ตลาดสินเชื่อบุคคลเงียบไม่คึกคัก ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่มั่นใจ และใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง แม้จะมีกระแสว่าเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ความเชื่อมั่นในการบริโภคขยับตัวดีขึ้นบ้างก็ตาม แต่โดยรวมสินเชื่อบุคคลก็ยังน่าเข้าไปเล่น เพราะสามารถเลือกกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพได้ ทำให้ทั้งแบงก์ และนอนแบงก์โหมโรงกลับมาบุกธุรกรรมด้านนี้อีกครั้งในช่วยท้ายปี52
บัตรกรุงไทย หรือ 'เคทีซี' เดินเกมตามเทรนทันทีที่ตลาดสินเชื่อบุคคลเริ่มมีสัญญาณขยับตัว จากผู้ประกอบการทั้งแบงก์และนอนแบงก์เข้ามาเล่นมากขึ้นด้วยการออกแคมเปญล่อใจให้มาสมัครเป็นลูกค้า ขณะเดียวกันก็กระตุ้นกลุ่มลูกค้าเก่าในพอร์ตให้มีการบริโภคอย่างต่อเนื่อง
กระนั้นก็ตามการเดินเกมของเคทีซีครั้งนี้ สุดาพร จันทร์วัฒนากุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล เคทีซี บอกว่า จะต้องทำอย่างระมัดระวัง ไม่โหมบุกหนักเพียงเพื่อต้องการขยายฐานลูกค้า แต่การทำตลาดในครั้งนี้ สำหรับลูกค้าใหม่แล้วจะมีการกลั่นกรองอย่างดีเพื่อเลือกกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายและสามารถชำระคืนหนี้ได้ตามกำหนด
นับว่าไม่ใช่โจทย์ง่าย ๆ สำหรับผู้ประกอบทั้งระบบที่เข้ามาเล่นตลาดสินชื่อบุคคลในยามที่เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยเช่นนี้ นั่นเพราะผู้ประกอบการทุกรายต่างก็ต้องการกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพดีเยี่ยมทั้งด้านการใช้จ่ายและชำระคืนหนี้ ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับการเลี่ยงที่จะเลือกกลุ่มลุกค้าที่ต่างออกไป ซึ่งนั่นหมายความว่าเป็นไปได้สูงที่ทุกค่ายทุกองค์กรต่างมีลูกค้าเป้าหมายเป็นกลุ่มเดียวกัน แต่การจะแชร์ส่วนแบ่งตลาดได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับสิทธิประโยชน์ที่จะให้ลูกค้า ไม่เท่านั้นหากรวมถึงแบรนด์ของผู้ประกอบการ กิจกรรมต่างๆที่จัดขึ้นให้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย
สุดาพร มองว่าเป็นเรื่องจำเป็นในสถานการณ์เช่นนี้ที่แบงก์ และนอนแบงก์ต้องเลือกลูกค้าที่มีคุณภาพ ถ้าจะเอาแต่ปริมาณอาจส่งผลกระทบต่อฐานะความมั่นคงองค์กรได้ เพราะท้ายสุดแล้วการเลือกขยายฐานลูกค้าโดยเน้นปริมาณอาจทำให้เกิดหนี้เสีย หรือเอ็นพีแอลเพิ่มสูงขึ้นได้
ในส่วนของ เคทีซี เมื่อเข้ามาเล่นตลาดสินเชื่อบุคคลแล้วก็มีโปรโมชั่น หรือแคมเปญเพื่อเป็นการจูงใจ ซึ่ง สุดาพร บอกว่า เคทีซีได้ออกแคมเปญกระตุ้นยอดสินเชื่อพร้อมใช้ "KTC CASH Revolve" โดยหากสมัครและได้รับการอนุมัติ รับกระเป๋าเดินทางล้อลาก G2000 มูลค่า 3,500 บาท นอกจานนี้ยังสามารถใช้ "คะแนนแทนดอกเบี้ย" โดยลูกค้าสินเชื่อส่วนบุคคลสามารถใช้คะแนนสะสมที่มีอยู่มาแลกรับดอกเบี้ย 0% ใน 1 หรือ 2 รอบบัญชี นับเป็นครั้งแรกในวงการสินเชื่อบุคคลที่มีการใช้คะแนนสะสมแลกรับดอกเบี้ย
ส่วนลูกค้าสินเชื่อบุคคลอเนกประสงค์ "เคทีซี แคช" ได้จัดแคมเปญ "CASH for U โครงการเงินสดโอนทั้งก้อน" คือลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ให้โอนเงินสดทั้งก้อนในวงเงินที่เหลืออยู่ที่ได้รับอนุมัติผ่านแคมเปญ ดังกล่าวโดยจะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ลูกค้าที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดีและเปิดบัญชีมาแล้ว 1 ปี จะได้รับวงเงินเพิ่มโดยอัตโนมัติ
ทั้งนี้ เคทีซี มีสินเชื่อ 2 ประเภทให้เลือกใช้ตามความต้องการของลูกค้า คือ สินเชื่ออเนกประสงค์ 'เคทีซี แคช' ที่คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ได้รับวงเงินสูงสุด 5 เท่า เลือกชำระได้สูงสุด 60 เดือน หรือชำระแบบขั้นต่ำ 5% หรือ 600 บาทตามที่กำหนด และไม่มีค่าปรับกรณีปิดบัญชีก่อนกำหนด
ส่วน เคทีซี แคช รีโวล์ฟ (KTC CASH Revolve) สินเชื่อรูปแบบใหม่ที่ให้อิสระทางการเงิน เพียงโอนเงินเข้าบัญชีก้อนแรก พร้อมรับบัตรกดเงินสดเพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน โดยเงินต้นที่ชำระแล้วจะคืนไปที่บัตรกดเงินสด คิดอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า ค่าธรรมเนียมรายปี และค่าธรรมเนียมจิปาถะอื่นๆ ชำระขั้นต่ำเพียง 3% หรือ 300 บาทตามที่กำหนด และรับคะแนนสะสมทุกการเบิกถอนและมียอดคงค้างเพื่อรับของรางวัลจาก KTC Forever Rewards หรือรับเงินโอนเข้าบัญชี และ โดยสินเชื่อทั้งสองประเภทจะได้รับส่วนลดและสิทธิประโยชน์จากร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ Make Sense
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2552มีพอร์ตลูกหนี้การค้ารวมสุทธิเท่ากับ 46,775 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 2.15 ล้านบัญชี ประกอบด้วย สินเชื่อบุคคล 'เคทีซี แคช' เท่ากับ 514,000 บัญชี และมียอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคลเคทีซี แคช สุทธิ เท่ากับ 10,979 ล้านบาท
ด้านธนาคารกสิกรไทย เองก็ก้าวเข้ามาเล่นตลาดสินเชื่อบุคคลด้วยเช่นกันในช่วงไตรมาสสุดท้าย ด้วยการเปิดตัวโปรโมชั่นพิเศษสินเชื่อเงินสดทันใจกสิกรไทย (K-Express Cash) ซึ่ง ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บอกว่าเป็นสินเชื่อบุคคลที่ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 20% ต่อปี และสามารถถอนเงินสดได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
สามารถสมัครใช้บริการตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2553 และมียอดเงินคงค้างเฉลี่ยตั้งแต่ 30,000บาทขึ้นไปภายใน 60 วันแรก จะได้รับฟรี ที่พักโรงแรม-รีสอร์ท 2 วัน 1 คืน มูลค่าสูงสุด 10,000บาท
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลยังน่ากังวล โดยจากบทวิเคราะห์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า สินเชื่อส่วนบุคคลในปีนี้ทั้งปี น่าจะมีอัตราที่หดตัวลง โดยได้ปรับประมาณการสินเชื่อส่วนบุคคลในปี 2552 ลง ซึ่งคาดว่าน่าจะหดตัว 4.0% ถึงหดตัว 5.9% (222,000- 215,700 ล้านบาท) จากปี 2551 โดยมีสาเหตุมาจาก ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างรุนแรงในช่วงต้นปี ที่ยังคงมีผลกระทบต่อเนื่องมายังผู้บริโภคบางกลุ่ม ทำให้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จึงยังคงเห็นการลดลงของจำนวนบัญชีสินเชื่อส่วนบุคคล (ลดลง 14.5% ถึงลดลง 17.6%) และยอดคงค้างสินเชื่อส่วนบุคคลนี้ปรับลดลงจากปีก่อนหน้า (ลดลง 4.0% ถึงลดลง 5.9%)
นอกจากนี้การอนุมัติสินเชื่อยังคงอยู่บนพื้นฐานของความระมัดระวัง ภายใต้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังคงมีความเปราะบาง ทำให้ผู้ประกอบการเองยังคงต้องระมัดระวังในการอนุมัติสินเชื่อ รวมถึงการปรับระบบการบริหารความเสี่ยง เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต ส่งผลให้การเพิ่มขึ้นของบัญชีใหม่จึงยังไม่สูงนัก
อีกทั้งโครงการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ซึ่งสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐบางแห่งที่เน้นการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ได้มีการทำแคมเปญสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ในอัตราดอกเบี้ยที่จูงใจ ซึ่งอาจจะมีผลให้ผู้บริโภคบางกลุ่มหันไปใช้บริการกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐได้ โดยปัจจัยดังกล่าวข้างต้นอาจส่งผลต่อการขยายตัวของสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และ Non-Bank ในปีนี้
|