|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"เซ็นทรัลเทรดดิ้ง" ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าแฟชั่น เดินหน้าอัดโปรโมชั่นรับไตรมาสสุดท้าย รับการฟื้นตัวเศรษฐกิจ รุกจับมือพันธมิตร กระจายสินค้าพร้อมเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ คาดสิ้นปีรายได้กว่า 6,000 ล้านบาท เพิ่มเขึ้น 4-5%
นายพิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด เครือเซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป หรือ ซีเอ็มจี ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า นาฬิกา เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 บริษัทจะดำเนินการตลาดเชิงรุกเพื่อสอดรับกับภาวะเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายจากการที่ภาครัฐผลักดันโครงการไทยเข้มแข็งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และพฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มมีความมั่นใจและออกมาจับจ่ายใช้สอย ตลอดจนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเริ่มกลับมาเที่ยวในประเทศไทย
ทั้งนี้พบว่าสัญญาณเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายนที่ผ่านมา สำหรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย จากงบการตลาดทั้งปี 200 ล้านบาท บริษัทเน้นการทำโปรโมชันโดยการให้ของพรีเมียมแทนการใช้กลยุทธ์ราคาในช่วงไตรมาส 4 เนื่องจากสินค้าของซีเอ็มจียังมีความต้องการของตลาด มีความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นแตกต่างจากสินค้าคู่แข่ง
โดยล่าสุดได้เตรียมเปิดตัวนาฬิกาคาสิโอ รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น ในเดือนพฤศจิกายน เพื่อเป็นการฉลองการครบรอบ 25 ปีคาสิโอ
อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่ต้นปี ส่งผลให้ภาพรวมตลาดเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่นหดตัว 4-6% โดยพบว่า กลุ่มเสื้อผ้าหดตัวมากที่สุด นอกจากนี้ยังส่งทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักด้วยกัน คือ กลุ่มที่มีกำลังการซื้อ จะซื้อสินค้าด้วยอารมณ์ ดังนั้นการดำเนินการตลาดจะต้องมีเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ เพื่อสร้างความผูกพัน ส่วนพฤติกรรมของอีกกลุ่ม คือ ซื้อเพราะสินค้าจัดรายการโปรโมชันลดราคา
นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางการตลาดซีเอ็มจีจากนี้ มุ่งเน้นการจับมือร่วมกับพันธมิตรมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตสินค้าป้อนให้กับบางตราสินค้า ตลอดจนการเสริมความแข็งแกร่งด้านการกระจายสินค้า และเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุดได้ขยายช่องทางร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ในปั๊มน้ำมันปตท. 125 แห่งทั่วประเทศ ขณะนี้ได้นำสินค้าไปจำหน่าย 3-4 รายการ อาทิ ถุงนอน เต้นท์ กระดาษซับมัน ฯลฯ อีกทั้งเปิดตัวเอาท์เลท ขนาดพื้นที่ 50 ตร.ม. ภายในปั๊มปตท.ที่ จ.อยุธยา ในเดือนธันวาคม นี้
ส่วนต่างประเทศ ปตท.ถือสิทธิในการขยายสาขาจิฟฟี่ 6 ประเทศ คือ ลาว กัมพูชา สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ ว่าจะเข้าไปเปิดร้านจิฟฟี่ และกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาช่องทางค้าปลีกในประเทศเวียดนาม
สำหรับผลประกอบการปีนี้เกือบ 6,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 4-5% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งเป้าว่าสิ้นปีมีรายได้ 5,500 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยบวกในช่วงไตรมาส 4 ทั้งจากกำลังซื้อของคนในประเทศ และนักท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาเที่ยวในประเทศ จากปัจจุบันสินค้าของซีเอ็มจีเป็นนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 20% แต่หลังจากเกิดปัจจัยลบทั้งภาวะเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลให้ยอดขายกลุ่มดังกล่าวลดลง 30-50% และลูกค้าคนไทยสัดส่วน 80%
|
|
|
|
|