกงกับไปรษณีย์โทรเลขกลาง มีระยะทางจากถนนเจริญกรุงจนสุดแม่น้ำเจ้าพระยา
เหตุที่ได้ชื่อว่าตรอกกัปตันบุช ด้วยเหตุที่ว่ากัปตันจอห์น บุช หรือพระยาวิสูตรสาครดิฐ เป็นชาวอังกฤษที่เชี่ยวชาญการเดินเรือ เป็นเจ้าของธุรกิจต่อเรือ เข้ามารับราชการในตำแหน่งเจ้าท่า สังกัดกรมเจ้าท่า และได้มีโอกาสปฏิบัติราชการใกล้ชิดรับใช้เบื้องพระยุคลบาท และได้ตามเสด็จประพาสต่างประเทศพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
กัปตันบุชและครอบ ครัวพำนักอาศัยอยู่ใกล้กรมเจ้าท่า จึงเรียกตรอกชื่อของชาวต่างประเทศผู้นี้ติดปากกันเรื่อยมา
ชุมชนแถบนี้เรียกว่าบางรัก คำว่า "บางรัก" เป็นคำที่มีผู้คนสงสัยถกเถียงในวงสนทนากันมากว่าคำนี้ มาจากไหนกันแน่ บ้างก็ว่าบางรักมาจากบางรักษา เนื่องจากมีโรงพยาบาลบางรัก (ร.พ.เลิดสินปัจจุบัน) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณนี้
บางคนบอกว่าบางรัก คือต้นไม้ คือต้นรัก บริเวณย่านนี้มีต้นรักขึ้นอยู่มากคนจึงเรียกว่าย่านบางรัก
ซึ่งเป็นชุมชนที่รุ่งเรืองมากและมีความหลากหลายของชนชาติ อารยธรรมต่างๆ มากมาย การถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรม ความเป็นอยู่การกินเกิดขึ้นมากมาย เช่น ทางศาสนา จะมีทั้งวัดทางพุทธศาสนา โบสถ์ฝรั่ง มัสยิด ให้ได้ปฏิบัติกิจ และยังทำให้เกิดร้านอาหารที่มีชื่อมากมาย เช่น ข้าวหมกไก่ ซุปหางวัว ขาหมู ตรอกซุง ขาหมูบางรัก เป็ดย่างประจักษ์ ขนมไทยบุญทรัพย์ ส.บุญประกอบ หรือขนมฝรั่งอย่างปั้นลี่เบเกอรี่ แม้แต่โจ๊กบางรักหน้าโรงหนังปรินส์ ซึ่งขายตลอด 24 ชั่วโมง ยังขายอยู่ในปัจจุบัน บนถนนเจริญกรุงหน้าตลาดบางรัก
การสัญจรไปมาในสมัยก่อนอาศัยทางน้ำเป็นหลัก เส้นทาง บกมีใช้น้อยมาก เมื่อเกิดการทำสนธิสัญญาระหว่างประเทศสยาม กับประเทศอังกฤษที่เรียกว่าสัญญบาวริ่ง จึงเกิดการค้าเสรีไม่ผูก ขาดจากราชสำนัก ทำให้ชาวต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาติดต่อค้าขาย กันมากขึ้น โดยเฉพาะย่านการค้าทางด้านใต้พระนคร จึงเกิดนิวโรด เป็นถนนสายแรกของกรุงเทพฯ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 มีพระราชประสงค์ขยายบ้านเมืองให้เจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ จึงโปรดฯ ให้ขยายถนนที่ขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาได้พระราชทานนามว่า "เจริญกรุง" ซึ่งมีอายุยืนยาวกว่า 100 ปีนับถึงปัจจุบัน แต่คนไทยในยุคก่อนนิยมเรียกขานว่าถนนตก เพราะการที่ถนนไปสิ้นสุดที่แม่น้ำเจ้าพระยา จากประวัติศาสตร์ถนนเจริญกรุงแบ่งเป็นตอนในและตอนใต้
บริเวณท่าน้ำสี่พระยานี้มีความสำคัญตั้งแต่สมัยปลายกรุง ธนบุรีต่อต้นรัชกาลที่ 1 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ณ บริเวณที่ตั้งสถานทูตโปรตุเกสปัจจุบัน เมื่อสมัยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีพระบรมราชานุญาตให้เป็นที่ตั้งกงสุลโปรตุเกส เมื่อมีสัมพันธไมตรีกับชาติโปรตุเกสอีกครั้ง
ณ บริเวณสถานที่แห่งนี้เคยเป็นบ้านขององเชียงสือ ซึ่งหนีภัยจากญวนมาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร จึงโปรดฯ ให้ตั้งบ้านเรือนอยู่ ช่วงรัชกาลที่ 1 องเชียงสือหนีกลับประเทศโดยเรือออกทางแม่น้ำเจ้าพระยาไป
ถนนสีลม ถนนธุรกิจสายสำคัญสายหนึ่งของกรุงเทพฯ แหล่งรวมห้างดัง ร้านค้า บริษัท ธนาคาร โรงแรม โรงพยาบาล โรงเรียน ภัตตาคาร ร้านอาหาร แหล่งชอปปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยว เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หรูหรามากมาย
ความยาวตลอดสายของถนนเกือบ 3 กิโลเมตร เป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนเจริญกรุงกับถนนพระราม 4
นอกจากนี้ยังเป็นถนนสายแรกที่เดินสายไฟฟ้าและสายโทรศัพท์ไว้ใต้ดิน
ถนนสีลมเกิดขึ้นพร้อมๆ กับถนนเจริญกรุง บำรุงเมือง เฟื่องนคร เป็นคันดินที่เกิดจากการขุดคลองเชื่อมคลองบางรักกับคลองถนนตก
คันดินจึงกลายเป็นถนนที่เรียกกันว่าถนนขวาง และเป็นที่มาของชื่อถนน
จากการที่ชาวต่างชาติได้นำเครื่องสีลม ซึ่งใช้สำหรับการวิดน้ำมาติดตั้งที่ถนนขวางนี้ โดยที่ดินในบริเวณทั่วไปยังเป็นที่นาโล่ง เครื่องสีลมวิดน้ำจึงดูโดดเด่นและกลายเป็นชื่อที่เรียกขาน ถนนในปัจจุบัน
ยังมีวัดทางศาสนาฮินดูที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาพระอุมาเทวีบนถนนสีลม คือวัดพระศรีมหาอุมาเทวี "วัดแขกสีลม" สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.2453 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เป็นวัดฮินดูที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
คณะชาวอินเดียที่ได้เข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ไวตีและญาติมิตรซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่บนถนนสายนี้ มีศรัทธาจิตสร้างวัดโดยได้แลกที่ดินของพวกตนกับสวนผักของปั้น อุปการโกษากร
วัดแขกสีลมมีเจ้าแม่ศรีมหาอุมาเทวีเป็นประธานองค์เทพและเทพีต่างๆ ซึ่งนำมาจากประเทศอินเดีย รวมถึงพระพิฆเนศวรองค์หนึ่งถือว่าเป็นเทพที่รักษาพรหมจรรย์ตลอดกาล ซึ่งเป็นคตินิยมของพราหมณ์ ฮินดูทางตอนใต้ ประเทศอินเดีย
พระพิฆเนศวร นั่งขัดสมาธิมี 4 กร พระกรขวาบนทรงอังกศะ พระกรขวาล่างทรงงาหักในลักษณะคว่ำส่วนปลายลงคล้าย เหล็กจาร พระกรซ้ายบนทรงปาศะ พระกรซ้ายล่างทรงขนมโมทกะ ซึ่งพระองค์ทรงใช้งวงหยิบอยู่ ทรงสวมการัณฑมงกุฎไม่มีงาข้างขวา พระองค์อ้วนเตี้ยค่อนข้างเทอะทะ แต่แฝงไว้ด้วยความหนักแน่นและอำนาจ
สถาปัตยกรรมเป็นศิลปะโบราณของอินเดียตอนใต้ ผสมผสานระหว่างสมัยโชดะและปาลกะ มีเทวาลัยขนาดเล็กบริเวณกลางลานเทวสถาน ภายในเป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ วัดแขกนี้เป็นวัดนิกายที่ผู้ก่อตั้งนับถือว่าเป็นลัทธิคือนับถือเทพสตรีเป็นหลัก
เจ้าแม่อุมา เป็นพระมเหสีของพระอิศวร ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพระผู้ทำลาย ถือได้ว่าเมื่อยามที่พระองค์เสวยร่างเป็นเจ้าแม่อุมา จะเป็นเจ้าแห่งความเมตตากรุณา และมีความสง่างาม ดังนั้นผู้ที่มีจิตศรัทธาจึงนิยมไปกราบไหว้บูชาขอพร โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและการขอบุตร
ในช่วงเทศกาลดูเซร่า "นวราตรี" ของชาวฮินดู วันขึ้น 1-9 ค่ำ เดือน 11 งานแห่พระแม่อุมา เชื่อกันว่าในช่วงนี้เป็นเวลาที่พระแม่อุมาและขบวนเทพจะเสด็จมายังโลกเพื่อประทานพรให้กับมนุษย์
ช่วงปากถนนสีลมต่อกับถนนเจริญกรุง เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลเลิดสิน ซึ่งให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร โดยมีชื่อเสียงในเรื่องการรักษาเกี่ยวกับโรคกระดูกอันดับต้นๆ
โรงพยาบาลแห่งนี้ก่อกำเนิดจากการที่ชุมชนเชื้อชาติต่างๆ บนถนนสายนี้ โดยเฉพาะฝรั่งชาติตะวันตกที่เดินทางเข้ามาค้าขายและพำนักอาศัยอยู่ย่านนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานบ้านหลวง ณ ตรงที่ปัจจุบันเป็นสถานพยาบาลสำหรับบำบัดและรักษาโรคสำหรับฝรั่งสมัยนั้น
นายแพทย์ทีเฮวาค์ เฮส์ เป็นผู้อำนวยการเมื่อ พ.ศ.2432 โดยมีชื่อว่าโรงพยาบาลบางรัก แต่ติดปากชาวบ้านในชื่อ "โรงพยาบาลหมอเฮส์"
พ.ศ.2434 ได้โอนสังกัดในกรมพยาบาล เปิดรักษาโรคให้ทั้งคนไทยและ ชาวต่างประเทศ ถือได้ว่านายแพทย์เฮส์ เป็นผู้หนึ่งที่ได้วางรากฐานการแพทย์แผนตะวันตก ซึ่งต่อมาได้ดำรงตำแหน่งแพทย์ใหญ่ทหารเรือ และดำรงตำแหน่งนายแพทย์ใหญ่ กรมพยาบาล และผู้อำนวยการใหญ่ ศิริราชพยาบาล และร่วมก่อตั้งโรงเรียนแพทยากร ซึ่งสอนวิชาแพทย์แผนฝรั่งขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย
จึงถือว่าโรงพยาบาลแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชนฝรั่งแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์
เนื่องจากโรงพยาบาลมีชื่อเสียงในด้านศัลยกรรม เมื่อเกิดกรณีพิพาท รศ.112 ได้รับรักษานายทหาร และราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนเรือรบฝรั่งเศส
พ.ศ.2472 ได้จัดตั้งแผนกสุขศาลาบางรักขึ้นเพื่อให้การรักษาบำบัดโรคทั่วไปและให้การสงเคราะห์แม่และเด็กเป็นแห่งแรก
เมื่อเกิด "กามโรค" ระบาดจึงได้มีการจัดตั้งแผนกบำบัดกามโรคในปี พ.ศ.2479 และได้สร้างอาคารสำหรับรักษาผู้ป่วยกามโรคในอีก 3 ปีต่อมา
การโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2446 ทำให้โรงพยาบาลได้รับความเสียหายจากระเบิดเพลิง จึงต้องหยุดกิจการที่รักษาโรคทั่วไปลงชั่วคราว เหลือเพียงแต่ผู้ป่วยกามโรคเพียงอย่างเดียว
คุณหญิงภักดีนรเศรษฐ์ (สิน เศรษฐบุตร) บริจาคเงินสร้าง ตึกผู้ป่วย 2 ชั้น 2 หลัง พร้อมบ้านพักแพทย์ขึ้นในโรงพยาบาล บางรักเดิม ขณะนั้นแผนกกามโรคได้ฐานะเป็นกองควบคุมกามโรค
กรมการแพทย์เป็นผู้ดูแลโรงพยาบาลบางรักเดิม โดยใช้ชื่อใหม่ว่าโรงพยาบาลเลิดสินสายธารแห่งชีวิต
นับได้ว่าโรงพยาบาลเลิดสินได้ดูแลผู้คนในชุมชนย่านสีลม บางรัก และบริเวณใกล้เคียงมายาวนานกว่า 100 ปี
ชุมชนบางรักแห่งนี้นอกจากกำเนิดสถานพยาบาลที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังมีสถานศึกษาอบรมกุลบุตรกุลธิดาที่ได้รับความนิยมจากผู้ปกครองส่งเข้าศึกษาอีกหลายแห่ง เช่น
โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ บางรัก สังฆราชหลุยเวย์เห็นว่าเมื่อมีโรงเรียนชาย อัสสัมชัญบางรัก ก่อตั้งใกล้กับอาสนวิหารแล้ว น่าจะมีโรงเรียนหญิงด้วย ได้ติดต่อคณะภคินี เซ็นต์ปอล เดอชาลมา ซึ่งมาจากประเทศฝรั่งเศส และได้เปิดดำเนินกิจการโรงพยาบาลเซ็นต์หลุยส์ขึ้นในประเทศไทย เข้ามาเป็นผู้บริหารโรงเรียน เซอร์ เซ็นต์วาเรียร์ เป็นอธิการิณีคนแรก
โดยถือว่าวันที่ 2 มีนาคม 2448 เป็นวันก่อตั้ง เริ่มเปิดมีนักเรียน 37 คน ครูฆราวาส ภคินีอีก 3 ท่าน ได้ให้การอบรมสั่งสอนให้การศึกษาแก่เด็ก จะได้เป็นผู้มีคุณธรรมและพลเมืองที่ดีของประเทศไทย
บุตรธิดาของชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยได้สมัครเข้าเรียนเป็นจำนวนมาก การสอนในระยะแรกเน้นหนักไปในด้านภาษาต่างประเทศ คือภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน โปรตุเกส และภาษาไทย
นอกจากความรู้ทางวิชาการแล้ว เด็กๆ ทุกคนจะต้องได้รับการอบรมในเรื่องจริยธรรม สังคมสงเคราะห์ ซึ่งกิจกรรมพิเศษนี้ยังคงรักษาไว้อยู่ในปัจจุบัน
เมื่อโรงเรียนมีนักเรียนเพิ่มขึ้น การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับ จึงได้รับอนุญาตจดทะเบียนเป็นโรงเรียนราษฎร์ ขึ้นกับกระทรวงศึกษาธิการ (กระทรวงธรรมการ) เมื่อ พ.ศ.2464 ต่อมาได้ขยายชั้นเรียนจากเดิม ม.6 ไปถึง ม.8
พ.ศ.2480 ได้รับรองวิทยฐานะเทียบเท่าโรงเรียนรัฐบาลจากกระทรวง จึงได้ดำเนินการสอนตามหลักสูตรตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
พ.ศ.2496 ได้จัดตั้งโรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา ขึ้นอีกแห่งในบริเวณใกล้เคียงกัน เพื่อรองรับปริมาณ นักเรียนที่เพิ่มขึ้น
อัสสัมชัญคอนแวนต์พัฒนาปรับปรุงและรับเฉพาะนักเรียนหญิง ป.1-ม.6 และขยายโรงเรียนไปที่ถนนประมวญ สีลม และที่ลำนารายณ์ จังหวัด ลพบุรีด้วย
อัสสัมชัญมีรากศัพท์มาจากภาษาละติน ซึ่งแปลว่าการยกขึ้น ส่วนคำว่า Convent หมายถึงสถานที่ซึ่งภคินีพำนักอยู่รวมกัน
การใช้ชื่อโรงเรียนว่าอัสสัมซัญคอนแวนต์ เพราะสถานที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ในบริเวณอาสน-วิหาร ซึ่งเป็นการถวายเกียรติแด่พระแม่มารีอา ผู้ซึ่งยกขึ้นสวรรค์กายและวิญญาณ
เมื่อพูดถึงเบเกอรี่ หรือขนมฝรั่งแล้ว เราพอทราบประวัติว่า มีเข้ามาในเมืองไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาเป็นราชธานีในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
เหตุที่ไม่เป็นที่นิยมและแพร่หลายในช่วงแรก เนื่องจากส่วนผสมต่างๆ ของขนมนั้นต้องนำเข้า จะมีต้นทุนสูง จึงมีความนิยมอยู่ในวงจำกัด แถมยังไม่มีตำรา หรือโรงเรียนเปิดสอนเช่นปัจจุบัน ต้องเรียนรู้จากการลักจำ เช่นมีเรื่องเล่าว่ามีชาวจีนเป็นลูกจ้างในเรือสินค้าฝรั่ง เมื่อพวกฝรั่งจะทำอาหาร ขนมปังจะแอบทำ ปิดล็อกประตู ชาวจีนจะปีนห้องแอบดูว่าใส่อะไรบ้างมีส่วนผสมอย่างไร แล้วมาทดลองทำดู
เตาอบขนมเบเกอรี่ใช้เตาถ่าน ไม่ใช่เตาแก๊สเช่นปัจจุบัน ชาวจีนไหหลำได้ชื่อว่าสุดยอดฝีมือในการสร้างเตาอบแบบก่ออิฐมอญทนไฟ สำหรับเตาแบบที่จะมีเกลือช่วยกระจายความร้อน
ขนมฝรั่งในยุคนี้ได้รับการปรับปรุงพัฒนา สร้างสรรค์ในรูปแบบต่างๆ มากมาย อุปกรณ์เครื่องมือที่หลากหลายทันสมัยมากขึ้น
วัตถุดิบในการทำราคาไม่แพง หาง่าย จึงทำให้แพร่หลายและนิยมในวงกว้างขึ้น
แป้งสาลีที่มีโปรตีนสูง นิยมมาทำขนมปังเพื่อให้ได้แป้งที่มีโครงสร้างเส้นใยจับตัวกัน ทำให้เนื้อเหนียวและนุ่ม
เค้กมีความเบาฟู จะใช้แป้งสาลีโปรตีนต่ำ เช่น ชิฟฟอนเค้ก หรือถ้าแป้งสาลีที่มีโปรตีนปานกลางเพื่อให้เนื้อแป้งมีความเหนียวเล็กน้อย คือให้คุณสมบัติกรอบร่วน เหมาะสำหรับการทำพัฟพาย
ถ้าใช้แป้งสาลีที่มีโปรตีนค่อนข้างสูง เหมาะกับการทำคุกกี้ เพราะจะทำให้มีความกรอบร่วนแบบนุ่มๆ
น้ำตาลมีหลายชนิด น้ำตาลไอซิ่ง น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายแดง
การใช้น้ำตาลแต่ละชนิดขึ้นอยู่กับวิธีการผสม ข้อสำคัญเมื่อผสมแล้วจะไม่มีเกล็ดน้ำตาลอยู่
ผงฟู เป็นสารที่ช่วยให้ขนมมีความฟู นุ่ม
เบกกิ้งโซดา ช่วยเสริมให้เนื้อขนมขึ้นฟูและส่วนผสมไม่ตกตะกอน ใช้ใส่ในส่วนผสมของหนัก และมีน้ำตาลในตัว เช่น เนื้อกล้วยหอม
ยีสต์ เพื่อเพิ่มปริมาณเนื้อขนมปัง ลักษณะโครงสร้างที่ดีเกิดจากการหมัก ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากสารประกอบต่างๆ ในแป้ง ทำให้แป้งขยายตัวขึ้น
ยีสต์นี้แบ่งออกเป็นยีสต์สำเร็จรูป ช่วยลดเวลาในการผสมแป้ง สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิห้องปกติ แต่ต้องเก็บไว้ในภาชนะที่ฝาปิดสนิท
ยีสต์สด อายุการใช้งานสั้นและต้องเก็บไว้ในตู้เย็น
ยีสต์แห้ง แบบละลายน้ำก่อนใช้ โดยละลายในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส
เนยมีหลายแบบ เนยสด เนยขาว และมาการีน
เนยสดจากน้ำนมวัวชนิดเข้มข้นสีเหลืองอ่อน จึงจำเป็นที่จะต้องแช่เย็นไว้เสมอ ก่อนนำมาใช้งานต้องทิ้งไว้ให้อ่อนตัวก่อน
เนยขาว นิยมนำมาทาถาดหรือพิมพ์สำหรับอบ หรือผสมกับเนยสดเพื่อที่จะได้ครีมสำหรับการแต่งหน้าเค้ก
เพสตรีมาการีน เป็นมาการีนที่ใช้ในการพับให้เกิดชั้นของพาย มีความเหนียวและการรีดกลึงได้ง่าย และทำให้ชั้นของแป้งสูงขึ้น
นอกจากนี้ยังมีเกลือช่วยปรุงแต่งรสให้กลมกล่อม นมและไข่อีกด้วย
เค้กแบ่งได้เป็น 3 ชนิด
- เค้กที่มีไขมันเป็นส่วนผสมหลัก มีปริมาณไขมันสูง การขึ้นฟูเกิดจากการตีเนยเอาอากาศเข้าไปแล้วขยายตัวระหว่างการอบ เช่น เค้กเนย เค้กผลไม้ หรือเค้กช็อกโกแลต
- เค้กที่มีไข่เป็นส่วนผสมหลัก ต้องทำด้วยความพิถีพิถันเป็นพิเศษเนื่องจากฟองที่เกิดจากการตีไข่อ่อนตัว เมื่อใส่แป้งไปในส่วนผสม เช่น เค้กจำพวกแยมโรล
- หรือเค้กที่แยกไข่ขาวไข่แดง เป็นเค้กที่รวมเค้กเนย เค้กไข่เข้าด้วยกันมีโครงสร้างละเอียด เค้กไข่มีเนื้อที่มันเงาเช่นเค้กเนยเบาและนุ่ม จำพวกชิฟฟอนเค้กนั่นเอง
ชนิดของขนมปัง
- ขนมปังปอนด์ ขนมปังแซนด์วิช เป็นขนมปังที่มีไขมันน้อย ลักษณะเป็นแท่ง
- ขนมปังฝรั่งเศส มีไขมันต่ำ แป้งต้องมีปริมาณกลูโคสสูง เพื่อให้ทนต่อการหมักได้
- ซอฟต์โรล มีไขมันและน้ำตาล 12-15% ของแป้ง มีรสหวาน นุ่ม เนื้อละเอียด เช่น ขนมปังพวกแฮมเบอร์เกอร์ ฮอทดอก ขนมปังหวาน เช่น ขนมปังไส้ต่างๆ ขนมปัง ลูกเกด ต่างจากขนมปังจืดที่ส่วนผสม
เมื่อรู้เรื่องขนมเบเกอรี่บ้างแล้ว คราวนี้จะพาไปชิมและรับรู้เรื่องราวกว่าจะมาเป็นร้านเบเกอรี่ที่มีสมญานามว่า "อันใหญ่และไส้เยอะ" ชื่อ "ปั้นลี่" ตั้งอยู่เลขที่ 1335 ถนนเจริญกรุง หัวมุมถนนสีลม มีความเป็นมา เป็นใครมาจากไหนจึงประสบความสำเร็จ ทำอาชีพนี้ส่งลูกเลี้ยงหลานเรียนจนประสบความสำเร็จในชีวิตต่อมามากมายหลายชีวิต
ปู่หั่นตี้ ชาวจีนไหหลำ ทำสวนผักแถวสนามม้าฝรั่ง ปทุมวัน ถูกไล่ที่จากชาวต่างชาติ เนื่องจากเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 กอปรกับเป็นช่วงเวลาที่กำลังทุกข์ทรมานจากการจากไปของสามี
เธอหอบลูกสาวลูกชายรวม 4 ชีวิต ระหกระเหินไปเป็นแม่ครัวที่ถ้วนน่ำเฮง แถววัดแขกสีลม โดยมีเพิงชายคาร้านเป็นที่อาศัยนอนยามค่ำคืน
เมื่อมารดาเป็นแม่ครัว สายพิณในฐานะพี่สาวคนโตในวัย 13 ปี จึงอาสาช่วยมารดาหาเงินเลี้ยงปากท้องของครอบครัวอีกแรงหนึ่ง
โดยการขอซื้อขนมที่ร้านถ้วนน่ำเฮง ใส่ตะกร้าหิ้วไปตั้งขาย ที่บริเวณหน้าร้านขายผ้าไหม-ถ้วยชามย่านชุมชนบางรัก ซึ่งมีผู้คนสัญจรไปมากันคับคั่ง เพราะเป็นที่ผู้คนต่อรถลงเรือที่สำคัญของกรุงเทพฯ ยุคนั้น ซึ่งเจ้าของร้านเอ็นดูเหมือนลูกหลานให้ตั้งขายได้ ทุกเช้าเมื่อตั้งตะกร้าสินค้าเสร็จเรียบร้อย สายพิณจะมองไปรอบตึกแถบนั้น และตั้งปณิธานไว้ว่า สักวันหนึ่งจะต้องเป็นเจ้าของตึกนี้ให้ได้
จากหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินและด้วยความมานะอดทน ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา และมีน้ำใจ ซึ่งเป็นที่รู้ของผู้คนในแถบนี้ เมื่อร้านผ้าไหม-ถ้วยชามจะเลิกกิจการได้กระซิบบอกสายพิณให้ไปเซ้งต่อกับเจ้าของซึ่งเป็นเจ้านายเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง
ส่งผลให้เธอได้มีร้านค้าขายที่เป็นของตนเองในเวลาต่อมา เมื่อครบกำหนดสัญญาจ่ายค่าเช่า เธอและแม่ได้รับการผ่อนผันให้นำเงินก้อนดังกล่าวไปใช้หมุนเวียนในกิจการก่อน
เมื่อเริ่มกิจการ คุณอาซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องเพิ่งออกจากการเป็นกุ๊กที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ซึ่งเชี่ยวชาญในเรื่องของเบเกอรี่โดยเฉพาะ รับอาสาสอนสูตรเคล็ดลับ ช่วยกิจการร้านขนมปัง
โดยสร้างเตาอบด้วยอิฐมอญทนไฟบริเวณหลังร้าน ใช้ถ่านไม้โกงกางจากร้านเจ้าประจำท่าน้ำสี่พระยา และเกลือที่ใช้กระจาย ความร้อนไปทั่วเตาสั่งจากจังหวัดชลบุรี (ลูกๆ จำได้ว่าตอนเด็กๆ มารดาหวงเกลือพอๆ กับหวงทองคำ)
ช่วงแรกที่เปิดร้านจะทำขนมปังกะโหลกขาย ลูกค้าประจำจะเป็นฝรั่งเดินเรือส่งสินค้า โดยเฉพาะช่วงขากลับประเทศจะสั่งไว้ไปกินในเรือระหว่างการเดินทาง
ลูกค้าที่สำคัญอีกกลุ่ม คือชุมชนชาวไทยมุสลิม จะนำขนมปังไปจิ้มกับอาหารของพวกตน
ขนมปังไส้ไก่จะขายดีที่สุดในยุคนั้น จากความชำนาญการ เนื่องจากการเป็นแม่ครัว ปู่หั่นตี้จึงมีสูตรเด็ดเคล็ดลับในการผัดไส้ โดยมีหัวหอมใหญ่ไม่ทำให้บูดเสีย เป็นที่นิยมของคนทั่วไป โดยเฉพาะชาวอิสลามผู้เคร่งในเรื่องของอาหารการกิน เชื่อใจและไว้ใจ เพราะปั้นลี่สั่งซื้อไก่จากคนอิสลามมาผัดไส้ใส่ขนมปังนั่นเอง
เมื่อสายพิณ กุลประเสริฐรัตน์ และสามี ต้องรับช่วงดำเนินกิจการต่อจากมารดา เธอได้กำลังใจเพิ่มจากลูกค้าคนสำคัญ คือจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จะสั่งขนมปังกะโหลกวันละ 2 แถวแทบทุกวัน และเมื่อเวลาภาครัฐบาลมีงานใหญ่ จัดงานเลี้ยง จะสั่งเบเกอรี่ที่ร้านทำกันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็มี ทำให้เธอได้คิดเพิ่ม ขนมปังไส้ต่างๆ อีกมากมาย เช่น เนยสด แฮมชีส ทูน่า ครัวซองต์ ไส้กรอก แฮมหยอง
ขนมปังไส้หมูแดง เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดเมื่อหลายปีก่อน
เธอเล่าว่าไปฮ่องกง มีโอกาสได้ชิมขนมปังไส้หมูแดง เมื่อกลับมาเมืองไทยลองทำดู โดยสูตรของตัวเองออกขาย ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
หรือเมื่อก่อนเวลาพิธีแต่งงาน ยังนิยมจัดตามภัตตาคาร หรือโรงแรม โดยจะสั่งทำเค้กหลากชั้นไปใช้ในงาน สายพิณได้สั่งตุ๊กตาจากต่างประเทศประดับตกแต่งบนเค้กให้ลูกค้า ทำให้ดูหรูหราได้รับความนิยมของหนุ่มสาวในยุคนั้น
เค้กจะมีหลากรส เค้กเนยสด กาแฟ ฟรุตเค้ก กล้วยหอม ทอฟฟี่เค้ก
แม้จะเป็นเศษเล็กเศษน้อยก็มีคุณค่า เมื่อมีการตัดตกแต่งเค้ก เธอจะต้องใช้ภาชนะที่สะอาดรองรับเศษเค้ก เพื่อไว้ขายอีกด้วย
เพื่อนซึ่งมีนิวาสสถานบ้านช่องและเรียนหนังสือในแถบนั้นเล่าให้ฟังว่า สมัยเด็ก (พ.ศ.2510 โดยประมาณ) ทุกเย็นเมื่อกลับจากโรงเรียนจะต้องวิ่งไปซื้อเศษเค้กที่ตัดมานั่งทานเสมอ เพราะขายถูกและมีหลายรสเป็นที่นิยมของผู้คนมาก
คุกกี้ มีให้ชิมมากมายกว่า 30 รสชาติ นำเรียงใส่โหลใหญ่ อย่างมีระเบียบเรียบร้อยสวยงาม คุกกี้กุ้ง เนยสด นมสด งาดำ ข้าวโอ๊ต ถั่ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ขิง
สมัยก่อนจะขายเป็นกิโล เป็นขีด เมื่อของใหม่เสร็จจากเตาจะต้องช่วยกันรื้อของที่ยังขายไม่หมด เพื่อนำของใหม่เรียงลงก้นโหลก่อนเพื่อลูกค้าจะได้รับประทานของใหม่สดเสมอ ส่วนมากจะหมดในแต่ละวันไม่มีของเหลือค้าง
ขนมปังแถวถ้าเหลือจากการขายในแต่ละวัน จะดัดแปลงไปทำซุปน้ำเกลือ ทาเนย โรยน้ำตาล นำไปอบ แล้วนำมาขายในราคาถูก หรือแจกในบางครั้ง
เมื่อสายพิณอายุเข้าใกล้ 80 ปีเข้าไปทุกที ซึ่งต้องยอมรับว่าเหนื่อยมามากแล้ว ต้องการแขวนนวมเสียที ทุกเช้ามืด เธอและเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกันจะพากันนั่งรถเมล์ (ไม่รู้ว่าเป็นรถเมล์ครีมแดง รถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชนหรือเปล่าไม่ได้บอก) ไปออกกำลังกายที่สวนลุมพินี เมื่อเสร็จภารกิจจะพากันนั่งแท็กซี่มายังเซ็นต์หลุยส์ สาทรใต้ เพื่อหาอะไรรับประทานพร้อมทั้งชอปปิ้งก่อนกลับบ้าน โดยให้น้องชาย น้องสะใภ้ดูแลกิจการที่ได้สร้างมากับมือให้รุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป (เนื่องจากลูกๆ ได้แตกแขนงไปดำเนินธุรกิจด้านอื่นกันหมด) แต่ยังอดไม่ได้ที่จะแวบมาเมียง มองด้วยความสุขใจในบางครั้ง
เนื่องจากมองเห็นแววของจณินท์ วัฒนเตพงศ์ วัย 20 ปีเศษ หลานชายคนโปรดจึงมอบให้รับผิดชอบดูแลในเรื่องการตลาดหน้าร้าน
ปัจจุบันมีการแข่งขันทางด้านการตลาดในธุรกิจเบเกอรี่สูงมาก ฉะนั้นกลยุทธ์ทางด้านการตลาดจึงต้องถูกนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ แต่ยังมีภาพลักษณ์เดิมอยู่เป็นหลัก แต่สอดใส่ความทันสมัยเพื่อจะได้เป็นที่นิยมของคนในทุกรุ่น ทั้งลูกค้าเดิม และได้รับการตอบรับจากคนรุ่นใหม่
ตั้งแต่การปรับปรุงร้าน มีมุมกาแฟ มุมขายหน้าร้านทั้งปลีกและส่งลูกค้ารายใหญ่ ลูกค้ารายย่อย ภาชนะบรรจุจากใส่โหล กลายเป็นใส่กล่อง ใส่ถุงสวยงาม แอร์คอนดิชั่นเย็นฉ่ำ สำหรับลูกค้าที่มานั่งดื่มกาแฟ ทานของว่าง หรือสำหรับลูกค้านั่งรอที่ต้องการของใหม่สด โดยเฉพาะลูกค้าหลักของร้านที่ตื่นกันตั้งแต่ตีสี่ เพื่อรับไปขายอีกต่อหนึ่ง หรือมาแวะซื้อไปทานที่ออฟฟิศเป็นอาหารเช้า
ให้ความสำคัญใส่ใจโดยเฉพาะการอบรมดูแลพนักงานให้มีจิตใจให้บริการที่ดี การพูดจา การรับโทรศัพท์ เป็นที่ประทับใจแก่ผู้พบเห็นและได้ยิน และยังเริ่มลองตลาดด้วยการขยายไปยังพื้นที่ต่างๆ เปิดเป็นบูธเล็กๆ เช่น ที่เซ็นทรัลพระราม 3 เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีบริการในเรื่องจัดเลี้ยงในงานต่างๆ นอกสถานที่ เริ่มด้วยราคา 15 บาท โดยมีน้ำสมุนไพรที่อยู่ในเทรนด์ของคนยุคนี้ไว้บริการอีกด้วย
การที่ปั้นลี้เบเกอรี่เปิดรับให้บริการยืนหยัดมากว่า 50 ปีแล้ว ด้วยความใส่ใจ โดยเฉพาะการเป็นผู้ให้ในเวลาที่เหมาะสม อย่างเช่น จะนำของที่จำหน่ายไม่หมดแต่ละวันไปแจกจ่าย เช่น บนวอร์ดแพทย์ พยาบาล คนไข้ของโรงพยาบาลบริเวณใกล้เคียง โดยถือว่าเป็นแนวทางกลยุทธ์ทางการตลาดของปั้นลี่ที่ได้ผลในวิธีหนึ่ง เมื่อคนที่ได้รับเหล่านี้หายจากการป่วยไข้จะกลายเป็นลูกค้าของร้านในที่สุดนั่นเอง
นั่งคุยอยู่หลายชั่วโมง ลูกค้ารุ่นเก่าแก่ ทั้งใหม่สดซิงๆ คละเคล้าเข้ามาตลอดเวลาในบรรยากาศเก่าปนความอินเทรนด์ แม้ว่าเตาอบแบบก่ออิฐมอญไม่มีให้เห็นแล้ว ความอร่อยในรสชาติของปั้นลี่ยังคงมีให้ได้สัมผัส โดยเฉพาะขนมปังสังขยาที่เป็นไส้ยอดนิยมของคนยุคนี้มากที่สุด ต้องลองถึงจะรู้ครับ
|
|
|
|
|