|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แบงก์กรุงศรีฯพักซื้อพอร์ต รอขั้นตอนควบรวมกิจการจีอี แคปปิตอลเสร็จภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ระบุจะช่วยดันพอร์ตสินเชื่อรายย่อยเพิ่มเป็น 42% จากเดิมที่อยู่ในระดับ 36% พร้อมรุกธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์ ตั้งเป้าปีนี้โต 50%
นางเยาวลักษณ์ พูลทอง ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการสื่อสารองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า การเข้าไปซื้อธุรกิจรายย่อยของธนาคารในระยะเวลาที่เหลือของปี 2552 นี้คงจะยังไม่เห็น เนื่องจากในตอนนี้ธนาคารอยู่ในกระบวนการควบรวมกิจการกับจีอี แคปปิตอล กรุ๊ปอยู่ ซึ่งเชื่อว่าภายในไตรมาส 4 ของปีนี้จะแล้วเสร็จ
“ปีนี้คงยังไม่ซื้อพอร์ตสินเชื่อเพิ่ม แต่ในปีหน้าถ้ามีโอกาสเข้าไปซื้อก็จะทำ ซึ่งเราบอกไม่ได้ว่าจะซื้อใคร เมื่อไหร่ ราคาจะเป็นอย่างไร ตอบไม่ได้เลย มันขึ้นอยู่กับโอกาส ถ้ามีคนขายแล้วเราเล็งเห็นว่าถ้าซื้อเข้ามาแล้วจะส่งผลดีต่อธนาคารเราก็จะทำ สำหรับฐานสินเชื่อรายย่อยของธนาคารปัจจุบันอยู่ที่ 36% ซึ่งถ้ารวมซื้อจีอีแล้วจะส่งผลให้สัดส่วนรายย่อยขึ้นไปเป็น 42% หรือ 2.3 แสนล้านบาท”นางเยาวลักษณ์ กล่าว
ด้านนายกฤษณ์ จันทโนทก ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายประกันภัยธนพัทธ์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ผลประกอบการด้านการขายประกันผ่านสาขาธนาคาร(แบงก์แอสชัวรันส์) ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ มีเบี้ยรวม 3.5 พันล้านบาท จากเป้าหมายที่ธนาคารตั้งไว้ว่าสิ้นปีจะมีเบี้ยรวม 4 พันล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 50% ซึ่งคาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน เพราะไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่ยอดขายประกันจะสูงอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่าจะทำได้ประมาณ 500 ล้านบาท จากปี 2551 ที่ผ่านมาธนาคารมีเบี้ยรวม 3 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันธนาคารมีส่วนแบ่งทางการตลาด(มาร์เก็ตแชร์) แบงก์แอสชัวรันส์ในอันดับ 5 รองจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) และ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) ซึ่งธนาคารกรุงศรีอยุธยาไม่ได้สนใจอันดับมาร์เก็ตแชร์ เพียงแต่มุ่งเน้นการสร้างขนาดสินทรัพย์ของธนาคารว่าควรอยู่ในระดับเดียวกับตัวเลขอันดับแบงก์แอสชัวรันส์ของตลาดโดยรวม
สำหรับสัดส่วนการขายผลิตภัณฑ์ประกันผ่าน 580 สาขาทั่วประเทศ คิดเป็น 95% อีก 3% เป็นการขายผ่านโทรศัพท์ (เทเลมาร์เก็ตติ้ง) ที่เหลือเป็นช่องทางอื่นๆ จากจำนวนบริษัทประกันที่เป็นพันธมิตรขายผ่านสาขามี 3 ราย คือ เอเอซีพี ศรีอยุธยาประกันภัย และเอไอเอ โดยแบบประกันชีวิตมียอดขายคิดเป็นสัดส่วน 70-75% ของเบี้ยรับรวม ที่เหลือเป็นประกันวินาศภัย
ส่วนแนวโน้มภาพรวมตลาดแบงก์แอสชัวรันส์ทั้งระบบในปี 2553 คาดว่าจะเติบโตรวมประมาณ 10-15% ซึ่งในส่วนของธนาคารกรุงศรีอยุธยาตั้งเป้าหมายเติบโต 40-50% หรือมีเบี้ยรับรวมที่ 5.5 พันล้านบาท สูงกว่าทั้งระบบ โดยธนาคารจะเน้นนโยบายด้านบริการในแต่ละผลิตภัณฑ์มากกว่าลงไปแข่งขันทางด้านราคา เพราะการแข่งด้านราคาเบี้ยประกันจะทำให้ไม่มีคุณภาพ
ล่าสุดธนาคารกรุงศรีอยุธยาขายประกันภัยในกลุ่ม “พร้อม” 3 แบบ คือ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลคือกรุงศรีพีเอพร้อม ประกันภัยรถยนต์คือกรุงศรีออโต้พร้อม 3+ และประกันมะเร็งที่เป็นกรุงศรีแคนเซอร์พร้อม ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ ประกันอุบัติเหตุและประกันภัยรถยนต์สามารถทำเบี้ยรวมกัน 72 ล้านบาท แยกเป็น ประกันอุบัติเหตุ 45 ล้านบาทขายได้ 1.5 แสนกล่อง และประกันรถยนต์ 27 ล้านบาทขายได้ 5 พันกล่อง ส่วนประกันมะเร็งที่เป็นกรุงศรีแคนเซอร์พร้อมตั้งเป้าหมายว่าสิ้นปีนี้จะสามารถขายได้ทั้งสิ้น 1 หมื่นกล่อง จากเป้าหมายที่ธนาคารวางไว้ว่าทั้งปีนี้จะสามารถขายผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 แบบผ่านสาขาธนาคารไว้ที่ 2 แสนกล่อง
|
|
|
|
|