Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์28 กันยายน 2552
เอ.พี.ฮอนด้าดุ ส่งรถ2รุ่นดันขึ้นเบอร์1เอ.ที.             
 


   
search resources

Motorcycle
เอ.พี. ฮอนด้า, บจก.




มอเตอร์ไซค์ฮอนด้า โต้กลับคู่แข่งดุเดือด ส่ง สกู๊ปปี้ ไอ สกัดการเติบโตของฟีโน่ แถมส่ง PCX เปิดเซ็กเมนท์รถสกู๊ตเตอร์เมืองไทย อาศัยศักยภาพอันแข่งแกร่งของแบรนด์ และความเป็นผู้นำตลาด ปูพรมกิจกรรมการตลาด เสริมด้วยการทำตลาดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ โกยยอดขายคืนจากยามาฮ่า โดยเฉพาะเซ็กเมนท์โมเดิร์นคลาสสิก ขึ้นแท่นเบอร์ 1 รถจักรยานยนต์ เอ.ที.

ถือเป็นการท้าทายของจักรยานยนต์ฮอนด้า ในเซ็กเมนท์ที่เรียกว่า โมเดิร์นคลาสสิก ซึ่งยามาฮ่า เป็นผู้นำตลาดด้วยรุ่น ฟีโน่ มากว่า 2 ปี พร้อมกับยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง เอ.พี.ฮอนด้า แม้จะมีสถานะเป็นผู้นำตลาดรถจักรยานยนต์ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 70% แต่ในเซ็กเมนท์ดังกล่าว เป็นการเข้ามาในฐานะผู้ท้าทาย ด้วยจักรยานยนต์รุ่น สกู๊ปปี้ ไอ

เอ.พี.ฮอนด้า ส่งสกู๊ปปี้ไอ เกียร์อัตโนมัติ รุกตลาดเจาะกลุ่มวัยรุ่นเด็กแนว ภายใต้คอนเซปต์ 'สนุกมันส์..รู้กัน!!!...ฟันยูไนเต็ด' มีการออกแบบรูปทรงแตกต่างจากรถจักรยานยนต์ทั่วไป เซนจิโร่ ซากุราอิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัดบอกว่า สกู๊ปปี้ไอ ออกแบบโดยได้รับการถ่ายทอด DNA ความโค้งมน น่ารัก สนุก ลุคออริจินอลจากญี่ปุ่นแท้ มีด้วยกับ 3 รุ่นคือ Fun, Cute และ Prestige ถ่ายทอดคาเรคเตอร์ตัวผลิตภัณฑ์ ผ่านพรีเซ็นเตอร์วัยรุ่นไทย 3 แบบได้แก่นักแสดงวัยรุ่น มาริโอ้ เมาเร่อ, ตีน่า พิมพ์นารา ไรท์ นักร้องสาวดาวรุ่ง และ บอม ธนา นายแบบมาดเซอร์ ตามลำดับ

จุดเด่นของสกู๊ปปี้ ไอ ที่แตกต่างจากคู่แข่งอย่าง ฟีโน่ นั้น เอ.พี. ฮอนด้า บอกว่าอยู่ที่ความทันสมัยของเครื่องยนต์หัวฉีด ซึ่งเป็นยุทธ์ศาสตร์ของแบรนด์จักรยานยนต์ฮอนด้า เน้นทำตลาดรถจักรยานยนต์เครื่องยนต์หัวฉีดเท่านั้น เฉพาะเป็นเครื่องยนต์ที่สามารถใช้น้ำมันเบนซินแก๊สโซฮอล์ ได้ถึง E20 พร้อมกับระบุว่า เครื่องยนต์หัวฉีด PGM-FI ขนาด 110 ซีซี.ให้ความประหยัดสูงคือราวๆ 49 กิโลเมตรต่อลิตร นอกจากนี้ยังมีลวดลายให้เลือกมากถึง 7 แบบ

แม้จะออกแบบรูปทรงใกล้เคียงกับคู่แข่ง ผู้นำตลาด แต่ฮอนด้า อาศัยความแตกต่างด้านเครื่องยนต์หัวฉีดเป็นจุดขายสำคัญ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ หรือเอที ค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องอัตราสิ้นเปลืองที่สูงกว่ารถเกียร์ธรรมด และเครื่องยนต์หัวฉีด สามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ ส่วนในเรื่องการซ่อมบำรุงนั้น ฮอนด้าได้ออกแคมเปญรับประกันคุณภาพอุปกรณ์ระบบหัวฉีดนานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร

เอ.พี. ฮอนด้ามั่นใจว่า ศูนย์บริการของฮอนด้าที่มีอยู่ทั่วประเทศพร้อมด้วยช่วงระดับมาตรฐาน และอะไหล่แท้ ที่มีอยู่ทั่วประเทศจะพร้อมรองรับความต้องการของลูกค้าของฮอนด้า โดยไม่หวั่นถึงความคล่องตัวของลูกค้าบางกลุ่มที่ต้องการซ่อมบำรุง และปรับแต่งรถจักรยานยนต์ด้วยตัวเอง เนื่องจาก พฤติกรรมลูกค้ารุ่นใหม่ เริ่มยอมรับการบริหารหลังการขายที่มีมาตรฐานของศูนย์บริการฮอนด้า อีกทั้งในศูนย์บริการ หรือร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้ามีบริการอื่นๆ นอกเหนือบริการซ่อมบำรุงทั่วไป เช่น การจำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งทั้งรถจักรยานยนต์ และแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ลูกค้า

สกู๊ปปี้ไอนั้น ถูกวางแผนให้ทำตลาดในปริมาณปีละ 150,000 คันต่อปี หรือราว 12,500 คัน ขณะที่ยามาฮ่า ฟีโน่ ปัจจุบันมียอดขายราวๆ เดือนละ 23,000-24,000 คัน แน่นอนว่ายอดขายของ ฮอนด้าที่วางไว้ ส่วนหนึ่งเป็นการช่วงชิงจากผู้นำตลาดคือ ยามาฮ่า ฟีโน่นั่นเอง โดยเห็นได้จากการตั้งราคาจำหน่ายให้ต่ำกว่า เล็กน้อย คือ 44,300 บาท ส่วนฟีโน่ ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 45,500 บาท

ขณะที่ยามาฮ่า เองก็ตั้งรับด้วยการ เน้นสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายของเซ็กเมนท์ โมเดิร์นคลาสสิกมากขึ้น โดยชูความเป็นสายพันธ์แท้ ซึ่งหมายถึงผู้ที่เริ่มทำตลาดก่อน พร้อมกับ การโฆษณาตัวรถผ่านคาเรคเตอร์ของศิลปินระดับซูเปอร์สตาร์ทั้งไทย และเกาหลี ที่กำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มวัยรุ่น

ในขณะที่เปิดสงครามชิงตลาดเซ็กเมนท์โมเดิร์นคลาสสิก เอ.พี.ฮอนด้า มองข้างช็อตด้วยการเปิดเซ็กเมนท์ใหม่ ตลาดรถจักรยานยนต์เมืองไทย ด้วยรถประเภทสกูตเตอร์ ด้วยการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่น PCX เครื่องยนต์หัวฉีด และเกียร์อัตโนมัติเช่นกัน แต่วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ให้สูงกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไป คือเป็นระดับ ไฮ-เอนท์

เอ.พี. ฮอนด้า มองว่า ยังมีกลุ่มผู้บริโภคอีกไม่น้อยที่ต้องการรถจักรยานยนต์ที่ให้ความหรูหรา สะท้อนถึงสถานะ และความยินดีที่ได้เป็นเจ้าของ ทัตสิฮิโร่ โอยาม่า บอกว่า ปัจจุบันพบว่ามีลูกค้ารถจักรยานยนต์สก็ตเตอร์ เอ.ที. จำนวนมากที่เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ด้วย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดการใช้งาน โดยเลือกใช้รถสกู๊ตเตอร์ เอ.ที.ในช่วงเวลาที่การจราจรคับคั่ง ดังนั้นรถจักรยานยนต์สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ จึงไม่เป็นเพียงพาหนะในการเดินทาง แต่สามารถเป็นผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงความมีระดับ ซึ่งมีลักษณะเทียบได้รับรถยนต์ เราจึงได้รวบรวมความต้องการของลูกค้าเหล่านี้ในตลาด และนำมาพัฒนารุ่น PCX ดังกล่าว

ทั้งนี้ จะมีการเปิดตัวรถจักรยานยนต์ PCX อย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมกับราคาที่คาดกันว่าจะมีราคาสูงกว่า 6-7 หมื่นบาท ในระดับลูกค้าไฮ-เอนท์

การเปิดตลาดรถจักรยานยนต์ใหม่ใน 2 เซ็กเมนท์ในเวลาไล่เลี่ยกันนี้ เป็นการเปิดเกมรุกใส่คู่แข่งอย่างรุนแรงของ ค่ายมอเตอร์ไซค์รายใหญ่ ในตลาดโมเดิร์นคลาสสิกนั้น แม้จะถือเป็นหน้าใหม่ในเซ็กเมนท์ แต่ความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ฮอนด้า มีทั้งความแข็งของแบรนด์ ศูนย์บริการ และร้านจำหน่ายที่มากกว่า ทำให้คาดว่าในช่วงเปิดตัวนี้ จะส่งผลต่อยอดขายของ ยามาฮ่า ฟีโน่ อย่างแน่นอน

ดังนั้นจึงเป็นการวัดศักยภาพ ของยามาฮ่า ว่าจะเปิดเกมโต้ด้วยกลยุทธ์ใด และใช่ว่าฟีโน่ จะตกเป็นรองเสียทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ ยามาฮ่า เป็นผู้ที่เปิดตลาดรถจักรยานยนต์เกียร์อัตโนมัติ หรือเอ.ที. ก่อนใคร และหลังจากฮอนด้า เริ่มขยับมาทำตลาด และทุมเทกับรถจักรยานยนต์กลุ่มนี้ ทำให้ยามาฮ่า เสียส่วนแบ่งตลาดไปพอสมควร อย่างไรก็ตามตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ยามาฮ่าระบุว่าสามารถครองส่วนแบ่งตลาดรถจักรยานยนต์ เอ.ที.เหนือคู่แข่ง และส่วนสำคัญของยอดขายดังกล่าวมาจาก รุ่นฟีโน่ นั่นเอง

ช่วงระยะเวลาที่เหลืออีกประมาณ 3 เดือนหลังจากนี้ ฮอนด้าประเมินว่า ตลาดรถจักรยานยนต์รวมจะขยายตัวมากกว่า ที่ได้ประเมินไว้ในช่วงต้นปี คือจาก 1,350,000 คันเป็น 1,470,000 คันซึ่งกว่า 50% นั้นเป็นรถจักรยานยนต์ในแบบ เอ.ที. และส่วนหนี่งจะมาจากการรุกตลาดอย่างหนักของ 2 ค่ายใหญ่ทั้งฮอนด้า และยามาฮ่านั้นเอง   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us