เสียงลั่นกลองชัยดังขึ้นในบรรยากาศงานเปิดตัว "ตลาดนัดโชห่วย" ครั้งที่ 2 ของบริษัทสยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ที่จัดขึ้นเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ชูแนวคิด "โชห่วยไทย สายใยแห่งชุมชน" โดยจำลองวิถีชีวิตในสังคมไทย เมื่อครั้ง 50-100 ปีก่อน

การจัดงานในครั้งนี้สยามแม็คโครต้องการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านโชห่วย ร้านค้าปลีกย่อย มีแนวทางพัฒนาธุรกิจของตนให้เติบโตและยั่งยืน สามารถอยู่รอดภายใต้สภาวะการแข่งขันที่รุนแรง และให้คนรุ่นใหม่เห็นความสำคัญของเอกลักษณ์ร้านค้าปลีกที่มีสายใยเชื่อมโยงกับชุมชน

ภายในงานมีพันธมิตรทางการค้า ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด บริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด บริษัทยูนิลีเวอร์ไทย เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท เเอซ ไอเอ็นเอ โอเวอร์ซีส์ อินชัวรันส์ จำกัด ร่วมออกบูธด้วยบรรยากาศแบบดั้งเดิมเพื่อสะท้อน การเปลี่ยนแปลงและเติบโตของร้านค้าปลีกก่อนจะก้าวขึ้นสู่ธุรกิจ ขนาดใหญ่ได้

ความสำคัญของร้านโชห่วยที่แม็คโครจะเข้าไปมีบทบาทสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือในแนวทางประกอบธุรกิจ ในฐานะที่แม็คโครเองก็เติบโตมาจากร้านค้าปลีก สั่งสมประสบการณ์ในการประกอบกิจการมานาน พร้อมที่จะร่วมพัฒนาธุรกิจให้ก้าวเดินเคียงข้างไปด้วยกัน

นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐอย่างธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

ดูจะสอดคล้องกับจังหวะที่สอดรับกับนโยบายรัฐ จากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบสองที่รัฐบาลเตรียมนำออกมาใช้ในปีงบประมาณ 2553 ซึ่งจะมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มมากขึ้น

ที่น่าสนใจนอกเหนือไปจากบรรยากาศภายในงาน ดูจะเป็นแบบจำลอง 7 รูปแบบ คือ ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก, กลุ่มร้านค้ารถเข็นเคลื่อนที่, คีออสขนาดเล็ก, รถกระบะขนาดเล็กหรือรถเร่, รถลากพ่วง, ห้องแถว 1-2 คูหา และร้านค้าจักรยานยนต์ที่แม็คโครพยายามนำเสนอ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้สนใจที่จะปรับปรุงหรือเป็นเจ้าของร้านเอง โดยมีพนักงานคอยให้คำปรึกษา

การทุ่มเทจัดงานในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะได้รับกระแสตอบรับจากผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมงานเป็นอย่างดี แต่ความสำเร็จที่จะครองใจ "มิตรแท้" หรือ "มิตรเทียม" ของโชห่วยนั้น คงต้องดู กันไปอีกนาน