|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“ธีร์โฮลดิ้ง” เปิดแผนรุก ดันกลุ่มปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศหวังสู่อันดับที่ 2 ใน 5 ปี อัดงบตลาดพิเศษ 30 ล้านบาท ลุยคาราวานทั่วไทย พร้อมรุกเพิ่มพอร์ตโฟลิโอสินค้า จ่อลุยตลาดเวเฟอร์ปีหน้า มั่นใจปีนี้รายได้เติบโต 19%
นายธนธัช จุนชนะเวชานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด บริษัท ธีร์โฮลดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายปลากระป๋องซีเล็คทูน่าและปลาเส้นฟิชโช เปิดเผยว่า บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะผลักดันปลากระป๋องในซอสมะเขือเทสของบริษัทฯขึ้นเป็นอันดับที่สองในตลาดภายใน 5 ปีนับจากนี้ จากปัจจุบันติดท็อปไฟว์ แต่ยังมีแชร์น้อยมาก โดยปีหน้าจะเพิ่มงบการตลาดพิเศษอีก 30 ล้านบาท เพื่อทำตลาดกลุ่มนี้โดยเฉพาะ หลังจากที่ทำตลาดกลุ่มนี้มาแล้ว 4 ปี ส่วนผู้นำตลาดคือ แบรนด์สามแม่ครัว จากตลาดรวมกลุ่มนี้ 4,200 ล้านบาท
ทั้งนี้จะทำตลาดครบวงจร ขยายตลาดไปต่างจังหวัดมากขึ้น ในรูปแบบคาราวานสินค้าเข้าตามระดับตำบลและอำเภอมากขึ้น เนื่องจากสินค้าราคาแค่ 10 กว่าบาทเท่านั้น และจะเพิ่มช่องทางเทรดดิชันเนลเทรดให้เป็นสัดส่วน 60% จากปัจจุบัน 45% และช่องทางโมเดิร์นเทรด 55% ขณะที่กลุ่มปลาทูน่ากระป๋องนั้น ซีเล็คเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้ว จากมูลค่าตลาดรวมกลุ่มนี้ที่มี 800 ล้านบาท โดยหากมองตลาดปลากระป๋องรวมแล้วบริษัทฯมีคอร์ปอเรทแชร์ที่ 15% จากมูลค่าตลาดรวมที่มีมากกว่า 5,000 ล้านบาท
บริษัทยังมีนโยบายที่จะขยายกลุ่มสินค้าใหม่เพื่อเป็นการต่อยอดและสร้างรายได้ให้กับองค์กร โดยมีเป้าหมายที่ต้องการเติบโตต่อเนื่องทุกปี จึงต้องเพิ่มพอร์ตสินค้าด้วย จากปัจจุบันมี 4 กลุ่มคือ สแน็คปลาเส้นฟิชโช กลุ่มปลากระป๋องทูน่า กลุ่มปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ และกลุ่มอาหารสัตว์
โดยมีแผนเข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์เวเฟอร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลต่างๆทั้งด้านตลาดรวม การแข่งขัน จุดเด่นจุดอ่อนของผู้ประกอบการรายเก่า รวมทั้งการสร้างสินค้าและแบรนด์ และการสร้างความต่างของบริษัทฯด้วย ซึ่งตลาดรวมเวเฟอร์มีทั้งตลาดบนที่นำเข้าจากต่างประเทศ และตลาดล่างที่เป็นแบรนด์คนไทยราคาเฉลี่ย 1-5 บาทเป็นตลาดที่มีศักยภาพแต่ก็เป็นตลาดที่แข่งขันรุนแรงพอสมควร จากมูลค่าตลาดรวม 1,000 กว่าล้านบาท
เบื้องต้นจะต้องใช้งบลงทุนด้านเครื่องจักรผลิตเวเฟอร์กว่า 40-60 ล้านบาท ส่วนพื้นที่โรงงานนั้นได้ทำการขยายรองรับไว้แล้ว ส่วนแผนผลิตขนมขึ้นรูปที่ต้องลงทุนกว่า 100 ล้านบาท คงชะลอไปก่อนเพราะคู่แข่งขัน
สาเหตุการเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ เพราะ สินค้าเดิมคือตลาดปลาเส้น มูลค่าตลาดรวม 1,200 ล้านบาทมาหลายปีแล้วเป็นตลาดที่ไม่ตกแต่ไม่โต เช่นเดียวกับฟิชโช่ ส่วนตลาดปลากระป๋องมีการเติบโตดี แต่ก็แข่งขันรุนแรง
อีกกลุ่มคือ อาหารสัตว์ แบรนด์ เบรอตต้า ทำตลาดมา 4 ปีแล้วยังไม่ได้รุกสร้างแบรนด์มากนัก ก็ยังมีรายได้และส่วนแบ่งตลาดน้อย ซึ่งสัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้าของบริษัทฯ แบ่งเป็น 1. กลุ่มปลาเส้น สัดส่วน 20% 2.กลุ่มปลากระป๋องซีเล็คทูน่า และ 3.กลุ่มปลาในซอสมะเขือเทศ มีสัดส่วนรายได้รวมกัน 65-70% 4.กลุ่มอาหารสัตว์ แบรนด์ เบรอตต้า สัดส่วนรายได้ 2% โดยช่วง 9เดือนแรกปีนี้บริษัทฯมีรายได้รวมเติบโต 27% โดยการเติบโตนั้นมาจากกลุ่มปลาในซอสมะเขือเทศเป็นหลัก และคาดว่าในปีนี้จะมียอดขายรวม 1,250 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 18-19% โดยทั้งปีโดยใช้งบตลาดรวม 80-100 ล้านบาท
ทั้งนี้แผนตลาดของปลาเส้นฟิชโช ล่าสุดจับมือกับโรงหนังเครือเอสเอฟในการเป็นเมนพาร์ทเนอร์ นาน 3 ปี ด้วยงบ 30 ล้านบาท เพื่อขยายช่องทางจำหน่ายและขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแบรนด์ฟิชโชเป็นที่สองในตลาด ส่วนกลุ่มตลาดรวมปลาเส้นทรงตัว ขณะที่ภาพรวมตลาดสแน็คตกลง 20%
|
|
|
|
|