Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน19 ตุลาคม 2552
ทีพีซีฝันปั้นยอดอีลิทฯ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด (ทีพีซี)

   
search resources

ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด (ทีพีซี), บจก.
Tourism




บอร์ดทีพีซี ยังฝัน ปั้นสมาชิกอีลิทการ์ดให้ได้ 1 หมื่นใบใน 30 ปี สอดไว้ในแผนที่นำเสนอ ค.ร.ม. ในประแด็นหากรัฐบาลจะเลือกที่จะเก็บอีลิทการ์ดไว้ จะต้องหาสมาชิกเพิ่มเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย อ้างเหตุไม่ต้องการอยู่แล้วเป็นภาระให้รัฐบาลต้องตั้งงบเข้าช่วย

นายธงชัย ศรีดามา ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัทไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด(ทีพีซี) ผู้บริหารโครงการ บัตรอีลิท การ์ด เปิดเผยว่า บอร์ดเห็นชอบข้อเสนอแนะ พร้อมแนวทางตัดสินใจทางเลือกเกี่ยวกับอนาคตของโครงการบัตรอีลิท โดยได้ยื่นต่อนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาก่อนเสนอขอความเห็นชอบต่อ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายในเดือนตุลาคมศกนี้ แน่นอน

โดยทางเลือกยังคงเป็น 4 แนวทาง ตามที่ได้นำเสนอไปบ้างแล้ว ได้แก่ เลิกกิจการ , เปิดให้เอกชนเข้ามาร่วมถือหุ้น , ปรับโครงสร้างการทำงานแล้วดำเนินกิจการต่อไป และ ลดขนาดบริษัทเข้าไปเป็นหน่วยงานหนึ่งในการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)

สำหรับกรณีที่รัฐบาลเลือกที่จะดำเนินโครงการต่อไป ไม่ว่าในรูปแบบใดทั้งสิ้น บอร์ดได้เสนอไปว่า ต้องดำเนินการขายบัตรสมาชิกต่อไป เพื่อให้ได้มีเงินเข้ามาใช้บริหารจัดการในองค์กร และสำหรับบริการสมาชิก โดยไม่ต้องใช้เงินงบประมาณจากรัฐบาลอีกต่อไป

นอกจากนั้นบอร์ดยังมีมติมอบหมายให้นายอุดม เมธาธำรงค์ศิริ รักษาการผู้จัดการใหญ่ทีพีซี ไปเจรจากับสนามกอล์ฟ พัฒนา สปร์ตคลับ ซึ่งทีพีซี ได้ทำสัญญาโดยจ่ายเงินให้ไป 20 ล้าน เพื่อให้สมาชิกเข้าไปใช้บริการได้ 35 ปี นับจากปี 2548 ซึ่งจากการทำงานของคณะอนุกรรมการตรวจสอบ ระบุว่า เป็นสัญญาที่ทีพีซีเสียเปรียบ และไม่มีความจำเป็นที่ทีพีซีต้องจ่ายเงินจำนวนมากดังกล่าว เพราะคู่ค้าของทีพีซีมีจำนวนมาก แต่ทำไมเลือกทำแต่พัฒนาสปอร์ตคลับ จึงถูกคู่ค้ารายอื่นมองว่าเลือกปฎิบัติ

“ทีพีซีไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยได้ ก็คงต้องขอความเห็นใจจากพัฒนาสปอร์ตคลับ ให้ช่วยคืนเงินบางส่วนให้ทีพีซี แล้วทำสัญญากันใหม่ ซึ่งตั้งแต่เริ่มทำสัญญากันมา 4 ปีถึงปัจจุบันมีสมาชิกอีลอทไปใช้บริการ 1.5 พันคน คิดเป็นเงิน 4.5 ล้านบาท ซึ่งหากบริษัทยังมีฐานะการเงินดีถือว่าโครงการนี้คุ้มเพราะสัญญา 35 ปีแต่ตอนนี้เราต้องการเงินสดมาเสริมสภาพคล่องมากกว่า “

ยังเหลืออีก 4คนส่อทุจริตโครงการIT

ส่วนโครงการอื่นๆที่คณะกรรมการตรวจสอบได้สรุปมาเสนอนั้น พบว่า โครงการป้ายโฆษณาที่สนามบินสุวรรณภูมิมีเหตุผลเพียงพอ ทำให้ผู้ที่มีส่วนร่วม 7 คนพ้นผิด จึงอนุญาตให้ลาออกได้ มีผล 20 ต.ค.นี้ ส่วนโครงการติดตั้งระบบ IT วงเงินกว่า 70 ล้านบาท คงต้องตรวจสอบเชิงลึกต่อไป เพราะจากการตรวจสอบข้อมูลยังยืนยันว่าเป็นโครงการที่ทำสัญญาแล้วทีพีซีต้อง เสียเปรียบทุกกรณีโครงการนี้มีผู้เกี่ยวข้อง 4 คน นำโดยนายยอดชาย แก้วเพ็ญศรี รองผู้จัดการใหญ่สายงานสิทธิประโยชน์และสมาชิกสัมพันธ์ ทำให้พนักงานกลุ่มนี้ยังไม่ถูกอนุมัติให้ลาออก เพราะเกรงว่าเวลาเรียกสอบเพิ่มเติมจะตามตัวยาก และหากพบว่าทำผิดจริงก็จะปรับเป็นให้ออกซึ่งทีพีซีก็ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชย ด้วย

ยังฝันขายสมาชิกอีก 7.5 พันใบ

นายอุดม เมธาธำรงศิริ รักษาการผู้จัดการใหญ่ ทีพีซี กล่าว่า รูปแบบหลักๆ ถ้าอีลิทการ์ดจะเดินหน้าต่อไป คือต้องเปิดจำหน่ายบัตรสมาชิกใน 2 แบบ ได้แก่ 1.อีลิท โกลด์ ราคาใบละ 1.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นบัตรรูปแบบเดียวกันกับที่เคยขายในช่วงที่ผ่านมา เช่นอายุบัตร และสิทธิประโยชน์ และ 2. อีลิท ซิลเวอร์ ราคาใบละ 5 แสนบาท อายุบัตร 5 ปี สิทธิประโยชน์และบริการเหมือนกันกับบัตรโกลด์ ตั้งเป้าภายใน 30 ปีข้างหน้า จะมียอดสมาชิกอีลิทการ์ดที่ 1 หมื่นใบ จากปัจจุบันมีสมาชิก 2,570 ใบ

กล่าวคือจะต้องหาสมาชิกใหม่เพิ่มอีกราว 7.5 พันใบ คิดเป็นรายได้เกือบ 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น สมาชิกแบบซิลเวอร์ 4-5 พันใบ หมุนเวียนกันไป เพราะจะใช้เงินเพียง 1% ของเงินที่ขายได้เพื่อให้บริการแก่สมาชิกก็เพียงพอและไม่จำเป็นต้องใช้ตัว แทนจำหน่าย เพราะเราตั้งเป้านานถึง 30 ปี ในระหว่างทางอาจมีการปรับขึ้นราคาบัตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้วย ซึ่งมั่นใจว่าขายได้ เพราะถ้าเดินหน้าต่อก็ต้องรีแบรนดิ้งลบภาพเก่า และวางแผนทำการตลาดเชิงรุก

“ทีพีซีใส่ขอเสนอในผลการศึกษาในครั้งนี้ไปว่า ถ้ารัฐบาล หรือรัฐมนตรีเลือกให้อีลิทดำเนินการต่อไป ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด ก็ต้องหารายได้เข้ามาบริหารจัดการด้วยการขายบัตรสมาชิก เพราะไม่เช่นนั้น รัฐต้องจัดสรรงบประมาณ มาจ่ายเป็นค่าบริการด้านสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกตลอดไป ซึ่งก็เท่ากับว่ารัฐเก็บภาษีจากคนจนไปให้บริการคนรวยที่เป็นชาวต่างชาติซึ่ง ถ้าเป็นเช่นนั้นโครงการอีลิทก็จะยิ่งถูกโจมตีมากขึ้น”

ปัจจุบัน บริษัท มีเงินสดคงเหลือ 338 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายเดือนละ 20 ล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ เช่น เงินเดือนพนักงาน ค่าบริหารจัดการภายในบริษัท อีกส่วนหนึ่งเป็นค่าให้บริการสมาชิก เช่น กอล์ฟ สปา ตรวจสุขภาพ รถลีมูซีน และบริการห้องรับรองที่สนามบิน หลังปรับลดงานแล้ว คงเหลือพนักงาน 103 คน แบ่งเป็นพนักงานประจำ 62 คน และพนักงานสัญญาจ้าง 41 คน ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ไป บริษัทจะเตรียมพิจารณาปรับลดสิทธิประโยชน์ เช่น บริการ กอล์ฟ สปา จะจำกัดเพียงคนละ 24 ครั้ง ต่อปี ตรวจสุขภาพก็จะกำหนดวงเงินค่าใช้จ่าย หากต้องการตรวจละเอียดเพิ่มก็ให้สมาชิกจ่ายเงินเอง แต่ทั้งนี้ยังคงสิทธิประโยชน์หลักไว้ เช่น บริการฟาสต์แทรคที่สนามบิน รถลีมูซีน เล้าจ์ คลับ เป็นต้น   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us