ในยุคที่ข้อมูลข่าวสารเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต สื่อโทรทัศน์ซึ่งถือว่าเป็นสื่อที่ใกล้ตัวคนไทยในทุกระดับ
ทั้งเพื่อความรู้ และความบันเทิง กำลังก้าวสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลง
สถานีโทรทัศน์ต่างๆ กำลังปรับปรุงผังรายการ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ชมที่ต้องการบริโภคข่าวสารมากขึ้น
ทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณ
เริ่มที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ที่บริหารโดยบริษัทบีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
ถึงแม้จะมีกำไรจากการดำเนินงานในครึ่งปีแรก กว่า 1,100 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า
50% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้บีอีซีนิ่งนอนใจ บีอีซีกำลังพยายามทำให้เวลาช่วงเช้าเป็น
morning prime time เหมือนเวลาในช่วงค่ำ
รายการในช่วงเช้า ประกอบไปด้วยข่าวต่างประเทศโดย ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล
รายการ "เรื่องเล่าเช้านี้" โดยสรยุทธ สุทัศนจินดา และรายการเหตุบ้านการเมือง
อีกสถานีหนึ่งที่ได้ทำการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ คือโมเดิร์นไนน์ ของ อ.ส.ม.ท.
หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ก็มีการปรับปรุงอีกครั้งเพื่อความทันสมัย
ด้วยสโลแกน "ความทันสมัยบนความแตกต่าง" ด้วยการให้เวลาข่าวถึง 40% ในแต่ละวัน
พร้อมเสนอรายการบันเทิงที่มีสาระใหม่ๆ ในภาคค่ำ เช่น เกมทศกัณฐ์
นับเป็นการปรับตัวตามความต้องการของผู้บริโภค
อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คือนโยบายห้ามโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในช่วงเวลาก่อน
4 ทุ่ม นโยบายนี้จะมีผลกระทบต่อรายได้เพราะรายได้ของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ส่วนใหญ่มาจากโฆษณา
นอกจากนี้นโยบายนี้ยังทำให้โครงสร้างโฆษณาทางโทรทัศน์ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
โดยโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะถูกย้ายไปช่วงหลัง 4 ทุ่ม
และคาดกันว่าเนื่องจากมีการจำกัด message ที่ใช้ในการสื่อสาร ปริมาณโฆษณาจะเพิ่มมากขึ้น
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เท่าเดิม และจะมีโฆษณาสินค้าอื่นๆ เข้ามาแทนโฆษณาเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เหล่านั้น
อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ถือเป็นแนวโน้มใหม่ นั่นคือการที่สถานีโทรทัศน์ต่างๆ
นำเวลากลับมาบริหารเอง แทนที่จะจ้างผู้ผลิตเหมือนที่ผ่านมาในอดีต
ทั้งนี้เพื่อเป็นการลดต้นทุน และตอบสนองผู้ชมได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการกระทำที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ว่า
สื่อโทรทัศน์จะมีความเป็น niche มากขึ้นเหมือนกับที่เกิดขึ้นกับสื่อนิตยสารในบ้านเรา