|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“จัดสรร” เมืองท่องเที่ยวระบุ นักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับไทย โดยเฉพาะภูเก็ต เชื่ออีก 3-4 เดือนยอดขายอสังหาฯฟื้นตาม แนะเร่งจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย หลังกำลังซื้อกลับเข้าตลาด
นับจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกเกิดขึ้นและรุกรามไปทั่วโลก ผลกระทบที่ไทยได้รับเป็นลำดับต้นๆ คือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลงจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโรงแรม และเศรษฐกิจของเมืองท่องเที่ยวอย่างมาก โครงการที่อยู่อาศัยไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม บ้านพักตากอากาศ รีสอร์ท วิลล่าหรู หลายโครงการยอดขายแทบจะไม่เกิดขึ้นในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา และสิ่งที่ผู้ประกอบการทำได้คือรอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยว กลับมาอีกครั้ง
ปัจจุบัน ถือว่าสถานการณ์ต่างๆ เริ่มคลี่คลายเศรษฐกิจโลกแม้ว่าจะไม่มีใครกล้าฟันธงว่าฟื้นตัวแล้วอย่าง ชัดเจน แต่ก็ถือว่าผงกหัวขึ้น แต่ก็มีหลายประเทศที่ชัดเจนแล้วว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว และเริ่มมีนักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวเมืองไทยบ้างแล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว (ไฮซีชั่น) ของเมืองไทย
ทั้งนี้นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัทชาญอิสสระ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ภูเก็ตและหัวหิน กล่าวว่า ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเริ่มกลับเข้ามาเที่ยวเมืองไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะภูเก็ตที่มีสนามบินนานาชาติ สายการบินต่างชาติสามารถบินตรงมาถึงภูเก็ตได้เลย พิจารณาได้จากปัจจุบันมีเที่ยวบินมาลงสนามบินภูเก็ตวันละ 120 เที่ยวบิน/วัน จากที่ก่อนหน้านี้มีเพียง 100 เที่ยวบิน/วัน นอกจากนี้ออสเตรเลียยังเพิ่มสายการบินมาไทยถึง 2 สายการบิน รวมถึงประเทศเกาหลีอีกหลายเที่ยวบินต่อวัน
นอกจากนี้การที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณในการขยายสนามบินภูเก็ต รวมถึงงบประมาณในการก่อสร้างศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ จะส่งผลให้ภูเก็ตเป็นฮับของการท่องเที่ยวและการประชุมสัมมนานานาชาติอีกด้วย นอกจากนี้ธุรกิจโรงแรมยังฟื้นตัวกลับมาเร็วมาก ทำให้เศรษฐกิจของเมืองภูเก็ตฟื้นตัวเร็วตามไปด้วย
ส่วนตลาดในเมืองหัวหิน ชะอำก็เช่นเดียวกัน เริ่มมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเที่ยวมากขึ้น และคาดว่าจะทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวตามเช่นกันภาวะดังกล่าวจะส่งผล ให้ในอีก 3-4 เดือนข้างหน้าความต้องการที่อยู่อาศัย หรือบ้านตากอากาศเริ่มฟื้นตัวตาม
สำหรับความคืบหน้าของโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัทที่เปิดการขายอยู่ ได้แก่ โครงการศรีพันวา ภูเก็ต ปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาวิลลาหรู เฟสที่ 4 จำนวน 7 ยูนิต ราคายูนิตละ 200-250 ล้านบาท มูลค่ารวม 1,500 ล้านบาท ซึ่งภายในโครงการบางส่วนเปิดให้บริการโรงแรมปัจจุบันมีอัตราเข้าพักอย่างต่อ เนื่อง
ส่วนโครงการบ้านชาญทะเล ชะอำ ปัจจุบันเหลือขายประมาณ 25-30% จากทั้งหมด 150 ยูนิต ซึ่งถือว่ายอดขายช้าเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาทำให้ยอด ขายหายไป สำหรับโครงการ ดิ อิสสระ-ลาดพร้าว ขณะนี้การก่อสร้างขึ้นไปถึงชั้น 6 แล้วซึ่งการก่อสร้างล่าช้ากว่าแผนประมาณ 7 เดือน เนื่องจากรอการอนุมัติจากคณะกรรมการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (สวล.) ส่วนยอดขายไปแล้ว 60% จากทั้งหมด 561 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท
“ที่ผ่านมาไม่กล้าทุ่มงบประมาณในการทำการตลาดมาก เพราะไม่ว่าจะทำการตลาดมากเพียงใด หากไม่มีความต้องการซื้อ ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่นก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่ในช่วงนี้ให้อัดแคมเปญการตลาดได้เต็มที่เพราะความต้องการซื้อกลับมาแล้ว”
ส่วนแผนการลงทุน ในปี 53 คาดว่าจะเปิดตัวคอนโดมิเนียมหรือรีสอร์ทตามเมืองท่องเที่ยว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปแผนที่ชัดเจน เพราะจะต้องพิจารณาจากภาพรวมของเศรษฐกิจด้วยเพราะยังมีปัจจัยลบอยู่ แม้ว่าขณะนี้จะอยู่ในช่วงขาขึ้นของรูปตัวยูก็ตาม ที่ผ่านมาทั้งผู้ประกอบการและผู้กู้เงินซื้อที่อยู่อาศัย อยู่ได้แม้ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดี เพราะอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำทำให้ภาระการชำระดอกเบี้ยมีไม่มาก และหากรัฐบาลช่วยเพิ่มการให้เช่าจาก 30 ปีเป็น 60 ปี จำทำให้ตลาดอสังหาฯ มีความคึกคักขึ้นมาก
ด้านนายแทนธวัช เรืองศร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพร์มแมนชั่น จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ย่าน ศรีราชา จ.ชลบุรีว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ศรีราชาในปัจจุบันได้รับอานิสงค์จากผู้บริหารชาวญี่ปุ่น ที่เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมอิสเทอร์นซีบอร์ด รวมไปถึงผู้บริหารจากชาติอื่นๆ เข้ามาพักอาศัยในเมืองศรีราชาจำนวนมาก โดยอัตราการเข้าพักของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ประมาณ 70-80% และสัญญาพักนานมากขึ้น ส่วนการซื้อที่อยู่อาศัยนั้นผู้บริโภคแม้ว่าจะมีกำลังซื้อ แต่ที่ผ่านมายังขาดความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจจึงชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป ซึ่งปัจจุบันเริ่มฟื้นขึ้นมาแล้ว
|
|
|
|
|