ผู้บริหารบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ ประสานเสียงเชื่อฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาฯในไทยไม่เกิด เหตุภาวะตลาดไม่ได้ดีมาก แม้ราคาบ้านและที่ดินปรับขึ้น ระบุยังแบงก์เข้มปล่อยกู้ซื้อบ้านรายย่อย ค่ายเอพี แจงยอดขายคอนโดฯแบรนด์ดิ แอดเดรส กระฉูด 7,000 ล้านบาท ส่งผลยอดขาย 10 เดือนแตะ 16,000 ล้านบาท คาดสิ้นปีทะลุ 17,000 ล้านบาท
จากความกังวลของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศ (ธปท.)ต่อความเสี่ยงจากภาวะการเงินที่ผ่อนคลาย และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมาเป็นเวลานาน ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่อาจเกิดภาวะฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เมื่อเศรษฐกิจกลับมาอยู่ในช่วงขาขึ้น ทำให้นักลงทุนเข้ามาซื้ออสังหาฯในช่วงเศรษฐกิจเริ่มฟื้น อีกทั้งยังสามารถขอสินเชื่อได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการได้แสดงความเห็นถึงความกังวลดังกล่าวของกนง. โดยนายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการผู้จัดการ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS กล่าวว่า การเกิดฟองสบู่ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนี้ของเมืองไทยเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ยากมาก เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์ของไทยไม่ได้ปรับตัวขึ้นไปสูงมาก อย่างที่เกิดขึ้นในประเทศจีน อีกทั้งภาวะการขายแม้ว่าจะดีขึ้นกว่าช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้ดีมากจนทำให้เกิดการเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ได้ นอกจากนี้ คนที่ซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ ใช้เงินเย็นหรือเงินเก็บที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาซื้ออสังหาริมทรัพย์แทนการฝากเงินหรือลงทุนในประเภทอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนต่ำ
ด้านนายวิษณุ สุชาติล้ำพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AP กล่าวแสดงความเห็นที่สอดคล้องกันว่า การเกิดฟองสบู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยมีความเป็นไปได้น้อยมาก เพราะนับจากเกิดวิกฤตฟองสบู่เมื่อปี 2540 ธนาคารพาณิชย์ต่างๆมีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ธนาคารแต่ละแห่ง ต้องนำระบบเงินสำรองกองทุนขั้นที่ 2 หรือ Basel II มาใช้ ทำให้ธนาคารต้องมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพิ่มไปอีก แม้ว่าจะมีความต้องการปล่อยสินเชื่อ แต่หากลูกค้ามีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ก็จะไม่ปล่อยสินเชื่อให้ ต่างจากประเทศจีนที่กำลังมีปัญหาวิกฤตฟองสบู่ในช่วงนี้ เพราะรัฐบาลมีคำสั่งให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อ แม้ว่าผู้กู้จะด้อยคุณภาพก็ตาม
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า สำหรับภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันถือว่าปรับตัวดีขึ้นมาก พิจารณาได้จากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ ดิ แอดเดรส( THE ADDRESS )ของ เอพี ทั้ง 3 แห่ง คือ ถนนอโศก ,ถนนสุขุมวิท และถนนสาทร รวมมูลค่า 9,000 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ยทั้ง 3 โครงการ 85% หรือประมาณ 7,000 ล้านบาท และในช่วงกลางเดือนนี้เตรียมเปิดอีก 1 โครงการ คือ บ้านกลางเมือง พระราม 9- ลาดพร้าว บนเนื้อที่ จำนวน 150 ยูนิต ซึ่งจะเป็นโครงการสุดท้ายที่จะเปิดตัวในปีนี้
ส่งผลให้ปัจจุบัน เอพี มียอดขายรวม 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการดิแอดเดรสทั้ง 3 โครงการ 7,000 ล้านบาท โครงการแนวราบ 5,000 ล้านบาท และที่เหลือเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่เปิดมาก่อนหน้านี้ คาดว่าสิ้นปีบริษัทจะมียอดขายจำนวน 17,000 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้ ยังคงเป้าหมายเดิมคือ 10,000 ล้านบาท
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการในปีหน้า ยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนในโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบที่ระดับ 50:50 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่เหมาะสม เพราะแม้ว่าคอนโดมิเนียมจะสามารถสร้างสีสันในด้านยอดขาย แต่การรับรู้รายได้ใช้เวลานาน 2-3 ปี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีโครงการแนวราบที่สามารถรับรู้ได้เร็วไว้ในสัดส่วนที่เท่ากัน
|