ศูนย์ข้อมูลฯ ชี้ตลาดอสังหาฯ 8 เดือนแรกทรงตัว คอนโดสร้างเสร็จจดทะเบียนสูงสุด ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการพุ่งสูงสุดในรอบ 2 ปี สะท้อนจัดสรรเชื่อมั่นตลาดฟื้น เดือน ก.ย. คอนโดมาแรงหวนครองแชมป์เปิดตัวใหม่สูงสุด

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยตัวเลขที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียน 8 เดือนแรกของปี 2552 ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม) ว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 54,029 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2% แบ่งเป็นแนวราบ 27,515 ยูนิต และคอนโดมิเนียม 26,514 ยูนิต ซึ่งคิดเป็น 49% ของที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จจดทะเบียนทั้งหมด รองลงมา คือบ้านเดี่ยว 36% ทาวน์เฮาส์ 9% อาคารพาณิชย์ 4% บ้านแฝด 2% หากดูจากทำเลพบว่า อยู่ในกรุงเทพฯ 55% นนทบุรี 19% สมุทรปราการ 7% ปทุมธานี 6% สมุทรสาคร 6% และนครปฐม 6%

เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วพบว่า ตัวเลขบ้านสร้างเสร็จจดทะเบียนของบ้านเดี่ยวลดลง 19% จาก 24,259 ยูนิต เหลือ 19,604 ยูนิต ทาวน์เฮาส์และอาคารพาณิชย์ลดลง 27% จาก 9,542 ยูนิต เหลือ 7,006 ยูนิต ในขณะที่บ้านแฝดเพิ่มขึ้น 49% จาก 609 ยูนิต เป็น 905 ยูนิต และคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น 42% จาก 18,665 ยูนิต เป็น 26,514 ยูนิต

ทำเลที่มีที่อยู่อาศัยแนวราบสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่มากที่สุด คือ บางบัวทอง 1,433 ยูนิต คิดเป็น 5% รองลงมา คือ อำเภอเมืองปทุมธานี สายไหม บางขุนเทียน อำเภอเมืองสมุทรสาคร ประเวศ ทุ่งครุ บางใหญ่ หนองจอก และคลองสามวา ส่วนคอนโดมิเนียมมีการจดทะเบียนรวม 26,514 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 42% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ 24%พัฒนาโดยบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ 34% พัฒนาโดยบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ 42% ส่วนใหญ่การพัฒนาคอนโดมิเนียมจะอยู่ในกรุงเทพฯ ถึง 64% และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต จากโครงการแอร์พอร์ต ลิงก์ที่จะเปิดให้บริการในเดือน เม.ย. ปีหน้า ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยบนที่ดินใกล้สถานีตามแนวรถไฟฟ้าสายใหม่ โดยจะมีผลมากที่สุดในแถบ 4-5สถานีชั้นในใกล้เมือง ส่งผลให้คอนโดมิเนียมเกาะแนวรถไฟฟ้าได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าเดิม คือ รถไฟฟ้าบีทีเอสและรถไฟใต้ดินได้

ทำเลที่มีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่มากที่สุด คือ อำเภอเมืองนนทบุรี 2,906 ยูนิต คิดเป็น 11% รองลงมา คือ บางบัวทอง พระโขนง ห้วยขวาง บางกะปิ จตุจักร อำเภอเมืองสมุทรสาคร สาทร อำเภอเมืองสมุทรปราการ และสวนหลวง ใน 10 ทำเลดังกล่าวคิดเป็น 65% ของจำนวนยูนิตคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จจดทะเบียนใหม่ทั้งหมดในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ทั้งนี้ยูนิตทั้งหมดในทำเลบางบัวทองอำเภอเมืองสมุทรสาคร และอำเภอเมืองสมุทรปราการ ที่สร้างเสร็จจดทะเบียนรวม 5,088 หน่วย มาจากโครงการบ้านเอื้ออาทรทั้งหมด

ส่วนการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในไตรมาส 3 และความคาดหวังในอีก 6 เดือนข้างหน้า พบว่า อยู่ในระดับสูงสุดตั้งแต่มีการจัดทำดัชนีมาตั้งแต่ปี 2550 และปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่แล้ว หลังจากที่เคยตกต่ำที่สุดในไตรมาส 4 ปี 2551 สะท้อนว่าดีเวลลอปเปอร์มีความเชื่อมั่นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในต้นปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่จะหมดอายุใน 6 เดือนข้างหน้าจะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้ ซึ่งความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นจะมีผลต่อการลงทุนใหม่ด้วย อย่างไรก็ตามพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของบริษัทที่ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนยังต่ำกว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งถือเป็นดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ โดยมีความกังวลในเรื่องผลประกอบการและต้นทุน

ด้านเอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟรส์ เปิดเผยตัวเลขที่อยู่อาศัยเดือน ก.ย. ว่า มีการเปิดตัวโครงการใหม่รวม 21 โครงการ 4,314 หน่วย มากกว่าเดือนที่ผ่านมา 1 โครงการ มูลค่าโครงการรรม 20,691 ล้านบาท โดยคอนโดมิเนียมมีการเปิดตัวมากที่สุด รวม 2,474 หน่วย หรือ 57.3% รองลงมา คือ บ้านเดี่ยว 795 หน่วย หรือ 184% ทาวน์เฮาส์ 758 หน่วย หรือ 17.6%

ซึ่งในเดือนนี้คอนโดมิเนียมเป็นที่อยู่อาศัยที่กลับมาแรงในตลาดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเดือน ส.ค. ทาวน์เฮาส์ครองแชมป์เปิดตัวโครงการใหม่มากที่สุด ทั้งนี้คอนโดมิเนียมที่เพิ่งเปิดตัวจะอยู่ในทำเลใจกลางเมืองเป็นหลัก และใกล้สถานีรถไฟฟ้า ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี มียอดจองซื้อสูง บางโครงการขายหมดภายในเวลาไม่ถึงเดือน

มูลค่ารวมของโครงการที่เปิดใหม่ในเดือน ก.ย. มีจำนวนทั้งสิ้น 20,691 ล้านบาท สูงกว่าเดือนที่ผ่านมา 50% เพราะเน้นระดับราคาปานกลางค่อนข้างสูง และราคาสูงเป็นหลัก คือ 3-5 ล้านบาท และ 5-10 ล้านบาท โดยราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้อยู่ที่ 4.796 ล้านบาทต่อยูนิต สูงกว่าเดือนที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 3.2 ล้านบาทต่อยูนิต

ส่วนดีเวลลอปเปอร์ที่เปิดโครงการส่วนใหญ่เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ พฤกษาฯ โนเบิลฯ บางกอกแลนด์ ณุศาศิริแกรนด์ ภัทรเฮ้าส์ แอนด์ พร็อพเพอรตี้ อารียาฯ เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ ส่วนบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่ พลัส พร็อพเพอร์ตี้ และคาซ่าวิลล์