จากจุดเริ่มต้นในปี 1963 ภายใต้แนวความคิด ที่จะประกอบกิจการโรงแรมหรูหราระดับ
5 ดาว เพื่อรองรับกับจำนวนนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวที่ไหลบ่าเข้าสู่ฮ่องกง
หลังจากที่ดินแดนแห่งนี้ทวีความสำคัญขึ้น ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางทางธุรกิจการค้าและการเงินในภูมิภาคเอเชีย
โรงแรมซึ่งถือเป็นเรือธงของกลุ่ม MOG แห่งแรกจึงได้ถือกำเนิดขึ้นในฮ่องกง
ภายใต้ชื่อ The Mandarin
หลังจากเริ่มดำเนินการได้ไม่นาน การบริการที่อยู่ในระดับที่ดีเยี่ยมของ
Mandarin ก็สร้างชื่อเสียงและการยอมรับให้กับ MOG ทำให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ
ได้แต่พากันอิจฉา ก่อนที่ในปี 1974 Mandarin International Hotels Limited
จะจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นกลไกในการบริหารกิจการโรงแรม ภายใต้ความมุ่งหวังที่จะขยายตัวไปสู่ระดับภูมิภาคเอเชีย
ด้วยการบริหารโรงแรมที่มีมาตรฐานด้านบริการเฉกเช่นเดียวกับที่ประสบผลสำเร็จในฮ่องกง
การรุกเข้าสู่เอเชียดำเนินไปท่ามกลางยุทธวิธีการเข้าซื้อกิจการ โดยในปี
1974 MOG ได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 49% ของโรงแรม Oriental กรุงเทพฯ ซึ่งในขณะนั้น
Oriental ก็อยู่ในฐานะที่เป็นตำนานและเป็นหนึ่งในโรงแรมระดับโลกอยู่แล้ว
ซึ่งการเข้าครอบกิจการดังกล่าวส่งผลให้การบริหารงานของ MOG อยู่ในภาวะที่ไม่ธรรมดา
เมื่อโรงแรม Mandarin Oriental ในฮ่องกง และ Oriental กรุงเทพฯ ต่างมีชื่อเสียงในมาตรฐานด้านการบริการไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
และกลายเป็นเรือธง 2 ลำของกลุ่มไปโดยปริยาย
ในปี 1985 การปรับโครงสร้างเพื่อการบริหารงานของกลุ่มก็เกิดขึ้น ด้วยการรวมสินทรัพย์ของโรงแรมทั้งสองแห่งเข้าไว้ภายใต้ชื่อ
Mandarin Oriental Hotel Group (MOG) โดยเป้าหมายของ MOG ในการเป็นผู้พัฒนาและประกอบการโรงแรมหรูหราระดับนำของโลก
ที่มีอยู่แต่เดิมยังได้รับการเน้นย้ำสืบมาไม่เสื่อมคลาย
วันที่ 8 มิถุนายน 1987 หุ้นของ MOG เข้าสู่การ ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
ภายใต้ชื่อ Mandarin Oriental International Limited โดยมีสินทรัพย์รวมมูลค่า
277 ล้านเหรียญสหรัฐ และตั้งแต่ปี 1995 เป็นต้นมา Mandarin Oriental International
Limited ได้เข้าไปลงทุนใน Bermuda เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งใน
London, Singapore และ Bermuda โดยมี Mandarin Oriental Hotel Group International
Limited ซึ่งบริหารงานจากฮ่องกงเป็น ผู้ดูแลและจัดการกิจกรรมต่างๆ ของโรงแรมในเครือ
ยุทธศาสตร์การเติบโตของ MOG อยู่ที่การหนุนนำให้ชื่อ Mandarin Oriental
ก้าวขึ้นสู่การเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมโรงแรมระดับหรูหรา
ภายใต้การรุกคืบอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีในการบริหารจัดการห้องพักกว่า 10,000
ห้องทั้งในเขตธุรกิจและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโลกใน 3 ทวีป
กระนั้นก็ดี การลงทุนของ MOG- ส่วนใหญ่เป็น การถือครองหุ้นของโรงแรมในเครือ
โดยมีเพียง 4 แห่งเท่านั้นที่เป็นทรัพย์สินของ MOG โดยตรง ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์ประมาณ
900 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีการจ้างพนักงานรวมกว่า 9,000 คน
ในเดือนพฤษภาคม 2000 Mandarin Oriental International Limited ได้เข้าซื้อหุ้นของกลุ่ม
Rafael ด้วยจำนวนเงินมูลค่าประมาณ 140 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้ส่งผลให้การบริหารของ
MOG ใน 3 ทวีป มีฐานะมั่นคงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าเป็นผู้บริหารโรงแรมระดับนำ
7 แห่ง ทั้งในอเมริกาเหนือและยุโรป ซึ่งสะท้อนให้เห็นยุทธศาสตร์ของ MOG ในการเพิ่มจำนวนห้องพักและขยายชื่อเสียงโรงแรมของกลุ่มได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดความสมดุลในการบริหารงานในแต่ละภูมิภาคด้วย
อย่างไรก็ดี โรงแรมที่นับเป็นเรือธงของกลุ่ม MOG ยังคงเป็นโรงแรม Mandarin
Oriental ในฮ่องกง และโรงแรม Oriental ในกรุงเทพฯ อยู่แนบแน่น แม้ว่า MOG
จะมีโรงแรมระดับ 5 ดาวอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโลก ทั้งใน London,
Geneva, Munich, New York, San Francisco, Florida, Bermuda, Hawaii, Hong
Kong, Kuala Lumpur, Singapore, Manila, Jakarta, Surabaya, Macau และที่เทือกเขา
Himalayas ด้วยก็ตาม
สำหรับโรงแรมแห่งใหม่ที่ได้รับการผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งภายใต้การบริหารของ
MOG ประกอบด้วย The Mark ในมหานคร New York, Mandarin Oriental ในนคร Munich
และ Mandarin Oriental du Rhone ในกรุง Geneva นอกจากนี้ยังได้เข้าไปบริหารและปรับปรุง
Turnberry Isle Resort & Club ใน Florida ซึ่งกลุ่มเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วย
รวมถึง การบริหารโรงแรม Elbow Beach ใน Bermuda และ Mandarin Oriental Ananda
ที่เทือกเขา Himalayas ซึ่งล้วนเป็นโรงแรมหรูหราระดับ 5 ดาวทั้งสิ้น
MOG ได้ให้น้ำหนักในการประกอบธุรกิจในสหรัฐอเมริกาไม่น้อย โดยในเดือนกันยายน
1999 MOG ได้ประกาศการร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทร่วมทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และนักลงทุนอเมริกัน
ในการดำเนินการก่อสร้างโรงแรม Mandarin Oriental ในมหานคร New York ด้วยเงินลงทุนกว่า
200 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยโรงแรมแห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Columbus
Centre ซึ่งตั้งอยู่ใจกลาง Manhattan ทางตะวันตกเฉียงใต้ของ New York
อย่างไรก็ดี โครงการซึ่งมีกำหนดจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในปี 2003 แห่งนี้ ยังจะเป็นที่ทำการสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ
Time Warner World และสตูดิโอ เพื่อการผลิตข่าวของ CNN รวมถึงร้านค้าหรูหรา,
ภัตตาคาร, แหล่งบันเทิง, สำนักงานและห้องพักอาศัยด้วย
ปัจจุบัน Mandarin Oriental Hotel Group (MOG) นับเป็นเครือผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับรางวัล
และการยอมรับในฐานะเครือโรงแรมที่ดีที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง โดยดำเนินกิจการโรงแรมหรูหราระดับ
5 ดาว กระจายอยู่เกือบทุกภูมิภาคของโลก ซึ่งประกอบด้วยโรงแรม 10 แห่งในเอเชีย
7 แห่งในอเมริกาเหนือ และ อีก 3 แห่งในยุโรป และกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและก่อสร้างในนิวยอร์ก
อีกแห่งหนึ่งซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 2003 ความมุ่งหมายของ
MOG อยู่ที่การคงฐานะการเป็นกลุ่มโรงแรมหรูหราชั้นนำของโลก ภายใต้การตอบสนองความพึงพอใจของกลุ่มลูกค้าด้วยประสบการณ์
ที่แตกต่างออกไปในบรรยากาศของโรงแรมแต่ละแห่ง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็จากการกำหนดยุทธศาสตร์ไว้
ที่การลงทุนในด้านสถานที่และบุคลากร ขณะที่ยังคงให้ น้ำหนักต่อการสร้างผลตอบแทนสูงสุดและการถือครองหุ้นระยะยาว
การบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ส่งผลให้ MOG ระบุพันธกิจไว้ในแถลงการณ์ของกลุ่ม
ซึ่งไม่เพียงสะท้อนถึงผลประโยชน์อันพึงมีของ MOG เท่านั้น หากที่สำคัญยิ่ง
ก็คือ การระบุถึงผลประโยชน์ร่วมกันของลูกค้าที่เข้าใช้บริการ พนักงานของกลุ่ม
และผู้ถือหุ้น ไปพร้อมกันด้วย
แม้ว่าในแต่ละปี MOG จะได้รับรางวัลด้านการบริการและการบริหารที่มีคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง
แต่ใน ปี 1999 ถือได้ว่าเป็นปีที่ MOG ได้รับการยอมรับและ ได้รางวัลในระดับสากลมากกว่าทุกปี
สำหรับอนาคตข้างหน้า Edouard Ettedgui ประธานคณะผู้บริหารของ Mandarin
Oriental International Limited กล่าวไว้อย่างน่าฟังว่า แม้การพัฒนาขีดความสามารถในการสร้างผลกำไรสูงสุดจะเป็นสิ่งที่ผู้บริหารต้องตระหนัก
ขณะเดียวกันการคงไว้ซึ่งมาตรฐานการบริการในระดับดีเลิศอันเป็นปฏิญาณของเราจะคงอยู่
ซึ่งเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นองค์ประกอบสำคัญ ในการมุ่งสู่ความสำเร็จที่รอคอยอยู่เบื้องหน้า