สตาร์บัคส์ ผู้นำด้านธุรกิจกาแฟจากเมืองซีแอทเทิล สหรัฐอเมริกา นอกจากจะขายกาแฟที่มีคุณภาพแล้ว
ยังขึ้นชื่อในเรื่องการเข้าไปมีส่วนร่วมกับท้องถิ่น หรือชุมชนที่สตาร์บัคส์เข้าไปทำธุรกิจอีกด้วย
เมื่อต้นเดือนกันยายน ณ ร้านสตาร์บัคส์ สาขาซอยหลังสวน สตาร์บัคส์ได้เปิดตัวกาแฟรสใหม่
"ม่วนใจ๋ เบลนด์" ซึ่งเป็นกาแฟในโครงการคำมั่นสัญญาต่อแหล่งเพาะปลูก (Commitment
to Origins) นับเป็นครั้งแรกในเอเชียที่มีการเปิดตัวกาแฟชนิดนี้
โครงการคำมั่นสัญญาต่อแหล่งเพาะปลูก ถือเป็นโครงการที่สตาร์บัคส์ใช้เพื่อการสนับสนุนและช่วยเหลือชาวไร่กาแฟและชุมชน
ด้วยการรับซื้อเมล็ดกาแฟในราคาที่เป็นธรรมกับชาวไร่
กาแฟที่ได้จากโครงการนี้ เป็นกาแฟที่ไม่ใช้สารเคมีต่างๆ (Organic Coffee)
เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมและรักษาแหล่งน้ำใต้ดินให้สะอาด เป็นกาแฟที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
(Conservation) ด้วยการเพาะปลูกแบบดั้งเดิม เช่นการปลูกใต้ร่มเงาไม้ใหญ่
นอกจากนี้ยังเป็นกาแฟที่สตาร์บัคส์รับซื้อโดยตรงจากชาวไร่ (Farm Direct)
ในราคาที่ยุติธรรมตามที่ได้ตกลงกัน พร้อมสัญญาสั่งซื้อในระยะยาว
นอกจากนี้ สตาร์บัคส์ยังนำรายได้จากการขายกาแฟในโครงการราว 5% มาใช้ในการปรับปรุงระบบการชลประทานและโรงเรียนในหมู่บ้าน
ถึงแม้ว่าโครงการแบบนี้อาจถูกมองเป็นเพียงกลยุทธ์การตลาดเพื่อสังคมทั่วๆ
ไป แต่สตาร์บัคส์ก็ทำโครงการนี้อย่างมุ่งมั่นและยั่งยืน
ในประเทศไทย สตาร์บัคส์ได้ร่วมกับองค์กรพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน (Integrated
Tribal Development Program : ITDP) ซึ่งเป็นองค์กรที่ดำเนินงานโดยไม่หวังผลกำไรในด้านการพัฒนากลุ่มชาวเขาแถบภาคเหนือของไทย
ร่วมกันคัดเลือกกาแฟจากหลายแหล่งเพาะปลูกเป็นเวลานับปี จนสุดท้ายก็เลือกกาแฟจากหมู่บ้านห้วยห้อม
จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ในงานเปิดตัว นอกจากผู้บริหารระดับสูงจากสตาร์บัคส์แล้ว ยังมีการเชิญ มร.ไมค์
แมน ซึ่งเป็นประธาน ITDP และตัวแทนชาวเขาจากหมู่บ้านห้วยห้อมจำนวนหนึ่งมาในงาน
แววตาของพวกเขาดูมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด
พวกเขาเล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันกว่า 30 ครอบครัวในหมู่บ้านห้วยห้อม ประกอบอาชีพทำไร่กาแฟ
มีผลผลิตรวม 10 ตันต่อปี ขณะนี้ส่งขายให้ สตาร์บัคส์ 3 ตัน และที่เหลือ 7
ตัน ส่งไปขายที่ญี่ปุ่น การเข้าร่วมโครงการกับสตาร์บัคส์ทำให้พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นับเป็นอีกก้าวของสตาร์บัคส์ที่พยายาม "เข้าถึง" สังคมไทย