Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน26 ตุลาคม 2552
อำพลฟูดส์ปรับทิศโฟกัสเครื่องดื่ม             
 


   
search resources

Soft Drink
อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง, บจก.




อำพลฟูดส์ ทุ่ม 40 ล้านบาท เร่งโฟกัสกลุ่มเครื่องดื่มธัญพืช รับกระแสสุขภาพบูม ปัดฝุ่นฟิท-ซี ลุยตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ เท 20 ล้าน แตกโปรดักส์ไลน์กะทิอบควันเทียน เจาะกลุ่มอุตสาหกรรมทำขนม หวัง 5 ปี รายได้ 4,000 ล้านบาท กลุ่มเครื่องดื่มมีรายได้ 50% เครื่องครัว 50%

นายกฤษฎา โสภา ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกะทิชาวเกาะ และเครื่องดื่มธัญพืชวีฟิท เปิดเผยว่า นโยบายของบริษัทในช่วง 5 ปีนี้ มุ่งทำตลาดกลุ่มเครื่องดื่มในเชิงรุกมากขึ้น โดยต้องการเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก 15% เป็น 50% จากปัจจุบันมีเครื่องดื่มธัญพืชน้ำข้าวกล้องวี-ฟิท น้ำลูกเดือยโปร-ฟิท และเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ฟิท-ซี ส่วนธุรกิจที่สร้างรายได้หลักมาจากกลุ่มเครื่องครัวกะทิชาวเกาะ มีสัดส่วนรายได้ 80% และอีก 5% เป็นเครื่องปรุงรสเพื่อสุขภาพกู๊ดไลฟ์

สำหรับกลยุทธ์กลุ่มเครื่องดื่มจากนี้ บริษัทเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ เพื่อขยายความถี่ในการดื่ม ล่าสุดได้รีลอนช์ ฟิท-ซี ใหม่ เพื่อรองรับกับตลาดฟังก์ชันนัลดริงก์ที่กำลังมาแรง ส่วนกลุ่มวี-ฟิท น้ำข้าวกล้อง และโปร-ฟิท น้ำลูกเดือย บริษัทจะเปิดตัวรสชาติใหม่ เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับผู้บริโภค โดยปีนี้ใช้งบการตลาด 40 ล้านบาท

ขณะที่ช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด 70% และอีก 30% เป็นเทรดิชันนัลเทรด จากปัจจุบันตลาดเครื่องดื่มธัญพืชมูลค่า 300-400 ล้านบาท

“พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากมีการศึกษาดีขึ้นและสภาวะแวดล้อมที่มีมลพิษ ทำให้คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ดังนั้นการดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับอาหารและเครื่องดื่ม ต้องปรับเปลี่ยนตามพฤติกรรมของผู้บริโภค”

ส่วนกลุ่มเครื่องครัว บริษัทได้ทุ่มงบ 20 ล้านบาท แตกโปรดักส์ไลน์กะทิชาวเกาะสำเร็จรูปใหม่ โดยเป็นกะทิอบควันเทียน เจาะกลุ่มอุตสาหกรรมสำหรับใช้กะทิสำเร็จรูปผลิตขนม จากปัจจุบันกะทิสำเร็จรูปดั้งเดิม เจาะอุตสาหกรรมประกอบอาหาร ซึ่งด้านการจัดจำหน่ายผ่านเทรดิชันนัลเทรด 70% และอีก 30% เป็นโมเดิร์นเทรด นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกู๊ดไลฟ์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ใส่ใจสุขภาพ

สำหรับตลาดกะทิสำเร็จรูปมูลค่า 4,000 ล้านบาท เติบโต 20-30% โดยปัจจุบันกะทิชาวเกาะเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 75% ที่เหลืออีก 20% เป็นกะทิอร่อยดี และอีก 5% เป็นอื่นๆ อย่างไรก็ตามการเปิดตัวกะทิอบควันเทียน เพื่อสร้างตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคในรูปแบบการใช้สินค้าตามการใช้งานมากยิ่งขึ้น

นายกฤษฎา กล่าวว่า บริษัทยังมุ่งเน้นตลาดส่งออกในเชิงรุกมากขึ้น โดยล่าสุดได้จัดตั้งทีมขายให้ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลก เนื่องจากบริษัทวางเป้าหมายสัดส่วนจาก 20% เป็น 50% ส่วนภายในประเทศจาก 80% เหลือเป็น 50% และจากนโยบายในเชิงรุก 5 ปี บริษัทตั้งเป้าผลประกอบการ 4,000 ล้านบาท จากปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้ 1,600 ล้านบาท เติบโต 30%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us