บตท.ฟื้นภารกิจเดินหน้าพัฒนาตลาดรองสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ เตรียมออกพันธบัตร 3 พันล้านบาทขายสถาบันทำซีเคียวรีไทเซชั่นสินเชื่อสถาบันการเงิน หลังทดสอบตลาดร่วมกับกสิกรไทย 500 ล้าน รอบอร์ดธอส.ไฟเขียว

นางดวงพร อาภาศิลป์ กรรมการและผู้จัดการ บรรษัทตลาดรองสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย(บตท.) เปิดเผยว่า บตท.มีความพร้อมในการออกพันธบัตรเพื่อทำการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์(ซีเคียวรีไทเซชั่น) สินเชื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินในประเทศ หลังจากที่ได้เริ่มโครงการกับธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)KBANK วงเงิน 500 ล้านบาทเป็นแห่งแรกและตลาดมีทิศทางตอบรับที่ดี

โดยในปัจจุบันบตท.ได้ลงนามข้อตกลงกับสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรไปแล้วจำนวน 3 แห่ง คือธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)(KBANK) ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด(มหาชน)(KK) เพื่อทำโครงการออกตราสารหนี้หนุนโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage Backed Securities : MBS) โดยการแปลงสินทรัพย์จากกองสินเชื่อที่จัดซื้อมาด้วยวิธีจัดซื้อขาด ให้เป็นหลักทรัพย์ด้วยการออกตราสารหนี้หนุนโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างสภาพคล่องให้กับสถาบันการเงินในการปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์และพัฒนาระบบตลาดตราสารหนี้ไทยเพิ่มขึ้น

"เบื้องต้นที่ลงนามกับ 3 สถาบันการเงินนี้เพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อของบตท.ให้มากขึ้นตามภารกิจการเป็นตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัยของบตท.หลังจากที่หยุดชะงักไประยะหนึ่งเนื่องจากประสบปัญหาทุจริตจากสินเชื่อในอดีต แต่ปัจจุบันเรามีความพร้อมช่วยให้สถาบันการเงินมีต้นทุนทางการเงินต่ำและคงที่ระยะยาว ทำให้สามารถบริหารต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการสร้างผลิตภัณฑ์ด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่ ๆ ให้มีความหลากหลายให้แก่สถาบันการเงิน ส่งผลให้มีการพัฒนาตลาดผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่อนาคตต่อไป"นางดวงพรกล่าว

สำหรับในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บตท.จะซื้อพอร์ตสินเชื่อจากธอส.วงเงิน 3 พันล้านบาทซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการธอส.โดยคาดว่าจะสรุปได้ภายในสิ้นเดือนนี้ รวมทั้งได้มีการหารือกับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดกลาง 3-4 รายเพื่อปล่อยสินเชื่อให้กับภาคอสังหาริมทรัพย์เช่นกัน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

นางดวงพรกล่าวว่า ส่วนการออกพันธบัตรของบตท.เพื่อระดมเงินในการทำซีเคียวรีไทเซชั่นก่อนสิ้นปีนี้จะออกพันธบัตรวงเงิน 700 ล้านบาท เป็นการขายแบบเฉพาะเจาะจงให้กับนักลงทุนสถาบัน อายุประมาณ 3 ปีให้สอดคล้องกับการซื้อพอร์ตสินเชื่อของธนาคารกสิกรไทย และในต้นปีหน้าจะออกพันธบัตรอีก 1.5 – 2 พันล้านบาทสำหรับซื้อพอร์ตสินเชื่อจากธอส.หลังจากที่บอร์ดธอส.อนุมัติโครงการนี้

"ตอนนี้ถือว่าบตท.มีความพร้อมที่จะเดินหน้าภารกิจที่จัดตั้งขึ้นมาแล้วหลังจากเมื่อ 3-4 ปีที่แล้วประสบปัญหากับการทุจริตสินเชื่อที่ซื้อจากบริษัทเครดิตฟองซิเอร์(บค.) ไทยเคหะ และได้แก้ปัญหาจบแล้วดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนพอร์ตสินเชื่อที่มีปัญหากว่า 2.5 พันล้านบาทก็ขายให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ หรือบสก.แล้ว" นางดวงพรกล่าว