Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTVผู้จัดการรายวัน29 กันยายน 2552
"บัวหลวง"รับสินเชื่อปีนี้พลาดเป้า             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงเทพ

   
search resources

ธนาคารกรุงเทพ, บมจ.
เดชา ตุลานันท์
Banking and Finance




แบงก์กรุงเทพยืดอกรับสินเชื่อปีนี้ไม่เข้าเป้าจากที่ตั้งไว้ 5% คาดโตได้แค่ 3-4% เหตุลูกค้าส่งออกฟุบ เอกชนแตะเบรกขยายการลงทุน แต่ยังมีลุ้นโค้งสุดท้ายของปีหวังขอมีเอี่ยวปล่อยกู้ 3 ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์"ฟอร์ด-ซูซูกิ-จีเอ็ม"ที่จะย้ายฐานมาลงทุนไทย ด้านการขายสินเอเซียยังไม่คืบรอคลังชี้ขาด

นายเดชา ตุลานันท์ รองประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL) เปิดเผยถึงการขยายตัวสินเชื่อรวมของธนาคารทั้งปี 2552 ว่า ไม่น่าจะได้ตามเป้าหมายที่ธนาคารวางไว้เมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ตั้งไว้ 5% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่มีการชะลอตัวลง ส่งผลให้นักลงทุนทั้งคนไทยและต่างประเทศยังไม่มีขยายการลงทุนออกไป จึงไม่มีการขอหรือเบิกจ่ายสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ แม้ว่าธนาคารจะมีความต้องการที่จะปล่อยสินเชื่อ แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่ายอดการปล่อยสินเชื่อจะเติบโตได้ประมาณ 3-4% โดยได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าเกษตรประเภท ข้าว น้ำตาล ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้ามาช่วยให้ยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารได้ในระดับดังกล่าว

“ต้องยอมรับว่าสินเชื่อรวของธนาคารปีนี้ทั้งปีพลาดเป้าหมายแน่นอน เพราะเศรษฐกิจย่ำแย่ ลูกค้าที่ทำธุรกิจส่งออกก็ได้รับผลกระทบ ซึ่งยอดการปล่อยสินเชื่อของธนาคารจนถึงขณะนี้ก็ยังถือว่าอยู่ในอัตราที่น้อยอยู่แต่ก็ไม่ถึงขั้นร้ายแรงจนน่ากลัวอะไร แต่เราหวังว่าสิ้นปีนี้ยอดสินเชื่อน่าจะโตได้ 3-4% และธนาคารก็จะไม่มีการปรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อปีนี้” นายเดชา กล่าว

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของธนาคารในปี 2553 นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการวางแผนและยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ในการกำหนดเป้าหมายของธนาคารนั้น จะต้องมีการวางแผนว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรในการทำธุรกิจ และมองถึงภาพรวมในอนาคตด้วย ซึ่งประเมินว่าอุตสาหกรรมการเกษตรที่เกี่ยวกับอาหารแปรรูป และอุตสาหกรรมรถยนต์ประเภทชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ น่าจะมีการเติบโตได้ดีในปีหน้า

สำหรับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย ธนาคารมองว่ายังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากการฟื้นตัวในปัจจุบันไม่ได้เกิดจากภาคเอกชน แต่เกิดจากการอัดฉีดเม็ดเงินของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งเงินส่วนนี้ไม่สามารถคงทนได้ตลอด ดังนั้น จึงต้องติดตามสถานการณ์ภายหลังจากหากมาตรการดังกล่าวสิ้นสุดลง แต่ขณะนี้มองว่ารัฐบาลไทยพยายามอย่างเต็มที่อยู่แล้วที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี สิ้นปีนี้ภาวะเศรษฐกิจน่าดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มยานยนต์ขนาดใหญ่ เช่น บริษัทฟอร์ด ซูซูกิ และจีเอ็มมอเตอร์ ที่มีแผนจะย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยและมีมูลค่าโครงการดังกล่าวประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยในส่วนของธนาคารก็มีความพร้อมในการสนับสนุนสินเชื่อให้อยู่แล้ว และเชื่อว่าจะมีส่วนแบ่งในการปล่อยสินเชื่อด้วย ซึ่งการที่กลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ทั้งสามมีแผนเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ไปร่วมประชุมจี 20 ซึ่งสามารถเรียกความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนได้

ย้ำขายACLรอคลังชี้ขาด

นายเดชายังกล่าวถึงกล่าวถึงกรณีที่ประธานธนาคารอินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า หรือ ICBC เข้ามาเจรจาการซื้อหุ้นธนาคารสินเอเซีย จำกัด (มหาชน) (ACL)กับกระทรวงการคลัง ว่าทราบข่าวมาพอสมควรถึงการเข้ามาเจรจาของ ICBC แต่ยังไม่มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ โดยเรื่องดังกล่าวเป็นอำนาจการตัดสินใจของกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยธนาคารกรุงเทพก็พร้อมที่จะทำตามนโยบายที่กระทรวงการคลังตัดสินใจ

“ได้ยินว่าเขามาแต่เรายังไม่ได้คุยอะไร เพราะอยู่ที่กระทรวงการคลังว่าจะเอาอย่างไร ถ้ากระทรวงการคลังโอเค เราก็โอเค แล้วเราจึงค่อยโอเวอร์ดีล ซึ่งเข้าใจว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เขาอยากเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ต้องการ 75% แต่ผมยังไม่แน่ใจ ส่วนจะดีลเสร็จเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เพราะธนาคารกรุงเทพก็เป็นช้างเท้าหลัง” นายเดชากล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us