|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ธุรกิจลีสซิ่งกดสัญญาณเตือนภัย หลังแข่งดุกดดอกเบี้ยต่ำจนมาร์จิ้นเหลือน้อย ขณะที่'เคทีบี ลีสซิ่ง'ดูจะไม่กังวลกับปัญหานี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าต้นทุนการดำเนินงานต่ำ และไม่แข่งเรื่องค่าคอมมิชชั่นให้กับเซล แถมลูกค้ายังจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำเพราะเจาะแต่ฐานข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีรายได้แน่นอน พร้อมเปิดตัวแคมเปญใหม่ KTBL Car for Cash เสริมบริการทางการเงินอย่างครบวงจร
ธุรกิจลีสซิ่งมีการแข่งขันที่ดุเดือดเลือดพล่านในเรื่องของดอกเบี้ย ซึ่งต่างค่ายต่างองค์กรล้วนแล้วแต่กดดอกเบี้ยให้ต่ำเพื่อแย่งชิงพื้นที่ส่วนแบ่งทางการตลาดให้มากที่สุด จนกลายเป็นว่าต่างฝ่ายต่างเน้นเรื่องปริมาณส่วนคุณภาพกลายเป็นเรื่องรองไปแล้วในปัจจุบัน ไม่เท่านั้นยังมีการแข่งขันในเรื่องของค่าคอมมิชชั่นให้กับทางเซล ซึ่งถ้าองค์กรใดยอมจ่ายให้สูงกว่ามีสิทธิพิเศษกว่า เซลจะส่งลูกค้าไปให้กับค่ายดังกล่าว ซึ่งการยอมจ่ายค่าคอมมิชชั่นที่สูงคือต้นทุนของผู้ประกอบการ ส่วนดอกเบี้ยที่กดให้ต่ำลงก็ทำให้กำไรน้อยลง
แม้ต้นทุนจะสูง มาร์จิ้นที่ได้ก็ต่ำ แต่ภาคธุรกิจลิสซิ่งก็ยอมที่จะเฉือนเนื้อตัวเอง ด้วยเหตุผลทางการแข่งขัน เพราะถ้าไม่ทำเหมือนกับคู่แข่งราบอื่นก็จะถูกแย่งฐานลูกค้าไป จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทำให้ธุรกิจทางด้านลีสซิ่งแข่งขันอย่างรุนแรงท่ามกลางเศรษฐกิจซึมลึก และดูเหมือนผู้ประกอบการค่ายต่างๆต้องทำใจที่จะยอมรับกับสภาพที่เกิดขึ้นอย่างกล้ำกลืนฝืนทน
แต่ดูเหมือน'เคทีบี ลีสซิ่ง'จะไม่กระเทือนต่อภาวะดังกล่าวมากมายนักแม้อัตราดอกเบี้ยสำหรับเช่าซื้อจะต่ำก็ตาม
ชุมพล กิตติชัยสมบัติ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจเช่าซื้อ เคทีบี ลีสซิ่ง เล่าว่า ปัจจัยที่ทำให้ เคทีบี ลีสซิ่ง กำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำได้ เพราะต้นทุนการดำเนินงานไม่สูง เนื่องจากไม่กระโจนแข่งไปกับผู้ประกอบการรายอื่นในเรื่องของการจ่ายค่าคอมมิชชั่นสูง
'สาขาของกรุงไทยและการให้พนักงานแบงก์ช่วยแนะนำผลิตภัณฑ์ของเราให้ลูกค้าก็เป็นการประหยัดต้นทุน เพระถ้าลูกค้าสนใจสินค้าของเรา ทางเราก็จะส่งคนเข้าไปคุย ตรงนี้เสมือนกับการใช้บุคคลกรให้คุ้มค่า เพราะอย่างไรกรุงไทยก็เป็นบริษัทแม่ของเราอยู่แล้ว ดังนั้นพนักงานเขาก็มีหน้าที่ช่วยซับพอร์ทเราด้วยเช่นกัน'
ชุมพล ยังบอกอีกว่า ในเรื่องของค่าคอมมิชชั่นทาง เคทีบี ลีสซิ่ง ไม่เข้าไปเล่นแข่งเหมือนรายอื่นๆ บริษัทให้ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้แต่ต้นไม่มีการจ่ายเพิ่มมากกว่าที่กำหนดไว้ แม้จะรู้มาว่าบางค่ายแอบจ่ายค่าคอมมิชชั่นต่างจากเรทที่ตกลงกันไว้แต่ต้นให้กับเซลหรือดีลเลอร์รถยนต์เพื่อดึงลูกค้าเข้าพอร์ตของตนเอง
'กับทางดีเลอร์เราถือว่าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ลูกค้าที่เราส่งไปให้เขาถือเป็นลูกค้าที่ดีมีความเสี่ยงต่ำ เพราะเป็นลูกค้าของกรุงไทยที่ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ มีรายได้ประจำ และลูกค้าที่คัดสรรสามารถเจาะความต้องการได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่ดีลเลอร์พันธมิตรต้องการ'
อย่างบริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ สำหรับกลุ่มผู้บริหารของหน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ และกลุ่มอาชีพพิเศษ ผู้พิพากษา อัยการ ตุลาการ แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ นักบิน กลุ่มเหล่านี้มีกำลังที่จะซื้อรถหรูได้ แถมมีความเสี่ยงต่ำ โดยเงื่อนไขพิเศษที่มีให้คือดาวน์0% นาน 84เดือน ดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 2.25% และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน
ข้อได้เปรียบของเราคือสามารถคัดสรรกลุ่มลูกค้าให้ได้ตามดีลเลอร์ต้องการ เนื่องจากแบงก์กรุงไทยมีฐานข้อมูลลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ ทำให้สามารถประเมินศักยภาพและความเสี่ยงของลูกค้าได้ ซึ่งชุมพล บอกว่า และด้วยฐานลูกค้าที่มีความเสี่ยงต่ำทำให้ เคทีบี ลีสซิ่ง สามารถโค้ดอัตราดอกเบี้ยในเรทที่ต่ำได้
'แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเพราะการแข่งขัน แต่ด้วยต้นทุนของเราไม่สูงมากจึงทำให้เรามีกำไรได้ตั้งแต่ปีแรกที่เปิดดำเนินธุรกิจ ลีสซิ่ง ที่สำคัญเราไม่ได้เน้นจะแข่งขันกับใคร เนื่องจากเราเองก็มีฐานลูกค้าของเราที่ต้องดูแลและให้บริการที่ครบวงจร'
อย่างเร็วๆนี้ เราเปิดตัวโครงการ สินเชื่อ KTBL Car for Cash โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นส่วนเติมเต็มบริการของธนาคารกรุงไทยให้สมบูรณ์ครบวงจร และตอบสนองในทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างลงตัวตามแนวคิดของการเป็น Convenience Bank หรือธนาคารแสนสะดวก ให้บริการครบวงจร ทั้งเช่าซื้อสินค้าอุปโภค บริการเช่าซื้อรถยนต์ บริการเช่าซื้อแบบลีสซิ่ง และบริการเช่ารถ เพิ่มไลน์ทางธุรกิจ
สินเชื่อ KTBL Car for Cash เป็นอีหนึ่งโครงการของผู้ที่มีกรรรมสิทธิรถยนต์เป็นของตัวเองที่ต้องการสภาพคล่องทางการเงินเร่งด่วน โดยสามารถมาใช้บริการดังกล่าวเพียงนำรถยนต์ที่เป็นเจ้าของมาเข้าร่วมโครงการ KTBL Car for Cash มีรถมีเงิน ด้วยการสามารถผ่อนชำระได้นานถึง 72 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 90% สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจที่มีบัญชีเงินเดือนผ่านบัญชีกรุงไทยเท่านั้น โดยโครงการนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2552
เงื่อนไขคุณสมบัติเบื้องต้นของลูกค้าที่สนใจสินเชื่อ KTBL Car for Cash ทางเคทีบี ลีสซิ่ง กำหนดไว้ว่าจะต้องเป็นข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่มีบัญชีเงินเดือนผ่านธนาคารกรุงไทย เป็นพนักงานของแบงก์กรุงไทย หรือบริษัทในเครือโดยต้องเป็นพนักงานประจำมีอายุ 20 ปีขึ้นไป โดยอายุรวมผ่อนชำระแล้ว อายุต้องไม่เกิน 60 ปี เปิดบัญชีกับแบงก์กรุงไทยไม่ต่ำกว่า 6 เดือน มีเงือนเดือนหรือรายได้สุทธิไม่ต่ำกว่า 10,000 บาทต่อเดือน และเฉลี่ย 6 เดือนย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 1.5 เท่าของค่างวด
กรณีที่ต่ำกว่า 1.5 เท่าของค่างวด แต่เมื่อหักชำระค่างวดรถยนต์ ให้นำรายได้คู่สมรสรวมรายได้ โดยรายได้รวมสุทธิไม่ต่ำกว่า 2 เท่าของค่างวด และลงนามเป็นผู้ค้ำประกันพร้อมกับมีเอกสารแสดงรายได้ประกอบการพิจารณา
ไม่มีประวัติการค้างชำระ หรืออยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายในฐานข้อมูล NCB และสถานะหนี้ปัจจุบันต้องเป็นปรกติ ชำระค่างวดโดยวิธีอายัดและหักบัญชีเงินฝากที่เงินเดือนผ่านแบงก์กรุงไทย
กลยุทธ์ของ 'เคทีบี ลีสซิ่ง' นั้นมานิ่งแต่กินเรียบ โดยเฉพาะในส่วนของฐานลูกค้ากรุงไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ซึ่งถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยเฉพาะถ้าเลือกกลุ่มลูกค้าได้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่บริษัทในเครือออกมาสนองความต้องการ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่สร้างความได้เปรียบได้กับ 'เคทีบี ลีสซิ่ง'
|
|
|
|
|