Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน28 กันยายน 2552
CIมั่นใจยอดรับรู้เติบโต5-10% เล็งซื้อที่ดินผุดโครงการต้นปี53             
 


   
www resources

โฮมเพจ ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์

   
search resources

ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์, บมจ.
สงกรานต์ อิสสระ
Real Estate




ชาญอิสสระฯเชื่อสิ้นปีอสังหาฯปรับตัวดีตามเศรษฐกิจ แต่ยังไม่วางใจจับตาสถานการณ์ใกล้ชิด ไตรมาส 1 ปีหน้าเตรียมซื้อที่ดินผุดโครงการใหม่ คาดปี 52 ยอดรับรู้รายได้เพิ่ม 5-10% จากสต๊อกบ้าน 4 โครงการ โอดกองทุนโรงแรมทำยาก คาดปีหน้าแล้วเสร็จพร้อมเสนอขายในตลาด

นายสงกรานต์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CI กล่าวว่า ผลกระทบจากวิกฤตการเงินและเศรษฐกิจโลกค่อนข้างมีผลมากกับแผนการพัฒนาโครงการใหม่ ของบริษัท แม้ว่าในช่วงครึ่งปีหลังนี้แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะดีขึ้น แต่บริษัทยังต้องจับตาดูทิศทางตลาดและกลุ่มนักลงทุนรวมถึงดีมานด์ในตลาดว่ากลุ่มใดจะมีทิศทางการฟื้นตัวมากที่สุด เพื่อเป็นตัวกำหนดการพัฒนาสินค้าว่าจะเน้นตลาดและลูกค้ากลุ่มใดก่อน คาดว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายนี้ หากไม่มีเหตุการณ์ด้านการเมืองเข้ามาจะทำให้เศรษฐกิจและตลาดฟื้นตัวเร็วขึ้น หากสถานการณ์ต่างๆ เป็นไปตามที่คาดการไว้ใน ช่วงต้นปีหน้า บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีกหนึ่งโครงการเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เริ่มฟื้นกลับมา

ส่วนแผนการออกกองทุนอสังหาริมทรัพย์นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ตลาด และอยู่ระหว่างการจัดทำกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (ฟันด์ดิ้ง)โดยจะนำโรงแรมในเครือบริษัทมาจัดตั้ง และเสนอต่อคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์(กลต.) พิจารณา ซึ่งคาดว่าการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จและพร้อมที่จะนำออกเสนอขายได้ในช่วงต้นปี 53

“การตั้งกองทุนโรงแรมนั้นมีความซับซ้อน และยุ่งยากมากกว่าการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์โดยตรง เนื่องจากจากต้องพิจารณาเรื่องภาวะ และตลาดท่องเที่ยวด้วย ซึ่งในช่วงเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา ตลาดท่องเที่ยวในภูเก็ตเริ่มกระเตื้อง และฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้วในบางส่วน โดยมีชาวต่างชาติทยอยกลับมาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในเดือน ก.ย.นี้ มีนักท่องเที่ยวคึกคักมากขึ้นและคาดว่าในช่วงต้นปีหน้าจะคึกคักมากกว่าขณะนี้” นายสงกรานต์กล่าว

สำหรับในช่วง 3 เดือนจากนี้ บริษัทยังเร่งงานด้านการก่อสร้างโครงการต่างอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถมอบโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าให้ได้ตามกำหนด โดยปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Back-log) จาก 4 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมอยู่ 2 โครงการ คือ โครงการดิอิสสระคอนโดมิเนียมบริเวณถนนลาดพร้าวมูลค่า 2,700 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว60% หรือมียอดขายแล้วประมาณ 1,000 ล้านบาท จะสามารถรับรู้รายได้จากยอดขายในปีนี้ประมาณ 500-600 ล้านบาท และคาดว่าจะสามารถปิดการขายโครงการได้ในช่วงปลายปี 53

ส่วนโครงการ อิสสระ@42 สุขุมวิท ซึ่งเป็นคอนโดสร้างเสร็จพร้อมโอน ยังเหลือพื้นที่ขายอีกเพียง 10 ยูนิต ราคา 7-8 ล้านบาทบริเวณถนนสุขุมวิทซอย 42 มูลค่า 460 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถปิดการขายและรับรู้รายได้ทั้งหมดในสิ้นปีนี้ สำหรับโครงการรีสอร์ต 2 โครงการได้แก่โครงการบ้านชานทะเล ชะอำ คอนโดตากอากาศแบบโรว์ไรส์ สูง 4 ชั้น 7 อาคาร ราคาเริ่มต้นที่ 2-17 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 50-270 ตร.ม. จำนวน 114 ยูนิต มูลค่า 1,400 ล้านบาทนั้นขณะนี้มียอดขายแล้ว 20% คาดว่าจะสามารถรับรูรายได้ในปี53 ส่วนโครงการศรีพันวา ภูเก็ต มูลค่า 2,700 ล้านบาท ที่มีจำนวนทั้งหมด 4 เฟส ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งงานก่อสร้างในเฟสที่ 4 โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรมนั้นขณะนี้สามารถดำเนินการได้ทั้ง100% แล้ว

“CI ประมาณการว่าในปีนี้จะสามารถทำยอดรับรู้รายได้เติบโตจากปีที่ผ่านมา5-10 % จากปีที่ผ่านมา จากการรับรู้รายได้ในโครงการที่ทยอยมอบอยู่ในปัจจุบันทั้ง4โครงการ”

สำหรับแผนการพัฒนาที่ดินแปลงใหญ่ของบริษัทในย่านแนวรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์นั้น บริษัทยังต้องศึกษาตลาดและดูแนวโน้มความต้องการรวมถึงกลุ่มลูกค้าว่าจะพัฒนาสินค้ากลุ่มใดออกมาก่อน เนื่องจากมั่นใจว่าภายหลังการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายดังกล่าวในวันที่ 5 ธ.ค.52นี้ จะทำให้ศักยภาพของที่ดินในแนวรถไฟฟ้าดังกล่าวสูงขึ้น และจะมีดีมานด์ ส่วนหนึ่งที่รอหาซื้อที่อยู่อาศัยในแนวรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์อยู่แล้ว และหากเปิดดำเนินการจะทำให้ดีมานด์ขยายตัวขึ้นอีก โดยที่ดินแปลงดังกล่าวบริษัทมีแผนจะพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียมประเภทโรว์ไรส์ เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการอยู่อาศัยในแนวรถไฟฟ้าเพื่อสะดวกในการเดินทางเข้าสู่แหล่งงาน แต่อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะสามารถพัฒนาโครงการในที่ดินแปลงดังกล่าวในช่วงใด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us