|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ แจงผลงานไตรมาส 3 ทะลุเป้า เหตุออร์เดอร์เพียบรับรู้รายได้เต็ม ๆ อีกทั้งโรงงานแห่งใหม่เดินเครื่อง ส่งผลให้กำลังผลิตรับออร์เดอร์ทัน ฟุ้งปีนี้ล้างขาดทุนสะสมได้หมด ชี้ครึ่งปีหลังงบออกมาสวยมากเหตุช่วงพีคของธุรกิจ ด้านโบรกฯ เชียร์ซื้อเก็งกำไร ราคาเป้าหมายใหม่ 3.36 บาท เหตุผลงานออกมาดีเกินคาดเชื่อฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด และปี 53 ผลงานจะดีต่อเนื่อง
นายปัญจะ เสนาดิสัย กรรมการ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ KCE เปิดเผยว่าผลงานไตรมาส 3 ปีนี้ จะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 มากกว่า 25% เนื่องจากออร์เดอร์ใหม่ ๆ เริ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องซึ่งเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่เกิดภาวะวิกฤตของเศรษฐกิจทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 51
โดยผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ทำให้ความต้องการใช้สินค้ามีมากขึ้น ขณะที่บริษัทเองก็เน้นควบคุมต้นทุนการดำเนินงานให้ต่ำลง ด้วยการจัดระบบงานให้เกิดประสิทธิภาพและใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรที่ทันสมัย ทำให้คุมต้นทุนได้ดีขึ้น ดังนั้น เมื่อยอดขายเติบโตมาร์จิ้นขยับเพิ่มและผ่านจุดคุ้มทุนไปแล้วจะทำให้ผลงานออกมาดีมีกำไรงาม
" เราประเมินว่ายอดขายเราปีนี้จะได้ถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ขณะนี้มั่นใจว่าเป้าที่ 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐเราทำได้ถึงแน่ แต่จะไปถึง 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับออร์เดอร์ใหม่ที่จะเข้ามาซึ่งไตรมาส 3 ของเราดีมาก แต่ยังบอกตัวเลขที่ชัดเจนไม่ได้ บอกได้เพียงว่าสูงกว่าที่คาดไว้พอสมควร ที่เหลือคือไตรมาสสุดท้ายต้องมาดูกันอีกทีว่าออร์เดอร์จะเข้ามามากน้อยเพียงใด "
นอกจากนี้ KCE ยังได้เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีก จากการเปิดโรงงานของโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเปิดเดินเครื่องไปแล้ว และจะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนนี้ เพื่อรองรับออร์เดอร์ที่มีเข้ามาเพิ่มขึ้น ซึ่งการโรงงานแห่งใหม่ จะมีกำลังการผลิตวันละ 4.5 แสนตารางฟุตต่อวัน เมื่อรวมกับกำลังการผลิตเดิมจะส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของบริษัทเพิ่มเป็นทั้งสิ้น 1.4 ล้านตารางฟุตต่อวัน
นายปัญจะกล่าวต่อว่า จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นทำให้บริษัทคาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมได้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีตัวเลขขาดทุนสะสมอยู่ 120 ล้านบาท และจากผลงานไตรมาส 2 ที่มีตัวเลขกำไรเข้ามาแล้วเกือบ 5 ล้านบาท บวกกับผลงานครึ่งปีหลังที่มั่นใจว่าจะดีขึ้นต่อเนื่อง จนน่าจะส่งผลให้ผลประกอบการทั้งปีนี้จะออกมามีกำไรได้
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปีนี้พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 4.93 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 101.36 ล้านบาท แม้ว่ายอดขายตามงบการเงินรวมสำหรับไตรมาส 2 ปี 52 มี 1,292.1 ล้านบาท( 37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งลดลงจากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 2,021.7ล้านบาท ( 63 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ) แต่หากเทียบกับไตรมาส 1 ปีนี้ ยอดขายรวมในไตรมาส 2 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 19 % ( เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ) ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นก็ปรับตัวสูงขึ้นมาก ทั้งนี้ เป็นผลมาจากการที่มีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 70% และในการผลิตยังได้ใช้วัตถุดิบที่ซื้อเข้ามาใหม่ซึ่งมีราคาถูกลงด้วย รวมทั้งมีการใช้มาตรการต่าง ๆ ในการควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมีกำไรจากการขายที่ดินของบริษัทฯ แต่ก็มีผลขาดทุนจากที่เป็นรายจ่ายคงที่ของบริษัทย่อย เคซีอี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งอยู่ในระหว่างการหยุดดำเนินงานชั่วคราวด้วย
ก่อนหน้านั้น KCE ได้ซื้อหุ้นคืน ( Treasury Stock ) เพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงิน 50 ล้านบาทเพื่อซื้อหุ้นคืน 46 ล้านหุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น 9.95 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ขณะราคาหุ้นอยู่ที่ 1.58 บาท เพราะราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีและเพิ่มสภาพคล่อง
อย่างไรก็ดี ราคาหุ้น KCE ระยะนี้ปรับเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง หลังประกาศผลงานไตรมาส 2 ออกมาแล้วพบว่าฟื้นกำไรขณะที่ปีก่อนขาดทุน ทำให้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากขึ้น ดันราคาหุ้นขยับไปเทรดเหนือราคา 2 บาทได้และราคาหุ้นเมื่อ 25 ก.ย.ที่ผ่านมา บวกต่อเทรดที่ 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.04บาท หรือ1.31% ด้วยมูลค่าซื้อขายช่วงเช้า 37 ล้านบาทและไม่เพียงแต่ KCE เท่านั้น หุ้นที่อยู่ในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดเห็นได้จากราคาหุ้นเขียวยกแผง ซึ่งเป็นไปตามการฟื้นตัวของเศรฐกิจโลก ส่งผลให้ออร์เดอร์กลับมาหลังจากซบเซาจากปีก่อน
บทวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย ) ประเมินภาพรวมของ KCE โดยแนะนำใหม่ให้ "ซื้อเก็งกำไร " ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 3.36 บาท จากเดิม 2.36 บาท เนื่องจากเชื่อว่าแนวโน้มฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด ซึ่งราคาเป้าหมายใหม่ 3.36 บาท (อ้างอิง P/E ปีหน้า 7 เท่า)
โดยแนวโน้มการฟื้นตัวกำไรเดือน ก.ค.-ส.ค. นั้นเร็วกว่าที่เคยคาดไว้จากทั้งมาตรการควบคุมต้นทุนอย่างเข้มงวด และ ประมาณการยอดขายไตรมาส 3/52 ที่มีการขยายตัวในอัตราราว 30% จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องมาจากคำสั่งซื้อจากลูกค้ากลุ่มยานยนต์ที่ฟื้นตัวและผลประโยชน์จากการที่คู่แข่งในยุโรปประสบปัญหาทางการเงินและมีการปิด โรงงานบางแห่งไป ผู้บริหารของบริษัทยังคงคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะสามารถฟื้นตัวไปสู่ระดับ 20% ได้ ส่งผลให้อัตรากำไรดีขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี53 แนวโน้มลดลงของอัตราของเสีย การเพิ่มสัดส่วนสินค้า high-end หรือ PCB ที่มีจำนวน 6 ชั้นขึ้นไป และการประหยัดต่อขนาดเมื่อยอดขายเพิ่มขึ้น
กิมเอ็งฯ คาดหมายว่าผลประกอบการ KCE จะพลิกมามีกำไร 65 ล้านบาทในครึ่งหลังปี 52 รวมทั้งปรับประมาณการผลประกอบการทั้งปี 52 จากเดิมขาดทุนปกติ 114 ล้านบาทเหลือขาดทุนปกติ 39 ล้านบาท และคาดว่าปี 53 ยอดขายจะฟื้นตัว 24% จากปีนี้เป็น 7.1 พันล้านบาทหรือ 208 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากทั้งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมและแนวโน้มการได้รับคำสั่งซื้อในส่วนที่ลูกค้าเคยสั่งจากคู่แข่งซึ่งปัจจุบันมีปัญหาการเงินรุนแรง จะเป็นผลดีต่อบริษัท
|
|
|
|
|