|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมเจอร์ โบว์ล ปิดเกมใช้ราคาล่อลูกค้า หลังพบไม่ช่วยเพิ่มการเติบโต เดินหมากแก้เกมใหม่ปีหน้า ชูกลยุทธ์พาร์ทเนอร์ชิฟ มุ่งสู่ความเป็นแมสมากขึ้น ขยายฐานลูกค้าเพิ่มทั้ง 3 กลุ่มหลัก มั่นใจศักยภาพใน 30 สาขา ส่งรายได้ปีหน้าเป็นบวก จากปีนี้ทรงตัว เหตุต้นปีไทยเจอวิกฤตถล่มหลายเรื่อง
นายอนวัช องค์วาสิฎฐ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีนี้ภาพรวมธุรกิจโบว์ลิ่ง พบว่า รายได้ค่อนข้างทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา เพราะครึ่งปีแรกประเทศไทยเจอผลกระทบหลายด้าน ทั้งสภาพเศรษฐกิจและไข้หวัด 2009 ขณะที่ปีนี้บริษัทได้พยายามหากลยุทธ์ทางการตลาดมาปรับใช้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การจัดทำโปรโมชั่นโยนโบว์ลราคาพิเศษสำหรับกลุ่มนักเรียน แต่ทำได้เพียงสร้างรายได้ทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา และถึงสิ้นปีคาดว่ารายได้จะทรงตัวเท่าปีก่อน
อย่างไรก็ตาม จากกลยุทธ์โปรโมชั่นราคาพิเศษนี้ ส่งผลให้ยอดการเติบโตของรายได้ในกลุ่มนักเรียนเติบโตขึ้น 5% แต่เมื่อดูในภาพรวมแล้ว รายได้ยังคงทรงตัว ดังนั้นจึงมองว่า กลยุทธ์ทางด้านราคา ไม่ประสบความสำเร็จในการทำรายได้ เนื่องจากตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่ได้นำกลยุทธ์ราคามาใช้นั้น พบว่าโดยเฉลี่ยเมเจอร์ โบว์ล ไม่มีการเติบโตขึ้นเลย
ดังนั้นในปีนี้ บริษัทจึงได้ศึกษากลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ๆ เพื่อจะนำไปใช้ในปีหน้า ล่าสุดพบว่า กลยุทธ์พาร์ทเนอร์ชิฟ สามารถช่วยผลักดันรายได้ให้มีการเติบโตขึ้นได้ ปีหน้าจึงจะจับมือกับพาร์ทเนอร์ชิปหลายราย ในขณะนี้เจรจากันอยู่ 15 ราย
เพื่อทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกัน โดยพาร์ทเนอร์ชิฟ เหล่านี้ จะต้องมีกลุ่มเป้าหมายกลุ่มเดียวกันกับเมเจอร์ โบวล์ เช่น AIS, ไทยประกันชีวิต และสถาบันการเงิน เชื่อว่าจะช่วยทำให้บริษัทขยายฐานลูกค้าสู่ระดับแมสได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้ฐานลูกค้าหลักทั้ง 3 กลุ่ม คือ คนวัยทำงาน, นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มเด็กลงมา จะมีจำนวนเพิ่มมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย จากจำนวนสาขาทั้งหมด 26-30 สาขา
โดยในปีหน้าทำกิจกรรมมากยิ่งขึ้น ต้องใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นอีก 30% จาก 10-20 ล้านบาทจากปีนี้ โฟกัสเรื่องของพาร์ทเนอร์ชิปและกลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา จากเดิมที่เล่นแต่เรื่องราคา จะเริ่มทำเมมเบอร์
มอบสิทธิพิเศษและกิจกรรมพิเศษให้มากขึ้น จากปัจจุบันฐานสมาชิกเมเจอร์ โบว์ล กว่า 50,000 คน จะเป็นกลุ่มวัยทำงานเป็นหลัก
นอกจากนี้ ยังจะโฟกัสเรื่องของบันเทิงมากขึ้นด้วย ในการเข้ามาสังสรรค์และร้องคาราโอเกะ โดยได้ร่วมกับเครื่องดื่มบางแบรนด์ จัดกิจกรรมร่วมกันด้วย เชื่อว่าจากกลยุทธ์ที่กล่าวมา ปีหน้าเมเจอร์ โบว์ล น่าจะกลับมามีรายได้เติบโตขึ้นจากปีนี้ อย่างเห็นได้ชัด ขณะที่รายได้จากเมเจอร์โบว์ล มีสัดส่วนเพียง 10% ของรายได้รวมเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปโดยอันดับหนึ่ง คือ รายได้จากธุรกิจโรงภาพยนตร์ 60% รองลงมา คือ รีเทล และโฆษณา 30 % และสุดท้ายคือโบว์ลิ่ง 10%
ล่าสุดเมเจอร์ โบว์ล ได้ร่วมกับทางสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย และไทยประกันชีวิต จัดแข่งขัน “ไทยแลนด์ โบว์ลิ่ง ยูนิเวอร์ซิตี้ ชาเลนจ์ 2009” ชิงถ้วยพระราชทาน ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี และทุนการศึกษารวมกว่า 1 ล้านบาท สำหรับนิสิต นักศึกษา อายุระหว่าง 18-25 ปี เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ จนถึง 30 พ.ย. นี้
โดยจะเริ่มทำการแข่งขันรอบคัดเลือกในวันที่ 3-4 ธ.ค.นี้ และปิดการแข่งขันมอบรางวัลในวันที่ 18 ธ.ค.2552
|
|
|
|
|